ห้องเม่าปีกเหล็ก

หุ้นกลุ่ม Healthcare 2026: “หลุมหลบภัย” ที่ยังโตได้ ถ้าเลือกถูกหมวด

โดย ในหุบเขา
เผยแพร่ :
82 views

หุ้นกลุ่ม Healthcare 2026: “หลุมหลบภัย” ที่ยังโตได้ ถ้าเลือกถูกหมวด

ปี 2026 ถ้าตลาดยังแกว่งจากดอกเบี้ย เศรษฐกิจชะลอ หรือ AI มีรอบพักฐาน…หุ้น Healthcare มักกลับมาเด่น เพราะมันมี 2 คุณสมบัติที่หาได้ยากในยุคนี้

รายได้ผูกกับ “ความจำเป็น” มากกว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภค

ขณะเดียวกันยังมี “นวัตกรรม” ที่สร้างอัปไซด์ได้จริง (ยาใหม่, อุปกรณ์แพทย์, เทคชีวภาพ)

โพสต์นี้ผมสรุปตาม “6 หมวด” ในภาพ เพื่อให้คุณดูพอร์ตได้เป็นระบบ และรู้ว่าแต่ละตัวควรถูกประเมินด้วยเลนส์แบบไหน

..

 

1) บริษัทยาข้ามชาติ: Cash Flow + Pipeline คือคอนกรีตของพอร์ต

หุ้นในกลุ่มนี้คือแกน “ถือแล้วหลับได้” ของ Healthcare เพราะมีรายได้จากยาหลัก + ยาใหม่ทยอยเข้ามา

ABBV (AbbVie)

JNJ (Johnson & Johnson)

AZN (AstraZeneca)

“NVA” (ตามภาพ) แนะนำให้เช็กตัวย่ออีกครั้งก่อนอ้างอิง เพราะชื่อ/ติ๊กเกอร์คล้ายหลายบริษัท

 

มุมมองปี 2026 ที่ต้องจับ

สิ่งที่ต้องดูไม่ใช่แค่ “ยาขายดี” แต่คือ “ช่องว่างหลังยาหมดสิทธิ์” ว่าบริษัทมีตัวใหม่มาทดแทนได้แค่ไหน

วัดความแข็งแรงด้วย “กระแสเงินสด” + “ความหลากหลายของพอร์ตยา” + “ความต่อเนื่องของการอนุมัติยา”

 

สัญญาณบวกของหมวดนี้

ถ้าเกิด market risk-off หุ้นยาข้ามชาติมักรับแรงกระแทกได้ดีกว่าหุ้นโตแรง

ถ้า pipeline มีข่าวดี 1–2 ตัว สามารถกลายเป็น catalyst ที่ชนะตลาดได้เลย

..

2) ยาลดน้ำหนัก: ธีมใหญ่ระดับโลก แต่ต้องคุม “ความคาดหวัง”

นี่คือหมวดที่ตลาดรักที่สุดในฝั่ง Healthcare เพราะมันไม่ใช่ “ยา” อย่างเดียว แต่มันกระทบทั้งระบบสุขภาพ

LLY (Eli Lilly)

NVO (Novo Nordisk)

VKTX (Viking Therapeutics)

ALT (Altimmune)

 

มุมปี 2026 ที่ต้องจับ

เกมจริงอยู่ที่ “กำลังการผลิต” + “การเข้าถึงผู้ป่วย” + “สัดส่วนการจ่ายเงิน/ประกัน”

สำหรับรายเล็ก เกมคือ “ผลลัพธ์คลินิก” + “ความปลอดภัย” + “เส้นทางสู่เชิงพาณิชย์”

ความเสี่ยงที่หลายคนมองข้าม

ถ้าทุกคนแห่ให้ค่า Valuation แบบ “ชนะรวด” แต่ supply/การเข้าถึงยังติดขัด หุ้นสามารถพักฐานแรงได้

ข่าวผลข้างเคียงหรือการแข่งขันรุ่นถัดไป อาจทำให้ผู้นำวันนี้ถูกท้าทายเร็วกว่าที่คิด

..

3) เทคโนโลยีชีวภาพศักยภาพสูง: โอกาสแบบ 10 เด้งก็มี แต่ต้องรับความผันผวนให้ได้

นี่คือหมวด “นวัตกรรมล้วน” ตลาดให้รางวัลแรงเมื่อผลทดลองดี และลงแรงเมื่อผิดหวัง

NTLA (Intellia)

BEAM (Beam Therapeutics)

CRSP (CRISPR Therapeutics)

ABCL (AbCellera)

 

มุมปี 2026 ที่ต้องจับ

ดู “เหตุการณ์สำคัญ” เป็นรายไตรมาส เช่น อ่านผลทดลอง, FDA interaction, partner deal

ใช้กรอบคิด 3 คำถาม

เทคนี้แก้ปัญหาที่ใหญ่พอไหม

มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย/ประสิทธิผลแค่ไหน

เงินสดพอวิ่งต่อกี่ไตรมาส (Cash runway)

วิธีถือหมวดนี้ให้รอด

ให้เป็น “สัดส่วนดาวเทียม” ไม่ใช่แกนพอร์ต

ซื้อด้วยตรรกะ event-driven ไม่ใช่เชียร์ตามกระแส

..

4) อุปกรณ์การแพทย์: ธุรกิจคุณภาพสูงของจริง วงจรยาว และกำไรดี

หมวดนี้เหมือน “Industrial ที่ผูกกับสุขภาพ” คือดีมานด์ยาว และมี switching cost

BSX (Boston Scientific)

ISRG (Intuitive Surgical)

ILMN (Illumina)

SYK (Stryker)

 

มุมปี 2026 ที่ต้องจับ

รายได้โตตาม “จำนวนเคส” + “การอัปเกรดเครื่อง/อุปกรณ์” + “รายได้ซ้ำจาก consumables”

จุดแข็งสำคัญคือ brand trust, surgeon adoption, และ ecosystem ในโรงพยาบาล

อ่านเกมของแต่ละตัวแบบเร็ว

ISRG เด่นที่ “ระบบ” มากกว่าเครื่อง — ยิ่งมีเคสมาก รายได้ยิ่ง compound

BSX/SYK โดดเด่นด้านสินค้าเฉพาะทางและเครือข่ายขาย

ILMN เป็นธีมเครื่องมือ/การตรวจที่ตลาดคาดหวังการฟื้นตัว ต้องโฟกัสทิศทางธุรกิจและความสามารถกลับมาโต

..

5) ประกันสุขภาพ: Defensive จริง แต่ต้องระวัง “ความเสี่ยงต้นทุนรักษา”

หมวดนี้เหมือนธนาคารของระบบสุขภาพ รายได้มั่นคง แต่แพ้ทาง “ต้นทุนเคลมพุ่ง”

UNH (UnitedHealth)

CVS (CVS Health)

OSCR (Oscar Health)

 

มุมปี 2026 ที่ต้องจับ

Medical Cost Ratio / อัตราเคลม เป็นตัวกำหนดกำไร

การเติบโตสมาชิก + การต่อสัญญา + การบริหารต้นทุน คือเกมหลัก

ข้อสังเกตสำคัญ

หุ้นประกันไม่ได้ขึ้นเพราะ “เรื่องเล่า” แต่มาจากวินัยตัวเลข

ถ้าต้นทุนรักษาผิดคาด ตลาดลงโทษเร็วมาก

..

6) องค์กรวิจัยตามสัญญา + เครื่องมือวิทย์: “ขายจอบขายเสียม” ของ R&D

ถ้าคุณเชื่อว่าวงการยา/ชีวภาพยังลงทุนต่อเนื่อง หมวดนี้ได้ประโยชน์แบบโครงสร้าง

TMO (Thermo Fisher)

DHR (Danaher)

IQV (IQVIA)

MEDP (Medpace)

 

มุมปี 2026 ที่ต้องจับ

ออเดอร์และ backlog ของงานวิจัย/ทดสอบ

ความสามารถรักษามาร์จิ้น และวงจรการฟื้นตัวของงบ R&D

เหตุผลที่หมวดนี้น่าสนใจในพอร์ต

คุณไม่ได้เดิมพันว่า “ยาตัวไหนชนะ” แต่เดิมพันว่า “ทั้งอุตสาหกรรมยังทำวิจัยต่อ”

เป็นการกระจายความเสี่ยงจากความสำเร็จรายโปรเจกต์

..

วิธีจัดพอร์ต Healthcare ให้ “นิ่งแต่มีอัปไซด์”

Core (กันพอร์ต) = บริษัทยาข้ามชาติ + อุปกรณ์การแพทย์ + เครื่องมือวิทย์

Satellite (เพิ่มแรงส่ง) = ยาลดน้ำหนัก (เลือกผู้นำ/เลือก event) + เทคชีวภาพศักยภาพสูง

Hedge เชิงระบบ = ประกันสุขภาพ (แต่ต้องติดตามต้นทุนอย่างใกล้ชิด)

..

PRB Insight

Healthcare ไม่ได้เป็น “กลุ่มเดียว” แต่มันคือ 6 ธุรกิจคนละเกม

ยา = เกม pipeline และสิทธิ์ยา

ลดน้ำหนัก = เกม supply + การเข้าถึง + ความคาดหวัง

biotech = เกม event และเงินสด

devices

..

Disclaimer

ข้อมูลเพื่อการศึกษา ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน ผู้ลงทุนควรตัดสินใจด้วยตนเอง และยอมรับความเสี่ยงทุกกรณี

 

ที่มาเนื้อหาจาก..  หุ้นพอร์ทระเบิด


ในหุบเขา