เปิดคาดการณ์ไตรมาส 3/65 หุ้นกลุ่มแบงก์
สำรองลด-สินเชื่อเพิ่ม ดันกำไรรวมโต 4.4 หมื่นล้านบาท

.
เข้าใกล้ช่วงจะประกาศงบไตรมาส 3/65 แล้ว ซึ่งเป็นธรรมเนียมว่าทีมงาน Wealthy Thai ต้องนำคาดการณ์แนวโมหุ้นกลุ่มธนาคาร ซึ่งเป็นหุ้นกลุ่มแรกที่จะประกาศผลประกอบการมานำเสนอนักลงทุน โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ในเชิงบวกว่า 8 หุ้นกลุ่มธนาคารจะมีกำไรสุทธิไตรมาส 3/65 อยู่ที่ 4.4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 1% จากไตรมาสก่อนหน้า จากการตั้งสำรองที่ลดลง และรายได้ดอกเบี้ยสิทธิที่เพิ่มขึ้นตามสินเชื่อที่เติบโต พร้อมยังแนะนำให้เข้าลงทุน จาก valuation ที่ถูก และยกให้ KBANK และ KTB เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มฯ
.
นักวิเคราะห์จากบล.ดาโอ (ประเทศไทย) ระบุว่า คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/65 ของหุ้นธนาคาร 8 แห่ง ได้แก่ KBANK, SCB, BBL, KTB, TTB, KKP, TISCO และ LHFG อยู่ที่ 4.4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 1% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยกำไรที่เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/64 ส่วนใหญ่เกิดจากการตั้งสำรองฯ ที่ลดลงเนื้องจากช่วงไตรมาส 3/4 มีการตั้งสำรองฯในระดับสูง และอีกส่วนมาจากการที่ TTB มี OPEX ลดลงเพราะไม่มี Integration cost แล้ว ส่วนกำไรเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/65 เกิดจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นตามสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นได้ดี ขณะที่มีกำไรจากเงินลงทุนลดลงตามสภาวะตลาดหุ้นที่ชะลอตัวลง
.
ทั้งนี้ คาดว่าธนาคารที่กำไรสุทธิจะเติบโตทั้งได้จากไตรมาส 3/65 และไตรมาส 2/64 คือ ธนาคารขนาดใหญ่อย่าง BBL, KBANK และ SCB โดยเป็นการเติบโตจากสำรองฯ ที่ลดลงเป็นหลัก ขณะที่ธนาคารที่มีกำไรสุทธิเติบโตได้โดดเด่นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเรียงจากมากไปน้อยคือ KTB เติบโต 52%, TTB เติบโต 30.6% และ KKP เติบโต 30.5% และ KBANK เติบโต 30.2% ส่วนใหญ่เกิดจากสำรองฯ ที่ลดลงเป็นหลัก ส่วน TTB เติบโตได้ดีเพราะไม่มี Integration cost เข้ามากดดันแล้ว
.
ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) รวมในไตรมาส 3/65 คาดอยู่ที่ 3.13% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาส 2/65 ที่ 3.04% จากการเปิดประเทศมากขึ้น และมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ต่ออายุถึงเดือนธ.ค. 2566 อย่างไรก็ตาม บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ยังคงประมาณการกำไรสุทธิของกลุ่มธนาคารปี 2565 จะเติบโตที่ 13% จากปีก่อน เพราะแนวโน้มสำรองฯ ที่ลดลงจากการที่ตั้งสำรองเผื่อฯ มาเยอะแล้วในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
.
ส่วนราคาหุ้นกลุ่มธนาคาร เคลื่อนไหว in line กับ SET ในช่วง 3 เดือน โดยฝ่ายวิจัยยังคงน้ำหนักการลงทุน "มากกว่าตลาด" จากการปรับดอกเบี้ยขึ้น โดย BBL เป็นธนาคารแรกที่ปรับอัตราดอกเบี้ยทั้งเงินกู้และเงินฝากขึ้น และคาดว่าธนาคารอื่นๆจะทยอยปรับขึ้นเช่นกัน ด้าน valuation ยังถูก เทรดที่ระดับเพียง 0.70x PBV โดยฝ่ายวิจัยชอบ KBANK แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 190.00 บาท เพราะสินเชื่อภาคท่องเที่ยวฟื้นตัวดี และเป็นธนาคารที่เดินหน้าสู่การเป็นผู้นำด้าน digital ต่อเนื่อง และ KTB แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 18.00 บาท เพราะ valuation ปัจจุบันยังอยู่ที่ระดับต่ำเพียง PBV ที่ 0.65x (กลุ่มธนาคารซื้อขายที่ 0.70x และมี upside จากการใช้ data ใน application เป๋าตัง