CPF ยังมีแรงกดดันจากต้นทุนที่สูง

CPF ยังมีแรงกดดันจากต้นทุนที่สูง

แนวโน้มยังท้าทายข้างหน้า เราเข้าร่วมการประชุมทางโทรศัพท์ของนักวิเคราะห์หลังประกาศผลประกอบการในวันที่ 12 พ.ค. ผู้บริหารมีความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนของธุรกิจฟาร์มที่เพิ่มขึ้นและต้นทุนทางการเงินที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ในขณะที่การเพิ่มขึ้นของราคาผลิตภัณฑ์ถูกจำกัดจากอุปสงค์ที่ฟื้นตัวอย่างช้าๆ ดังนั้นผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2566 จึงน่าจะยังคงอยู่ภายใต้ความกดดัน

สำหรับประเทศไทย ธุรกิจไก่เนื้อกำลังดีขึ้นจากอุปสงค์การส่งออกที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ธุรกิจสุกรในประเทศคาดว่าจะฟื้นตัวในครึ่งหลังของปี 2566 จากการปราบปรามการลักลอบนำเข้าชิ้นส่วนเนื้อหมูซึ่งน่าจะช่วยหนุนราคาขาย

สำหรับประเทศเวียดนาม กำลังซื้อของผู้บริโภคค่อนข้างอ่อนแอจากผลกระทบของเศรษฐกิจที่ชะลอตัว แม้ว่าราคาสุกรเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้น 8-10% QoQ ในไตรมาส 2/66 เป็นประมาณ 54,000 – 55,000 เวียดนามดง/กก. ในขณะที่ต้นทุนอาหารสัตว์ก็เพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกัน

สำหรับประเทศจีน แม้อุปสงค์จะฟื้นตัว แต่ราคาสุกรปัจจุบันที่ 14-15 หยวน/กก. ก็ยังต่ำกว่าต้นทุนการเลี้ยงที่ 16-18 หยวน/กก. เนื่องจากมีอุปทานสุกรที่เข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ผลประกอบการคาดว่าจะยังคงขาดทุนในไตรมาส 2/2566 แต่คาดว่าจะดีขึ้น QoQ

แนวโน้มราคาวัตถุดิบ ผู้บริหารของ CPF ให้ความเห็นว่าต้นทุนวัตถุดิบเฉลี่ยสำหรับอาหารสัตว์มีแนวโน้มทรงตัวระดับสูงในปี 2565 ซึ่งหมายความว่าน่าจะค่อย ๆ อ่อนตัวลงในครึ่งหลังของปี 2566

มุมมอง KS

คงคำแนะนำ “ถือ” เราคงคำแนะนำ “ถือ” สำหรับ CPF ด้วยราคาเป้าหมายที่ลดลงเป็น 22.2 บาท จาก 24.3 บาท จากการประเมินมูลค่าอิงวิธีรวมส่วนธุรกิจ (SOTP) ประกอบด้วย 0.4 บาท/หุ้น สำหรับธุรกิจหลักที่ตรึงไว้ที่ 2.0 SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PER ล่วงหน้าในอดีตของ SETAGRI