สาเหตุของความล้มเหลว
- คนที่ชอบถามเพื่อนว่า "เล่นตัวไหนดี"
- คนที่ชอบไปฟังสัมนาเพื่อหาหุ้นเด็ด แต่ไม่ฟังวิธีการ .. สัมนา 1 ชั่วโมง ประเด็นสำคัญอยู่ที่ 50 นาทีแรกคือหัวใจของการเล่นหุ้น วิธีการค้นหาหุ้น แต่คนทั่วไปฟังแค่ 10 นาทีสุดท้าย คือ มีหุ้นเด็ดตัวไหนบ้าง เล่นแบบนี้เจ๊งแน่
- จังหวะซื้อหุ้น สำคัญกว่าจังหวะขาย .. ซื้อหุ้นถูกจังหวะ ขายตรงไหนก็กำไร แต่ซื้อผิดจังหวะ ขายตรงไหนก็ขาดทุน
- ทำอะไรให้มันง่ายๆเข้าไว้ เช่น ใช้กราฟแบบง่ายๆ เครื่องมือไม่ต้องเยอะเกิน ยิ่งใช้วิธีซับซ้อนมากเท่าไร ยิ่งพลาดมากเท่านั้น
- ประสบการณ์สำคัญมาก มือใหม่ควรซื้อหุ้นน้อยๆไว้ก่อน เล่นน้อยๆไว้ก่อน ลองฝีมือไป ลองวิธีการไป เหมือนชกมวยบนเวที เราไม่จำเป็นต้องชกคู่ต่อสู้ให้ล้ม แค่ยืนเต้นฟุตเวิร์คไม่ให้คู่ต่อสู้ชกเราให้ล้มสำคัญกว่า
- อย่ามีหุ้นหลายตัวในพอร์ต เราจะดูแลไม่ทัน
- นิสัยนักลงทุนส่วนใหญ่"กล้าเสีย ไม่กล้าได้" เราต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง คือ ถ้ากำไรแล้วต้องกล้าถือ Let profit run ถ้าผิดทางต้องกล้าตัดขาดทุน แต่นักลงทุนส่วนใหญ่กลับทำตรงกันข้าม อย่าลืมว่าหัวใจของการเล่นหุ้นคือ การถือเมื่อมีกำไร และต้องตัดขาดทุนเมื่อเราผิดทาง
- แต่ผิดทางบ่อยเกินไปก็ไม่ดี แบบนี้ทำพอร์ตเสียหาย เพราะชีวิตจริงเราไม่ได้มีโอกาสบ่อยๆให้คัตลอส พอร์ตจะเล็กลง เงินจะหายไปเรื่อยๆ เราต้องแก้ที่วิธีการ เช่น จุดซื้อเราซื้อช้าไปหรือเปล่า เราต้องซื้อเร็วขึ้นไหม เป็นต้น ทำยังไงก็ได้ไม่ให้ตัดขาดทุนบ่อยเกินไป
- หาหุ้นเองไม่เป็น ดูกราฟไม่ได้ "หุ้นที่เอามาจากเพื่อน" ทำนักลงทุนเสียหายมากที่สุด
- ชอบไล่หุ้น ชอบไล่ราคาหุ้น ห้ามใจตัวเองไม่ได้
- ได้แล้วไม่รู้จักพอ
- ซื้อทีเดียวหมดหน้าตัก อันนี้ไม่รู้จักการบริหารพอร์ต อันนี้เจ๊งแน่
- ซื้อขายบ่อยครั้ง ซื้อเช้าขายบ่าย ซื้อบ่ายขายเช้า
- ชอบของถูก อะไรที่ลงมาเยอะๆคิดว่าจะรีบาวน์ ก็เลยเข้าไป ปรากฏว่ามันลงต่อ
- เล่นหุ้นเหมือนหวย ใช้ความรู้สึกเล่น อันนี้ก็เจ๊งได้
- ใช้เส้นกราฟมากเกินไป ใช้คลื่นอีเลียตเวฟแบบนี้ มันซับซ้อนเกินไป
- หาสไตล์ของตัวเองให้เจอ แต่ส่วนใหญ่จบที่กว่าจะหาสไตล์ตัวเองเจอ มักจะเงินหมดซะก่อน ...