กฎของเงิน
รู้หรือไม่ว่าเงินที่เราใช้อยู่ในชีวิตประจำวันก็มีกฎของมัน ซึ่งเราเรียกว่า “กฎของเงิน”
ไม่ว่าจะทำอะไร ปัจจุบัน “กฎระเบียบ” เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการควบคุมตัวบุคคลให้อยู่ในกรอบ มาตรฐาน เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายตามวัตถุประสงค์ของผู้ตั้งกฎได้ เช่น กฎจราจร ก็เป็นเครื่องมือที่ให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะ ใช้ถนนอย่างระมัดระวังและส่งผลให้มีความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้ถนนร่วมกัน แต่รู้หรือไม่ว่าเงิน ที่เราใช้อยู่ในชีวิตประจำวัน ก็มีกฎของมันเอง
เคยเห็นคนหลายคนไหมครับว่า แม้ว่าเขาจะมีเงินเดือนหรือรายรับมากเท่าไหร่ เขาเหล่านั้นก็ยังไม่มีเงินเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ทั้งค่าเช่าบ้าน ค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าการศึกษาลูก และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งทำให้ส่งผลกระทบต่อตัวเขาเอง และคนรอบข้าง โดยเฉพาะครอบครัวที่จะได้รับผลกระทบโดยตรง
ในทางกลับกัน คนบางคนมีรายได้ไม่สูงมาก แต่สามารถใช้จ่ายได้อย่างคล่องตัว สามารถส่งลูกหลานให้มีการศึกษาระดับสูงๆ ได้ และยังมีเงินเหลือเก็บไว้ในยามเกษียณ สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข ดังนั้น รู้หรือไม่ว่า!!! อะไรเป็นจุดที่ทำให้คนสองกลุ่มมีความสามารถในการบริหารจัดเงินของตนเองไม่เหมือนกัน
วันนี้ผู้เขียนได้รวบรวมหลักการวิธีการบริหารเงินหลักๆ เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้อ่านสามารถบริหารจัดการเงินของตนเอง โดยสามารถอยู่ร่วมกับมันได้อย่างมีความสุข ซึ่งหลักการดังกล่าวเรียกว่า “กฎของเงิน” มีดังนี้
- วิธีการหาเงิน: สิ่งแรกที่ต้องทำหากต้องการบริหารเงินอย่างมืออาชีพ นั่นคือการรู้ว่าต้องหาเงินมาได้อย่างไร สิ่งสำคัญคือต้องรู้ว่าเรามีความถนัดในด้านใด เพื่อสามารถค้นพบตัวเอง จึงจะสามารถหาเงินได้อย่างมีความสุข
- ชาญฉลาดในการใช้เงิน: การจะประสบความสำเร็จในการบริหารเงินอย่างมืออาชีพได้ นอกจากรู้วิธีการหาเงินแล้ว การใช้เงินอย่างชาญฉลาดเป็นสิ่งที่สำคัญ เราต้องรู้จักการใช้เงินโดยสามารถแยกแยะระหว่าง “สิ่งที่จำเป็น” กับ “สิ่งที่อยากได้” ออกจากกัน หากเงินที่หามาได้หมดไปกับ “สิ่งที่อยากได้” จะส่งผลกับการใช้เงินใน “สิ่งที่จำเป็น” และสุดท้ายจะทำให้ล้มเหลวกับการบริหารเงินในที่สุด ยกตัวอย่างเช่น เศรษฐีหลายคนจะไม่ตัดสินใจซื้อรถมือหนึ่ง เพราเขาทราบดีว่า ค่าเสื่อมราคาของรถใหม่ในช่วง 2-3 ปีแรกจะสูงมากๆ เขาเหล่านั้นจึงตัดสินใจซื้อรถมือสองที่สภาพดี ในราคาที่ถูกกว่า
- รักษาเงินให้ปลอดภัย: หลังจากที่หาเงินมาได้ และใช้จ่ายอย่างชาญฉลาดแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเก็บรักษาเงินที่เหลือจากการใช้จ่ายอย่างปลอดภัย โดยรักษาเงินเหล่านี้ไม่ให้หมดไป ซึ่งก็มีหลากหลายวิธีเช่น การนำเงินไปฝากกับบัญชีฝากประจำ ซึ่งเป็นการบังคับให้ถอนเงินออกมาได้ยากขึ้น และสามารถรับดอกเบี้ยได้มากกว่าบัญชีออมทรัพย์ทั่วไป
- นำเงินไปลงทุน: การรักษาเงินให้ปลอดภัยอาจจะไม่เพียงพอที่จะสามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างน่าพอใจได้ ดังนั้น อีกทางเลือกหนึ่งนั่นคือการนำเงินไปลงทุนกับสินทรัพย์ต่างๆ เช่น หุ้น พันธบัตร ทองคำ หรือกองทุน เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่า แต่ที่สำคัญ การลงทุนในสินทรัพย์ใดๆ ผู้ลงทุนต้องมีความรู้ ความเข้าใจในการลงทุนสินทรัพย์นั้นๆ โดยเฉพาะความเสี่ยงที่เกิดจากการลงทุน เพื่อที่จะได้ลงทุนให้เหมาะกับตนเองและมีความสุขกับการลงทุน
- แบ่งปัน: หากประสบความสำเร็จในขั้นตอนที่ 1-4 แล้ว สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งคือการแบ่งปันให้กับผู้อื่นๆ หากสังเกตจากเศรษฐีทั่วโลกแล้วพบว่า ส่วนใหญ่พวกเขามีความตั้งใจในการช่วยเหลือผู้อื่น เช่น การตั้งมูลนิธิเพื่อสร้างประโยชน์ให้กับสังคม โดยเป็นการตอบแทนในสิ่งที่พวกเขาได้รับ การทำสิ่งเหล่านี้ นอกจากทำให้พวกเขาเหล่านั้นมีความมั่งคั่งในทรัพย์สินแล้ว ยังทำให้พวกเขามีความสุขทางใจในการช่วยเหลือกับผู้อื่นด้วย
จาก กฎของเงิน ที่ได้รวบรวมมานี้ จะมีส่วนช่วยให้เข้าใจธรรมชาติของเงินมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นประโยชน์ให้กับผู้ที่สามารถปฏิบัติตามได้ โดยสามารถบริหารเงินได้อย่างมืออาชีพ พร้อมทั้งสร้างความสุขไปพร้อมๆ กัน