โดย คนเล่นหุ้น
เผยแพร่ : 
59 viewsสรุปแนวคิดพี่มี่ กับหุ้นปี 2565
สัมภาษณ์ในรายการทันหุ้น หัวข้อ "มุมคิดพิซิตหุ้นปีเสือ"
-มองว่าปีหน้า 2565 เป็นปีที่ดีสำหรับหุ้นไทย ตัวแปลสำคัญคือ โควิทสายพันธุ์โอไมครอน นั้นเกิดการติดเชื้อง่าย รวดเร็ว แต่นี่ผ่านมา 11 วันแล้วยังไม่มีการเสียชีวิตเลย มันอาจจะเป็นEND GAME ของโควิท 19 ก็ได้
-ถ้าไปศึกษาไข้หวัดสเปนในอดีต ช่วงท้ายๆ เชื้อโรคจะอ่อนตัวลง ติดง่าย แต่ไม่มีคนเสียชีวิต และกลายเป็นไข้หวัดประจำถิ่น หวังว่าโอไมครอนจะเป็นแบบนั้นหมือนกัน
-ถ้าโควิทจบ จะเป็นประโยชน์กับประเทศไทยมาก เพราะกองทุนและนักลงทุนต่างชาติมองว่าประเทศไทยเปรียบเสมือนหุ้นท่องเที่ยว(รายได้ 20% ของ GDP จากการท่องเที่ยว)
ความกังวลเรื่องการออกนโยบายที่เข้มงวดขึ้นของธนาคารกลางสหรัฐ?
-น่ากังวล เพราะเดิมคาดว่าอเมริกาจะขึ้นดอกเบี้ยครึ่งปีหลังของปี 65 แต่เป็นไปได้สูงที่จะขึ้นดอกเบี้ยเดือนมีนาคม 65 เพื่อไม่ให้เงินเฟ้ออยู่ในระดับที่สูง
-สำหรับประเทศไทยนั้นคิดว่า พ้นช่วงที่แย่ที่สุดไปแล้ว เศรษฐกิจกำลังฟื้นกลับมา ปีหน้ามีการเลือกตั้งผู้ว่ากทม. ,เลือกตั้งท้องถิ่น,เตรียมเลือกตั้งใหญ่ในปี 2566 (ช่วงใกล้เลือกตั้งจะมีการใช้เงินเยอะ เงินหมุนเวียนเยอะ) รวมถึงการเปิดเมือง เป็นปัจจัยบวกสำหรับประเทศไทย
-มีปัจจัยลบที่กังวล คือ รัฐบาลจีนจะพยายามเบรคราคาอสังหาลง ตอนนี้อสังหาจีนราคาลงมาแล้ว 30%
-70%ของเงินออมคนจีน ออมในอสังหาริมทรัพย์
-เวลาที่อสังหาริมทรัพย์ ราคาลงระดับ 30-40% นั่นคือวิกฤติอสังหา
-คาดว่าสีจิ้นผิง จะบริหารจัดการให้ผ่านไปได้ แต่ถ้าบริหารไม่ดีจนเกิดวิกฤติ ก็จะกระทบกับกำลังซื้อ ในไทย ทั้งเรื่องอาหารการกิน,ท่องเที่ยว และด้านอื่นๆ เพราะจีนเป็นผู้บริโภครายใหญ่ของประเทศไทย
วางกลยุทธ์หุ้นไทย
-ตอนนี้มูลค่าหุ้นรายตัวขึ้นมาเท่าก่อนโควิทแล้ว
-ต้องหาตัวที่มี S Curve ใหม่ๆ บริษัทที่แข็งแกร่ง เก่ง จะต่อยอดธุรกิจใหม่ๆที่เติบโตได้ เช่น ORI ทำAMC , โลจิสติกส์
-หลังจากนี้หุ้นที่จะขึ้นในอีก 2-3 ปีข้างหน้าคือหุ้น Growth (โต15-20% ต่อเนื่อง)
-วิธีการ Valuation ของหุ้นที่มี S Curve ใหม่ๆ ให้มองว่าธุรกิจเดิมเติบโตได้ไหม คำนวณได้ไหม ส่วนธุรกิจใหม่บริษัทลูก ให้คำนวณเปรียบเทียบกับคู่แข่งในตลาดหรือต่างประเทศก็ได้ Discount สัก30-50% แล้วก็ใช้วิธี Some of the part
กลุ่มที่น่าสนใจ
-อสังหา
-นิคม ปีนี้ต่างชาติยังสนใจเข้ามาลงทุนในจีนอยู่ แต่ช่วงปลายปีเริ่มชะลอตัวลง เพราะปัญหาจากเรื่อง Trade war,ค่าแรงงานที่แพงขึ้นเรื่อยๆ ,สวัสดิการแรงงาน,นโยบายให้โรงงานปล่อยก๊าซคาร์บอนให้น้อยที่สุด สิ่งเหล่านี้ทำให้จีนไม่ใช่เป้าหมายของบริษัททั่วโลกในการตั้งโรงงานผลิตอีกต่อไป บริษัทต่างชาติจะเข้ามาลงทุนในไทยและเวียดนามมากขึ้น เชื่อว่าการเข้ามาลงทุนของต่างชาติในไทยเป็นเทรนด์นาน 3-5 ปี
-ค้าปลีกบางตัวที่ปรับตัวกับเทคโนโลยีได้ดี ใช้ดิจิทัลมาลดต้นทุนและเพิ่มยอดขายได้
-บริษัทที่มีแนวคิดจะทำอะไรใหม่ๆ ขึ้นมา ตลาดจะสนใจหุ้นแบบนี้ เช่น หุ้นตระกูล J ที่แตกธุรกิจไปหลายๆอย่างแล้วก็เติบโตต่อ
-ให้ความสำคัญกับการเติบโตของกิจการ อันดับที่1 , ความแข็งแกร่ง อันดับที่2 , ราคาอันดับสุดท้าย
-แม็คโคร โลตัส เป็นหุ้นที่แข็งแกร่งทั้งคู่ ราคากลางๆ ไม่ถูก ไม่แพง
-แม็คโครเติบโตได้ดีในช่วงโควิทที่ผ่านมา โลตัสปีหน้าน่าจะฟื้นตัวได้ดี
ที่มา ทันหุ้น
