CEO "ศรีจันทร์" ศึกษาสถานการณ์โลก
รับมือ Perfect Storm ปลายปี 65

.
"ศรีจันทร์" ถือเป็นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก จากการรีแบรนด์โดย "รวิศ หาญอุตสาหะ" ซีอีโอ ศรีจันทร์ ที่ลุกขึ้นปรับลุคของแบรนด์ใหม่เมื่อปี 2558 จนกลายเป็นแบรนด์ร่วมสมัยที่ใครๆ ก็รู้จัก
.
ในวันนี้ "รวิศ" ไม่เพียงแค่บริหาร ศรีจันทร์ แต่เขายังส่งต่อองค์ความรู้ ผ่าน Mission to the Moon พ๊อดแคสท์ (podcast) แบ่งปันความรู้ สร้างแรงบันดาลใจทำธุรกิจ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อปี 2562 และล่าสุด ยังแชร์ความรู้จากการประมวลข้อมูลจากการติดตามสถานการณ์โลกและของไทย เกี่ยวกับวิกฤติอาหารที่กำลังจะเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ไว้อย่างน่าสนใจ
.
"รวิศ" พูดถึงวิกฤติใหญ่ด้านอาหาร (Food Crisis) เป็นเรื่องน่าห่วงที่สุด ซึ่งองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ระบุว่า วิกฤติลักษณะนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาตั้งแต่จบสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อปี ค.ศ.1945 จนกระทั่งปี 2022 ที่เรากำลังจะเจอวิกฤติอย่างหนัก ที่นอกจากเรื่องราคาที่แพงขึ้นแล้ว ของก็จะไม่มีด้วย เพราะผลกระทบจากการเมืองระหว่างประเทศ
.
ขณะนี้หลายประเทศเริ่มกักตุนอาหารโดยรัฐบาลของประเทศนั้นๆ โดยสิ่งที่พอจะพิสูจน์ได้ คือ ดัชนี ที่ FAO ทำไว้ เช่น ราคาของจำเป็นอย่างข้าวสาลี ปีนี้ขึ้น 60 ข้าวโพดกว่า 10% กว่า ถั่วเหลืองกว่า 10% มันไม่ใช่แค่ต้นทุนอาหารคน แต่รวมถึงอาหารสัตว์ ซึ่งจะส่งผลให้เนื้อสัตว์แพงขึ้น
.
"ทำไมราคาอาหารถึงแพง?"…"รวิศ" อธิบายว่า แป้งสาลี ยูเครนกับรัสเซีย ส่งออกรวมกัน 27% ของทั่วโลก เมื่อเกิดสงครามรัสเซียโดนแบนด์ ขณะที่ยูเครนถูกปิดท่าเรือ ทำให้ทั้งสองประเทศไม่มีการส่งออก รวมไปถึง ข้าวบาเล่ย์ น้ำมันดอกทานตะวัน และอื่นๆ ทำให้ซัพพลายสินค้าเหล่านี้หายไป ราคาอาหารแทบทุกอย่าง แม้บางอันที่ไม่เกี่ยวก็ขึ้นไปกับเขาด้วย ทุกอย่างขึ้นกันหมด และยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
.
"อาหารที่ว่าแพงแล้ว สิ่งที่แพงกว่าอาหารคือ ปุ๋ย ซึ่งเพิ่มขึ้นมา 300% เมื่อปุ๋ยแพง เกษตรกรใส่ปุ๋ยน้อยลง ผลผลิตได้รับผลกระทบ และคาดได้ว่าผลผลิตที่จะออกมาช่วงสิงหาคม - กันยายนนี้ จะแย่ เนื่องจากไม่ได้รับปุ๋ยเต็มที่ นี่ยังไม่รวมถึงการแปรปรวนของอากาศ ดังนั้น จากผลผลิตที่น้อย ทำให้ราคาอาหารแพง ประมาณปลายปีเราจะเห็นการจั๊พของราคาอาหารอีกครั้ง"
.
ปัจจุบันมี 40 กว่าประเทศ ห้าม งด หรือลดการส่งออกผลิตผลทางการเกษตรบางอย่าง เช่น อินโดนีเซียซึ่งส่งออกน้ำมันปาล์มกว่า 70% ของโลก เคยยกเลิกการส่งออกน้ำมันปาล์ม เพราะต้องการเก็บไว้ให้คนในประเทศใช้ แต่โดนสหรัฐอเมริกากดดัน จึงต้องยกเลิก ซึ่งน้ำมันปาล์ม เป็นส่วนผสมสำคัญในหลายๆ อย่าง เช่น น้ำมันดีเซล เครื่องสำอางค์ สบู่ นม เนย โดยปัจจุบันมีกว่า 50 รายการ ที่ห้ามหยุดส่งออก เพื่อรักษาความมั่นคงทางอาหารของโลกให้ได้
.
Food Price Index นอกจากตัวบ่งชี้ถึงราคาอาหารที่แพงขึ้น ชี้ให้เห็นถึงผลกระทบด้านปากท้องของประชาชน ยังเป็นนัยยะสำคัญที่บอกถึงความวุ่นวายทางการเมืองที่กำลังจะเกิดตามมา เพราะทุกครั้งที่ประชาชนกินไม่อิ่ม นอนไม่หลับ เศรษฐกิจไม่ดี คนจะลุกขึ้นมาประท้วง ดังนั้น ปีนี้อีกสิ่งหนึ่งที่ได้เห็นแน่นอน คือ สถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองของประเทศทั่วโลก ซึ่งขณะนี้เริ่มเกิดขึ้นแล้วที่ ศรีลังกา เศรษฐกิจล้มสลาย คนต่อคิวเติมน้ำมันครึ่งวัน ไฟฟ้าถูกตัดยาวนานถึง 14-15 ชม.
.
ประเทศที่จะตามมา คือ ลาว และยังมีหลายๆ ประเทศที่มีความเสี่ยง ซึ่งดูได้จาก 5-6 อย่าง คือ ดุลบัญชีเดินสะพัด หนี้สาธารณะ หรือหนี้ของรัฐบาล หนี้รัฐวิสาหกิจ หนี้ครัวเรือน รวมไปถึงเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ
.
ที่ผ่านมา ไทยมีดุลบัญชีเป็นบวกมาตลอด เพราะนักท่อเงที่ยวเยอะ แต่ 2-3 ปีที่ผ่านมา โควิดทำใหห้คนเดินททางไม่ได้ ดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยจึงเริ่มเป็นลบ เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ที่รัฐบาลประกาศมาตลอดว่า ไทยยังมีอีกเยอะ แต่ตอนนี้เริ่มน้อยลงเรื่อยๆ เพราะดอลล่าร์แข็งมาก ปัญหาต่อมาและกำลังน่าเป็นห่วงอย่างมากคือหนี้ครัวเรือน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหนี้คุณภาพต่ำซะเยอะ หนี้บริโภคของไทยเยอะมาก และนี่คือ ระเบิดเวลา ที่แสดงให้เห็นว่า ประเทศไทย ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาเรื่องเศรษฐกิจเช่นกัน
.
วิกฤติต่างยังมีอีกหลายเรื่อง ที่กำลังผสมโรงทำให้ทั่วโลกปั่นป่วน ทั้ง วิกฤตด้านพลังงาน และสินค้าโภคภัณฑ์ ที่เป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ รวมไปถึง การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ การกำหนดอัตราภาษีธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม วิกฤติด้านภูมิรัฐศาสตร์ ความไม่เท่าเทียมกันและปัญหาสังคม วิกฤติตลาดเกิดใหม่ ปัญหาภาวะเงินเฟ้อ และเศรษฐกิจถดถอย
.
เมื่อเล่าถึงวิกฤติที่น่ากลัวที่กำลังจะเกิดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้ "รวิศ" ยังได้แนะนำวิธีการจัดการ หรอืการเตรียมป้องกันตัวไว้ด้วยว่า
.
1. ต้องรู้แวลูเชนของบริษัทททั้งหมด เพื่อเตรียมพร้อมไม่ให้ขาดวัตถุดิบในการเดินหน้าธุรกิจ
.
2. ต้องเข้าใจโครงสร้างเงินทุน (Capital Structure) และรักษากระแสเงินสด ขาดทุนได้ แต่ห้ามขาดปกระแสเงินสด
.
3. ต้องศึกษาความเป็นไปของโลกให้มาก
.
4. ตอนนี้ผู้เล่นสำคัญที่สุด ของโลก คือ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางของแต่ละประเทศ ต้องดูว่า หลังจากนี้ เขาจะทำอะไรบ้าง
.
5. ช่วงต่อจากนี้จะเป็นช่วงที่แย่ที่สุด เพราะฉะนั้น คนสำคัญในองค์กร คนที่มีศักยภาพ ต้องรักษาไว้ หากต้องยืดหยุ่นนโยบายการทำงานบ้างก็ต้องทำ เพราะคุณไม่มีทางที่จะสร้างคนได้ทันเวลากับวิกฤติ
.
6. ทุกโปรเจคต่อจากนี้ Return on Investment (ROI) ต้องได้ โปรดักส์ที่จะออกต้องชัวร์ ต้อง Conservative โปรเจคความฝันยกเลิกไปก่อน ความอยู่รอดในช่วงสั้นสำคัยมาก เพราะสถานการณ์ตอนนี้มันแย่กว่าที่คิด
.
"รวิศ" สรุปปิดท้ายว่า ตอนนี้เรากำลังอยู่ในเพอร์เฟคสตรอม ตอนนี้ได้เห็นแล้ว 2 ลูก และจะมาสุดๆ คือ ปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า จะได้เห็นอะไรที่ไม่เคยเห็นมาก่อน และจะเป็นเรื่องแย่ๆ เพราะฉะนั้น ต้องเตรียมตัวตั้งรับกันให้ดี
.
