ธนาคารกลางมาเลเซียประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% ไปอยู่ที่ 3.25% เมื่อวานนี้ วันที่ 25 มกราคม ปี พ.ศ 2561 นับเป็นการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งแรกในรอบ 3 ปีครึ่ง ( จากหนังสือพิมพ์ โพสต์ทูเดย์ ฉบับวันนี้ วันที่ 26 มกราคม ปี พ.ศ 2561 )
ก่อนหน้านี้ มีธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งแรกในรอบหลายปี ดังต่อไปนี้คือ :
1) ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาปรับขึ้นดอกเบี้ย Fed Fund Rate ครั้งแรกในรอบ 9 ปี เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ปี พ.ศ 2558
2) ธนาคารกลางอังกฤษปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายครั้งแรกในรอบ 10 ปี เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ปี พ.ศ 2560
3) ธนาคารกลางเกาหลีใต้ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายครังแรกในรอบ 6 ปี เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ปี พ.ศ 2560
คาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในอนาคต :
1) Fed Fund Rate น่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้ง ในปี พ.ศ 2561 นี้
2) ธนาคารกลางฟิลิปปืนส์น่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในช่วงกลางปี พ.ศ 2561 นี้
3) ธนาคารกลางไทยน่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในช่วงปลายปี พ.ศ 2561 หรือ อย่างช้าก็น่าจะเป็นต้นปี พ.ศ 2562 ที่จะถึงนี้
4) ธนาคารกลางยูโรน่าจะยุติการทํา QE ในเดือนกันยายน ปี พ.ศ 2561 นี้
5) ธนาคารกลางญี่ปุ่นน่าจะยุติการทํา QE ในช่วงปลายปี พ.ศ 2562 ที่จะถึงนี้
ผลจากแนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายทั๋วโลก เป็นดังต่อไปนี้คือ :
1) เงินทุนไหลเข้ามายังตลาดหุ้นทั่วโลกจากตลาดพันธบัตรทั่วโลกเป็นจํานวน 42.5 ล้านล้าน USD ตั้งแต่ Fed Fund Rate ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งแรกในรอบ 9 ปีเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ปี พ.ศ 2558 จนถึงปัจจุบัน
2) Downjones ปรับตัวเพิ่มขึ้น 46% ตั้งแต่ ต้นปี พ.ศ 2560 จนถึงปัจจุบัน
3) ตลาดหุ้นไทย ปรับตัวเพิ่มขึ้น 19% ตั้งแต่ ต้นปี พ.ศ 2560 จนถึงปัจจุบัน
4) เงินบาทแข็งค่า 11% เทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ตั้งแต่ ต้นปี พ.ศ 2560 จนถึงปัจจุบัน
คาดการณ์ Downjones และ Set Index ในอนาคต :
1) Downjones และ Set Index ก็น่าจะอยู่ในสภาวะตลาดกระทิงอย่างต่อเนื่องจากปีที่แล้วคือปี พ.ศ 2560 ตามทิศทางการปรับตัวเป็นขาขึ้นของ Fed Fund Rate จนกระทั่ง Fed Fund Rate ปรับตัวขึ้นไปอยู่ที่จดสูงสุดในรอบนี้ระดับ 3.75 - 4.00% ประมาณปลายปี พ.ศ 2563 สภาวะตลาดกระทิงของทั้ง Downjones และ Set Index จึงน่าจะสิ้นสุดลง
หมายเหตุ : โปรดติดตามรายละเอียดการลงทุนใน สภาวะตลาดกระทิง และ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างขาขึ้น ได้ใน longtunbysak.blogspot.com