ห้องเม่าปีกเหล็ก

โบรกเกอร์ สั่ง “ขาย” JASIF

โดย DAVINCI
เผยแพร่ :
289 views

โบรกเกอร์ สั่ง “ขาย” JASIF

ชี้สถานการณ์ 3BB เลวร้ายเกินไป

แบงก์อาจไม่ช่วยเหลือทางการเงินอีก

 

.

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ประเมินกว่า กรณี เมื่อวันที่ 22 มี.ค.2566 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจรายงานข่าวว่า TTTBB ซึ่งเป็นผู้เช่าสายเคเบิลใยแก้วนาแสง (OFC) เพียงรายเดียวของ JASIF เรียกร้องขอ เลื่อนการชำระเงินออกไปจากปัญหาเรื่องสภาพคล่องของบริษัทฯ

.

นอกจากนี้ TTTBB ยัง เสนอให้ กองทรัสต์ร่วมแก้ปัญหาเรื่องสภาพคล่องตามการแข่งขันที่รุนแรงในตลาด fixed broadband และความสามารถในการชาระเงินของ TTTBB

.

ทั้งนี้นักวิเคราะห์ที่ดูแลหุ้น JAS ของฝ่ายวิจัยกังวลต่อแนวโน้มธุรกิจของ JAS จากรายได้ที่ลดลง งบดุลที่ตั้งตัวมากขึ้นและกระแสเงินสดของ JAS

.

สำหรับสถานการณ์ที่เป็นไปได้เห็นได้ชัดว่าสถานการณ์ทางการเงินของ TTTBB เลวร้ายกว่าที่คาดไว้ ซึ่งอาจบ่งชี้ว่าเจ้าหนี้หลักของ TTTBB อย่าง BBL อาจไม่ให้ความช่วยเหลือทางการเงินอีกหากดีลซื้อกิจการของ ADVANC ยืดเยื้อออกไป JAS และ TTTBB จะมีปัญหาเรื่องสภาพคล่องมากขึ้น และอาจจำเป็นต้องเจรจาปรับโครงสร้างค่าเช่า

.

ทั้งนี้มองว่าสถานการณ์ที่ไม่เอื้อประโยชน์เช่นนี้อาจส่งผลให้เกิด 3 สถานการณ์ที่เป็นไปได้ สถานการณ์แรกคือ TTTBB อาจเรียกร้องขอเลื่อนการชำระเงินไปอีกระยะ เช่น 3-6 เดือน และ TTTBB อาจชำระเงินเป็นระบบผ่อนชำระแทน สถานการณ์ที่ 2 คือ TTTBB อาจเสนอขอให้ปรับโครงสร้างค่าเช่าและ เงื่อนไขชำระเงินอิงตามที่ ADVANC เคยเสนอ สถานการณ์สุดท้ายคือ TTTBB อาจเรียกร้องขอให้สิ้นสุดสัญญารับประกันรายได้

.

โดยลดคำแนะนำเป็น “ขาย” คงประมาณการ core EPU ปี 2566-68 ลดราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ของเราลงเป็น 7.0 บาท และลดคำแนะนำจาก “ถือ” เป็น “ขาย” ปัจจัยฉุดคาดจะมาจาก 1.การเลื่อนชำระเงินออกไปเป็นเวลานาน 2. เงื่อนไขที่ไม่เอื้อประโยชน์จากการปรับโครงสร้างค่าเช่าที่อาจเกิดขึ้น และ 3.ความล้มเหลวในการซื้อกิจการ TTTBB และ JASIF ของ ADVANC จาก JAS

.

ทั้งนี้ลดราคาเป้าหมายลง 16.7% จาก 8.4 บาท เป็น 7.0 บาท โดยวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของมูลค่ายุติธรรมในสถานการณ์ที่ดีที่สุดและเลวร้ายที่สุด เพื่อคำนวณราคาเป้าหมาย และคงมูลค่ายุติธรรมในกรณีที่ดีที่สุดไว้ที่ 9.7 บาท บน สมมติฐานสัญญาเช่าปัจจุบันและจะมีการต่อสัญญาเช่าใหม่หลังสัญญาสิ้นสุดระยะเวลาลงใน เดือน ม.ค.2575 ขณะที่มูลค่ายุติธรรมในสถานการณ์เลวร้ายที่สุดอยู่ที่ 4.3 บาท บนสมมติฐานที่ไม่มีการรับประกันรายได้ และไม่มีมูลค่าสุดท้าย

 

 


DAVINCI