คิดจะลงทุนปีหน้า “ไม่ต้องรอ”...
ชู “หุ้นเอเชีย” เด่นสุดรับ “จีน” เปิดประเทศ !!!

.
Fun of Funds: ปีนี้ตลาดการลงทุนของโลกไม่สู้จะดีเท่าไรนัก ตั้งแต่ต้นปีมาถึงปัจจุบัน (ณ วันที่ 16 ธ.ค. 22) ดัชนี “S&P500” ปรับลดลงมาแล้ว -19.68% ขณะที่ดัชนี “CSI300” ของจีนก็ลดลง -19.59% ทำให้ภาพรวมของสินทรัพย์ต่างๆ ดูไม่สู้จะสดใสเท่าไรนัก
.
อย่างไรก็ตามในช่วงปลายปีก็มีสัญญาณที่ดีเข้ามาบ้าง ทั้งตัวเลข “เงินเฟ้อ” สหรัฐที่น่าจะผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว แรงกดดันดอกเบี้ยก็น่าจะชะลอลงแม้ว่าจะยังทรงตัวในระดับสูงก็ตาม
.
ที่สำคัญการคลายล็อก “Zero Covid” ของจีน ตลอดจนโอกาสในการเปิดประเทศที่จะเกิดขึ้นตามมาที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสแรกของปี23 ก็เป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นทั่วโลกในเชิงบวก โดยเฉพาะ “หุ้นเอเชีย” ที่น่าจะได้รับอานิสงส์มากกว่าภูมิภาคอื่น
.
และกลายเป็นหนึ่งเป้าหมายการลงทุนที่น่าสนใจในปี23 ที่กำลังจะมาถึง อะไรทำให้ “หุ้นเอเชีย” น่าสนใจ ตามไปค้นหาคำตอบกับทีมงาน ‘โต๊ะกองทุน Wealthythai’ ไปพร้อมๆ กันได้เลย
.
มอง “หุ้น” ไม่ฟื้นแรงแม้ผ่าน ‘จุดต่ำสุด’ ไปแล้ว...ส่วน “จีน” เปิดประเทศ-ปัจจัยบวก “หุ้นเอเชีย”
.
โดย “ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์” ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุน บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) มองว่า ในปี23 เป็นเหมือนหนังภาคที่ 3 ภาคแรกคือปี21 ที่เงินเฟ้อปรับขึ้น ธนาคารกลางยังพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรดี แล้วสุดท้ายเงินเฟ้อก็สูงขึ้นมาจนนโยบายไล่ตามไม่ทัน ส่วนภาคที่ 2 คือ ปี22 ที่เจอเรื่องเงินเฟ้อ และมีปริมาณเงินในระบบสูงเป็นของแถม ทำให้ “ธนาคารกลางสหรัฐ” (FED) ขึ้นดอกเบี้ยจาก 0.5% ช่วงต้นปี เป็น 4.5% แล้ว ส่วนภาค 3 ที่จะถึงนี้ คือการเริ่มต้นปีด้วยต้นทุนที่สูงผิดปกติ ในกรณีที่เป็นบริษัท Investment grade ดีๆ ผู้ประกอบการต้องเริ่มระดมทุนด้วยผลตอบแทน 5-6% แต่ถ้าเป็นระดับต่ำกว่านั้น ต้องเสนอผลตอบแทนขั้นต่ำ 10% ซึ่งไม่แน่ใจว่า ใครอยากระดมทุนใหม่
.
“ในช่วงเวลาแบบนี้ มองว่า “ตลาดหุ้น” คงยังไม่กลับมาเป็นภาวะกระทิงได้ทันทีหลังผ่านจุดต่ำสุด เพราะสิ่งที่ทั่วโลกเจอคือ ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนค่อยๆ ลดลง แต่ต้นทุนไม่ได้ลดลงมา ขณะที่ปัจจัยเรื่องเศรษฐกิจถดถอยอาจกลายเป็นปัจจัยบวกก็ได้ เพราะทั่วโลกเตรียมตัวรับมือดีขึ้น จึงอาจกลายเป็นโอกาสการลงทุนของคนที่เตรียมพร้อม ส่วนปัจจัยบวกอีกเรื่องคือ ‘จีน’ ที่คาดว่าจะเปิดเมืองได้ในไตรมาสแรก และเปิดประเทศได้สิ้นไตรมาสที่ 2 หรือปลายปี23 ซึ่งถ้าหากเกิดขึ้น เวลานั้นหุ้นทั่วโลกจะสดใส โดยเฉพาะเอเชีย”
.
สำหรับสินทรัพย์ที่ควร “หลีกเลี่ยง” ลงทุนในปี23 คือ กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย รวมถึงสินค้าชิ้นใหญ่ที่ต้องกู้เงินซื้อ เพราะเริ่มต้นปีด้วยต้นทุนการเงินแตกต่างจากเดิมมาก รวมถึงหลีกเลี่ยงการลงทุนในประเทศเล็กๆ ในตลาดชายขอบ ที่เศรษฐกิจเปราะบาง ไม่มีผู้สนับสนุน
.
“หุ้นเอเชีย” สดใสรับจีนเปิดประเทศ...“ญี่ปุ่น-ไทย-เวียดนาม” น่าสนใจในปีหน้า
.
เช่นเดียวกับ “ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.จิตตะ เวลธ์ มองว่า กลุ่มประเทศใน “เอเชีย” จะเห็นไทม์ไลน์สำคัญอย่างการผ่อนคลาย มาตราการ ZERO COVID ด้วยการเปิดประเทศของจีน ที่จะเป็นแรงหนุนสำคัญให้เศรษฐกิจโลกกลับมาฟื้นตัวได้ในภาพรวม ซึ่งคาดว่าจะเห็นการเปิดเมือง ในช่วงไตรมาส 2 ของปี23 ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง “ตลาดหุ้นจีน” ที่ปรับลดลงไปกว่า -22.01% ในปีนี้จะกลับมาผงาดได้อีกครั้ง และยังจะส่งอานิสงส์ไปถึง “ตลาดหุ้นทั่วโลก” ให้ฟื้นกลับมาได้ด้วย ดังนั้นนักลงทุนควรเริ่มสะสมหุ้นจีนตั้งแต่วันนี้ เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสการลงทุนครั้งใหญ่ได้
.
“ในส่วนของ ‘ตลาดหุ้นญี่ปุ่น’ และ ‘ตลาดหุ้นไทย’ ที่กำลังจะเริ่มฟื้นตัวหลังเปิดประเทศในปีนี้ จะได้รับแรงหนุนจากภาคการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นได้ในปีหน้า นอกจากนี้ประเทศไทยเองยังจะมีประเด็นเรื่องการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปี23 จะเป็นแรงหนุนกำลังซื้อในประเทศให้ฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้ เพราะการเลือกตั้งแต่ละครั้งย่อมมีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบจำนวนมาก จะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นไทย ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ซึ่งตลาดหุ้นไทยและญี่ปุ่นถือเป็นแหล่งลงทุนที่มีเสถียรภาพ เหมาะที่จะนำมาสร้างสมดุลให้กับพอร์ตลงทุนได้”
.
“ตลาดหุ้นเวียดนาม” ยังเป็นอีกตลาดที่นักลงทุนห้ามพลาด ด้วยราคาหุ้นที่ปรับลดลงตั้งแต่ต้นปีมาถึงวันที่ 30 พ.ย. 22 ปรับลดลงไปแล้ว -30.03% ทำให้ P/E Ratio อยู่ที่ 10.8 ถือว่าราคาค่อนข้างถูก เมื่อพิจารณาจากความต้องการลงทุนเพื่อย้ายฐานการผลิต ด้วยค่าแรงต่ำ และประชากรวัยหนุ่มสาวจำนวนมหาศาล จะทำให้เวียดนามมีเสน่ห์ และเป็นดาวเด่นได้ในระยะยาว
.
มองไปในปี23 “หุ้นเอเชีย” เป็นอีกหนึ่งตลาดที่ไม่ควรละเลยเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะ “จีน-ญี่ปุ่น-ไทย-เวียดนาม” หลายคนจับๆ จ้องๆ ไม่แน่ใจ รอจังหวะขอรอดูสถานการณ์ไปก่อน แต่รู้หรือไม่ว่าทุกนาทีที่ผ่านมา เรากำลังเผชิญกับ “ต้นทุนค่าเสียโอกาส” อยู่เช่นกัน วันนี้...คุณลงทุนแล้วหรือยัง?