ห้องเม่าปีกเหล็ก

ทรัมป์ลั่นไล่พาวเวลล์ จริงหรือแค่ขู่?

โดย ROCK POINT
เผยแพร่ :
40 views

ดราม่าสุดระอุ! ทรัมป์ลั่นไล่พาวเวลล์ จริงหรือแค่ขู่?

เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา เกิดกระแสฮือฮาในแวดวงการเงิน เมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เชิญ ส.ส. พรรครีพับลิกันเข้ามาหารือในทำเนียบขาว

พร้อมโบกสำเนาจดหมายฉบับร่างที่เตรียมไว้เพื่อ “ปลด” เจอโรม พาวเวลล์ จากตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ทันทีที่ข่าวนี้หลุดออกมา ตลาดหุ้นและค่าเงินดอลลาร์ต่างปรับฐานลงเล็กน้อย

ก่อนจะฟื้นตัวขึ้นเมื่อทรัมป์ออกมายืนยันว่า เจตนาจริงๆ แล้วเป็นเพียงการ “หยั่งเชิง” และจะไม่เดินหน้าไล่พาวเวลล์ เว้นแต่จะพบหลักฐานทุจริตอย่างเป็นทางการ

 

 

เบื้องหลังเรื่องนี้ เริ่มจากการประชุมลับที่ทรัมป์นัด ส.ส. กลุ่มหนึ่งมาหารือเรื่องกฎหมายคริปโตเคอร์เรนซี แต่ดันโยงประเด็นไปถึงการปลดพาวเวลล์ ส.ส. เกือบทั้งหมดที่เข้าร่วมประชุมแสดงความเห็นสนับสนุนไอเดียนี้

แหล่งข่าวระบุว่า จดหมายปลดพาวเวลล์เป็นเพียง “พร็อป” ที่คนรอบข้างเตรียมมาให้ ไม่ใช่เอกสารทางการที่ทรัมป์ลงนามเอง

ทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามว่า นี่คือกลยุทธ์ทางการเมืองเพื่อกดดัน Fed หรือเป็นการส่งสัญญาณมวลชนเท่านั้น

ปัจจัยที่ทำให้ทรัมป์แสดงท่าทีแข็งกร้าวมาจากความไม่พอใจที่พาวเวลล์ไม่ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามที่ต้องการ

รวมถึงโครงการปรับปรุงสำนักงาน Fed มูลค่ากว่า 2.5 พันล้านดอลลาร์ ที่ทรัมป์มองว่าเกินจำเป็นและเป็นการใช้เงินประชาชนอย่างเกินควร จึงหยิบประเด็นนี้ขึ้นมาเป็นข้ออ้างกดดันให้ Fed เร่งผ่อนคลายมาตรการทางการเงิน

อย่างไรก็ดี เมื่อถูกนักข่าวถามใน Oval Office ทรัมป์ปฏิเสธชัดว่า ไม่มีแผนจะปลดพาวเวลล์ “ยกเว้นจะมีเหตุทุจริตอย่างชัดเจน” คำยืนยันนี้ช่วยให้ตลาดการเงินพลิกฟื้นอย่างรวดเร็ว

นักลงทุนกลับมาแห่ซื้อหุ้นและดอลลาร์ปรับตัวขึ้นอีกครั้ง แม้จะยังมีความระแวดระวังต่อสัญญาณการเมืองที่อาจส่งผลต่ออิสระภาพของ Fed

ฝั่งสภาคองเกรสเองก็ไม่ได้นิ่งดูดาย ส.ว. รีพับลิกันหลายคนเตือนว่า การปลดประธาน Fed จะทำลายหลักการ “ความเป็นอิสระ” ของธนาคารกลาง เพิ่มความเสี่ยงความผันผวนทางเศรษฐกิจ

และอาจละเมิดกฎหมายที่กำหนดให้ปลดประธาน Fed ได้เฉพาะเมื่อมี “มูลความผิดจริง” เท่านั้น

ด้านพาวเวลล์ออกมาส่งสัญญาณตอบโต้ว่า หากไม่มีนโยบายภาษีหรือสงครามการค้าเข้มข้นกว่านี้ Fed อาจลดอัตราดอกเบี้ยไปแล้ว

พร้อมย้ำว่า การตัดสินใจเรื่องนโยบายการเงินต้องขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจและไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองมากเกินไป ข้อความนี้ช่วยยืนยันว่าความเป็นกลางของ Fed ยังคงเป็นเกราะป้องกันสำคัญ

สรุปแล้ว แม้ดราม่าครั้งนี้จะเป็นการ “ซ้ำเดิม” ของทรัมป์ที่เคยพูดถึงการปลดพาวเวลล์หลายครั้งก่อนหน้านี้

แต่ปฏิกิริยาของตลาดและนักการเมืองแสดงให้เห็นว่า เส้นแบ่งระหว่างนโยบายการเมืองและการบริหารเศรษฐกิจยังเป็นประเด็นละเอียดอ่อน

นักลงทุนจึงยังคงจับตาทุกย่างก้าวของทั้งทำเนียบขาวและ Fed อย่างไม่ลดละ เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยและความผันผวนของตลาดในอนาคตอย่างใกล้ชิด

 

 

เนื้อหาที่มาจาก..  KIM Property Live


ROCK POINT