PTTEP ตั้งเป้าปี 66 มีปริมาณขาย 4.7 แสนบาร์เรล/วัน วางงบ 4.5 พันล้านดอลล์ ลุยธุรกิจใหม่
PTTEP ตั้งเป้าปี 66 ปริมาณขายอยู่ที่ 4.7 แสนบาร์เรล/วัน รับกำลังการผลิตแหล่งเอราวัณหนุน พร้อมคาดราคาขายก๊าซธรรมชาติอยู่ที่ 6.1 ดอลล์/ล้านบีทียู ด้าน EBITDA Margin คาดอยู่ที่ระดับ 70-75% พร้อมวางงบลงทุน 4.5 พันล้านดอลลาร์ ลุยหาธุรกิจใหม่

.
นายธนัตถ์ ธำรงศักดิ์สุวิทย์ ผู้จัดการ แผนกนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ. ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) เปิดเผยในงาน "Opportunity Day" ว่า คาดการณ์ปริมาณการขายปิโตรเลียมเฉลี่ยในปี 66 จะอยู่ที่ระดับ 470,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่เฉลี่ยอยู่ระดับ 468,130 บาร์เรลต่อวัน เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณการผลิตปิโตรเลียมของโครงการจี 1/61 (แหล่งเอราวัณ) ที่ดำเนินการได้ตามแผนงานเป็นหลัก
.
ขณะที่ราคาขายก๊าซธรรมชาติทั้งปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 6.1 ดอลลาร์ต่อ
ล้านบีทียู และต้นทุนต่อหน่วยที่ประมาณ 27-28 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล รวมถึงอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA Margin) คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 70-75%
.
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 1/66 คาดว่าปริมาณการขายจะเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 472,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งลดลงจากช่วงไตรมาส 4/65 ที่เฉลี่ยอยู่ระดับ 500,456 บาร์เรลต่อวัน ส่วนราคาขายก๊าซธรรมชาติที่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 6.7 ดอลลาร์ต่อล้านบีทียู ซึ่งถือว่ายังทรงตัวอยู่ในระดับสูง
.
นางสาวอรชร อุยยามะพันธุ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการเงิน บมจ. ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) กล่าวว่า สำหรับเรื่องการซื้อกิจการ (M&A) นั้น มองว่าหากบริษัทเห็นโอกาสที่น่าสนใจและสอดคล้องกับกลยุทธ์ของบริษัทก็พร้อมพิจารณา โดยหลักเกณฑ์การพิจารณาบริษัทที่เป็น M&A นั้นจะเน้นการลงทุนในโครงการก๊าซธรรมชาติที่มีต้นทุนค่อนข้างต่ำและผลตอบแทนที่อยู่ในระดับที่บริษัทรับได้ และเป็นโครงการที่อยู่ในพื้นที่ประเทศไทย,มาเลเซีย หรือภูมิภาคตะวันออกกลาง เป็นต้น รวมถึงทรัพย์สินนั้นต้องอยู่ในช่วงต้นๆของการผลิตหรือช่วงท้ายของการพัฒนาเพื่อช่วยสร้างกระแสเงินสดให้กับบริษัทได้ภายในระยะเวลาอันสั้น
.
นอกจากนี้บริษัทได้เริ่มขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆมากขึ้น เช่น บริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส (ARV), ธุรกิจโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ,พลังงานทดแทน หลังในช่วงเดือนธ.ค.65 ที่ผ่านมาบริษัทได้ประกาศแผนการลงทุน 5 ปี โดยได้สำรองเงินไว้กว่า 4.5 พันล้านดอลลาร์ เพื่อใช้สำหรับขยายการเติบโตไปยังธุรกิจใหม่ๆ พร้อมตั้งเป้าจะมีสัดส่วนกำไรไม่น้อยกว่า 20% ภายในปี 73
***********************************