ห้องเม่าปีกเหล็ก

GULF และ TINA Effect ในตลาดหุ้นไทย

โดย POWER
เผยแพร่ :
170 views

GULF และ TINA Effect ในตลาดหุ้นไทย 

By กรรณ์ หทัยศรัทธา นักกลยุทธ์ ฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจและการลงทุน สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด

 

หุ้นหนึ่งตัวที่ผมเห็นได้ชัดกว่าใครเพื่อน คือ GULF Energy ซึ่งสอบผ่านทั้งในแง่การเติบโตที่ “เด่น” และ เป็นหุ้นขนาด “ใหญ่” คลายกังวลปัจจัยที่หุ้นกลาง, เล็กต้องเผชิญ

 

 

ป้วนเปี้ยนแถว 1,200 จุด อยู่มาช้านานสำหรับ SET Index ในปี 2025 

ไหนจะสงครามการค้าและการเจรจาของทีมไทยแลนด์ ... ไหนจะเสียงลือเสียงเล่าอ้างปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ... ไหนจะการเคาะเลื่อนแจกเงินหมื่นหรือถึงขั้นยกเลิก

ตลาดทุนไทยยังรออยู่อีกหลายปัจจัย โดย ถึงแม้จะมีการไหลเข้ามาของเม็ดเงินกองทุน TESGX แต่ หุ้นไทยก็ยังไม่ไปไหน 

ดังนั้น หากปัจจัยเชิงมหภาค (Macro / Top-Down) ไม่ได้ทำให้หุ้นขึ้นก็ต้องเป็นปัจจัยเชิงจุลภาค (Micro / Bottom-Up) 

คำถาม คือ หุ้นไทยตัวไหนมีปัจจัยเฉพาะตัว หรือ เติบโตเด่นบ้าง ? 

ผมอยากให้ผู้อ่านพินิจพิเคราะห์ มองไปรอบๆ (กลุ่มอุตสาหกรรมหุ้นไทย) และ มองในเชิงเปรียบเทียบ (หุ้นต่างประเทศอื่นๆ) ก่อนที่จะอ่านบทความนี้ต่อ

ใช่ครับ คำตอบในความเห็นส่วนตัวของผม คือ น้อยมาก ! 

และ ส่วนใหญ่เป็นหุ้นขนาดกลาง, เล็ก ซึ่งก็ยังมีปัจจัยหรือความเสี่ยงอื่นๆที่ต้องพิจารณา ทั้ง Force sell, การระดมทุนหุ้นกู้ ณ ปัจจุบัน และ ประเด็น ESG rating

หุ้นหนึ่งตัวที่ผมเห็นได้ชัดกว่าใครเพื่อน คือ GULF Energy ซึ่งสอบผ่านทั้งในแง่การเติบโตที่ “เด่น” และ เป็นหุ้นขนาด “ใหญ่” คลายกังวลปัจจัยที่หุ้นกลาง, เล็กต้องเผชิญ

เล่าแบบคร่าวๆ GULF เป็น บริษัทชั้นนำในธุรกิจสาธารณูปโภคในแง่ของปริมาณการจำหน่ายไฟฟ้าให้กับกฟผ. โดยมีการดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตไฟฟ้า, การนำเข้าก๊าซธรรมชาติ และ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 

นอกจากนี้ GULF ยังขยายกิจการไปสู่ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลผ่านการควบรวมกิจการ (amalgamation) กับ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH, เพิกถอนหุ้นออกจากตลาดแล้ว) ซึ่งควบรวมกิจการแล้วเสร็จในปลายเดือนมี.ค. 2025

ประการแรกที่ผมเห็น คือ GULF ไม่ใช่แค่โรงไฟฟ้าอีกต่อไปแล้ว แต่ “อาจจะ” และ “น่าจะ”กลายเป็น “โครงสร้างพื้นฐาน” สำคัญของประเทศไทยในอีก 5-10 ปีข้างหน้า (ถ้าไม่เร็วกว่านั้น) ทั้งจากการเข้าลงทุนบริษัทโทรคมนาคมและธนาคารพาณิชย์ อย่าง KBANK

ประการที่สอง การเติบโตของหุ้นไทยตัวอื่นๆหรือกลุ่มอื่นๆในปัจจุบันนั้นต่ำพอสมควร หากผู้อ่านลองมองไปในหุ้นกลุ่มค้าปลีก หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ หรือ หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว ... ต้องถือว่าลำบากพอสมควรครับ หากพินิจ พิจารณาจากสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ใครหลายๆคนกล่าวกันว่า นี่หนักหนาสาหัส “ยิ่งกว่าต้มยำกุ้ง” “ยิ่งกว่าปี 2008 และ น้ำท่วมใหญ่ 2011” หรือ “ยิ่งกว่าโควิด-19” ซะอีก ... ทั้งสังคมสูงวัย ... ทั้งนักท่องเที่ยวที่หายไป ... ทั้งแผ่นดินไหว และ ภาษีวันปลดแอกของ โดนัลด์ ทรัมป์ 

ประการสุดท้าย “TINA Effect” หรือ “There is no Alternative” ในความเห็นส่วนตัวของผม การหาหุ้นเติบโตที่มาพร้อมกับขนาดที่ใหญ่เพื่อหลีกเลี่ยงประเด็นเปราะบางเฉพาะตัว หรือ ตามหา Large Cap Growth หรือ Mid Cap Growth (หุ้นเติบโตที่มีขนาดใหญ่ และ กลาง) ในตลาดหุ้นไทยนั้นท้าทายพอสมควร 

ดังนั้นเมื่อพิจารณาจากตัวเลือกที่มีจำกัดในตลาดหุ้นไทย และ Growth Story ที่ผมตามหา ... 

... GULF อาจจะเป็นตัวเลือกเพียงไม่กี่ตัวที่ผมจะเลือก 

... ถ้าอยากจะเดิมพันกับตลาดหุ้นไทย

*การแสดงความเห็นให้คำแนะนำดังกล่าว ข้าพเจ้าขอเรียนว่า เป็นการกระทำในนามส่วนตัวของข้าพเจ้า เท่านั้น บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด มิได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ใดๆ ทั้งสิ้น

 

ที่มา…  https://www.bangkokbiznews.com/blogs/finance/stock/1180523

 


POWER