SCB รับเลื่อนดีลลงทุน `บิทคับ` ไม่มีกำหนด

นายมาณพ เสงี่ยมบุตร Chief Finance & Strategy Officer บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB และ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงานการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยในงานแถลงข่าว “ผลประกอบการกลุ่มเอสซีบี เอกซ์ ในครึ่งปีแรก 65” ว่า การเข้าลงทุนใน บิทคับ (Bitkub) ยังคงไม่มีพัฒนาการใหม่ ๆ โดยดีลดังกล่าวได้มีการเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด แต่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการทำ Deal Dueligence และ การเจรจาพูดคุย ตลอดจนปรึกษากับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และ หน่วยงานที่กำกับดูแล

.

“ดีลยังมีอยู่ แต่ใช้เวลาในการดูศึกษาความเป็นไปได้ ความเหมาะสม และ ผลตอบแทน รวมไปถึงการมองหาโอกาสใหม่ ๆ ในการลงทุนในรูปแบบอื่น ๆ เข้ามาเพิ่มเติม”นายมาณพ กล่าว

.

ส่วนกรณีที่ทาง SCB10X ได้มีการลงทุนในคริปโทเคอเรนซี่ มีมูลค่าไม่มาก หรือ น้อยกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ถือเป็นการทดลองในการเรียนรู้ระบบการทำงาน และ การเรียนรู้ระบบนิเวศน์การทำงานของเหรียญ โดยไม่ได้เป็นการคาดหวังในเรื่องการลงทุนเพื่อเก็งกำไร แต่เป็นการลงทุนเพื่อทำให้บริษัทได้รู้ และ มีประสบการณ์ในเทคโนโลยี

.

“ความผันผวนที่เกิดขึ้นกับตลาดคริปโตฯ ไม่ได้มีผลกระทบอะไรต่อการลงทุนของบริษัท และ ไม่ได้กระทบมาถึงผลการดำเนินงานของบริษัทด้วยเช่นกัน ซึ่งจุดประสงค์ของเราไม่ได้ลงทุนเพื่อหวังเก็งกำไร แต่เป็นการลงทุนเพื่อให้เราได้เรียนรู้เทคโนโลยี เพื่อหาโอกาสนำมาใช้เสริมศักยภาพการทำงาน” นายมาณพ กล่าว

.

สำหรับ แนวโน้มของผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังปี 65 คาดว่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก โดยมีปัจจัยหนุนหลักจากธุรกิจธนาคาร ที่แนวโน้มการเติบโตของสินเชื่อที่ขึ้นสูงกว่าครึ่งปีแรกที่เติบโต 3% ขณะที่ทั้งปีตั้งเป้าสินเชื่อจะเติบโต 3-5% มาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ดีขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง หลังจากโควิดคลี่คลาย ทำให้มีความต้องการสินเชื่อในกลุ่มลูกค้ารายใหญ่กลับมา และ นำไปสู่ความต้องการสินเชื่อเพื่อรองรับการลงทุน

.

นอกจากนี้ ทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่เป็นขาขึ้นส่งผลบวกต่อส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) ของธุรกิจธนาคารพาณิชย์ที่จะเห็นการปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ประกอบกับ แนวโน้มหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลง แม้ว่าธนาคารจะมีการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาส 2/65 ประมาณ 2,500 ล้านบาท แต่เป็นการตั้งสำรองเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกที่มีความไม่แน่นอน และ ธนาคารต้องการรักษาเสถียรภาพให้อยู่ในระดับที่ดีต่อเนื่อง

.

“ในช่วงไตรมาส 4/65 บริษัทคาดว่า จะมีความชัดเจนในการแยกธุรกิจธนาคารบางส่วนออกมาจากธุรกิจของธนาคารไทยพาณิชย์ เพื่อทำให้การเดินหน้าธุรกิจในเครือทำได้เต็มที่ตามแผนของธนาคารไว้ ซึ่งมีส่วนของธุรกิจการเงินบางธุรกิจที่จะมีการแยกออกมา และ ธุรกิจเทคโนโลยี ซึ่งทั้ง 2 กลุ่มธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่มีสัดส่วนรายได้คิดเป็น 15-20% ของรายได้รวมของเอสซีบี เอ็กซ์”นายมาณพ กล่าว

.

ทางด้านธุรกิจอื่น ๆ ในเครือคาดว่า จะเห็นการเติบโตขึ้นต่อเนื่อง และ สร้างผลการดำเนินที่ดีเข้ามาให้กับบริษัท ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจบัตรเครดิต และ สินเชื่อส่วนบุคคล CardX ธุรกิจสินเชื่อแพลทฟอร์มดิจิทัล SCB ABACUS และ MONIX ธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ และ สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ autoX ที่ได้เปิดตัวสินเชื่อเงินไชโย แบบ Soft luanch ไปแล้ว และ ขยายสาขาไป 700 สาขา โดยที่บริษัทคาดว่าจะการขยายตัวของธุรกิจด้านการเงินอื่น ๆ ในกลุ่มขยายตัวมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังนี้

.

สำหรับธุรกิจเทคโนโลยี บริษัทยังมีการเดินหน้าพัฒนาบริการใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง และ ขยายฐานลูกค้า โดยเฉพาะแพลทฟอร์มโรบินฮู้ด ที่จะมีการขยายการให้บริการออกมาเพิ่มเติมในครึ่งปีหลังนี้ หลังจากเปิดให้บริการจองโรงแรมไปแล้วในช่วงครึ่งปีแรก

 

 

***********************************