เป็นเวลาเกือบ 30 ปี ที่สหรัฐอเมริกาสร้างจีนให้ยิ่งใหญ่ผ่านนโยบาย " Washington Concensus " และในที่สุดจีนก็ยิ่งใหญ่ขึ้นมาแบบทันตาเห็น โดยเน้น :
1) การผลิตสินค้าที่แรงงานมีราคาถูก
2) การผลิตเพื่อการส่งออก
3) การขโมยทรัพย์สินทางปัญญาจากสหรัฐอเมริกา
หลังจากที่ประเทศแข็งแกร่งแล้ว จีนก็ออกนโยบายที่จะยึดครองสหรัฐอเมริกา และยึดครองโลกด้วย 3 นโยบายดังนี้ คือ :
1) One Belt One Road
2) Made in China 2025
3) Hauwei's 5G rollout
เมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เข้ามาบริหารสหรัฐอเมริกา ก็ได้เปิดศึกเพื่อตัดกําลัง และลดทอนความฝันของจีน โดย :
1) ทํา " สงครามการค้า " กับจีน: โดยการปรับขึ้นภาษีสินค้านําเข้าจากจีนทั้งหมดจํานวน 550,000 ล้าน USD ผ่าน " สํานักงานผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา "
2) ทํา " สงครามการเงิน " กับจีน : มีผลทําให้ค่าเงินหยวนอ่อนค่าลงตํ่าสุดในรอบ 11 ปี ผ่าน " เฟด "
ที่ผ่านมา จีนเป็นฝ่ายตั้งรับเพราะเศรษฐกิจของจีนชะลอตัวลงจากผลของสงครามการค้าและสงครามการเงิน และลดความแข็งกร้าวลงในนโยบายที่จะยึดครองสหรัฐอเมริกา และโลกต่อไปในอนาคต
ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาและทั่วโลกผันผวนขึ้นลงไปตามข่าวเรื่องสงครามการค้า และสงครามการเงินระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนเป็นหลัก " และถ้านักลงทุนสามารถจับจังหวะการลงทุนจากเหตุการณ์สงครามการค้า และสงครามการเงินดังกล่าวข้างต้นได้ ก็จะสามารถคาดการณ์ทิศทางตลาดหุ้นได้อย่างถูกต้องแม่นยํา และสามารถทําเงินได้เป็นกอบเป็นกําในระยะยาว "
หมายเหตุ : โปรดติดตามการ Long และ Short Set 50 Derivatives ในระยะยาวได้ใน longtunbysak.blogspot.com และ Group Facebook