ห้องเม่าปีกเหล็ก

เทียบฟอร์ม! ตัวอย่างบริษัทในตลาดหุ้นไทย “เสี่ยเจริญ-เจ้าสัวธนินท์”

โดย นายสะอาด
เผยแพร่ :
261 views

เทียบฟอร์ม! ตัวอย่างบริษัทในตลาดหุ้นไทย

ของ 2 มหาเศรษฐี “เสี่ยเจริญ-เจ้าสัวธนินท์”

.

“เจริญ สิริวัฒนภักดี” นักธุรกิจชื่อดัง ผู้ประกอบธุรกิจอย่างหลากหลาย โดยธุรกิจที่รู้จักกันอย่างดี คงหนีไม่พ้น “ไทยเบฟเวอเรจ” ขณะที่ “ธนินท์ เจียรวนนท์” เจ้าของอาณาจักร เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือกลุ่ม ซีพี บริษัทเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

.

โดยทั้ง 2 มหาเศรษฐี เร็วๆนี้ กำลังจะมีแผนผลักดันบริษัทในเครือเข้าตลาดหุ้นไทย อย่างบริษัท ซีพีเอฟ โกลบอล ฟู้ด โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CPFGS บริษัทย่อยของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF และบริษัท บิ๊กซี รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำากัด (มหาชน) หรือ BRC บริษัทย่อยของบริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC

.

สำหรับ CPFGS เป็นหนึ่งในผู้นำด้านการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์และอาหาร รวมถึงกิจการร้านอาหารและธุรกิจขนมสัตว์เลี้ยง ภายใต้กลุ่ม CPF โดยในปี 2565 มีรายได้จากการขายสินค้า 170,830 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% จากปี 2564 อยู่ที่ 137,754 ล้านบาท เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยปี 2565 มีกำไร 6,173 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 133.3% จากปี 2564 อยู่ที่ 2,646 ล้านบาท

.

ทั้งนี้สินค้าที่เราคุ้นเคยก็มีอย่างหลากหลายเช่นกัน อาทิ ตราสินค้าต่าง ๆ เช่น “ซีพี (CP)” “บุชเชอร์ (Bucher)” “บีเคพี (BKP)” “ซูเปอร์เชฟ (Superchef)” เป็นต้น รวมทั้งธุรกิจร้านอาหาร คือ กิจการห้าดาว (Five Star) ร้านเชสเตอร์ (Chester’s)

.

ส่วน BRC บริษัทเรือธง (Flagship Company) สําหรับธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ และธุรกิจค้าส่งและสนับสนุนการค้าปลีกแบบดั้งเดิมของกลุ่ม BJC และกลุ่ม TCC ซึ่งธุรกิจที่คุ้นตาก็คือ บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ร้านขายยาเพรียว ร้านขายยาสิริฟาร์มา ร้านกาแฟวาวี เป็นต้น

.

โดยผลการดำเนินงานปี 2563 มีรายได้รวม 113,099.70 ล้านบาท มีผลขาดทุน 709.5 ล้านบาท ส่วนปี 2564 มีรายได้รวม 111,106.90 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 7,332.80 ล้านบาท และปี 2565 มีรายได้รวม 113,573.20 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 6,756.80 ล้านบาท

.

ทั้งนี้ 2565 มีรายได้จากการขายสินค้า ซึ่งประกอบด้วย การขายสินค้าจากธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ ธุรกิจค้าส่งและสนับสนุนการค้าปลีกแบบดั้งเดิม และธุรกิจอื่น ๆ จำนวน 96,984.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.8% จากปี 2564 เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายสินค้าจากธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ของบริษัทฯ หักกลบบางส่วนกับการลดลงของรายได้จากการขายสินค้าจากธุรกิจค้าส่งและสนับสนุนการค้าปลีกแบบดั้งเดิม

.

ดังนั้นเพื่อต้อนรับทั้ง 2 บริษัทดังกล่าว Wealthy Thai จึงได้หยิบยกบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยของทั้ง 2 มหาเศรษฐี มาฝากนักลงทุน ซึ่งจะมีบริษัทไหนบท เราสรุปให้แล้วใน Infographic นี้

 

 


นายสะอาด