ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้จัดทำการศึกษาโครงสร้างผู้ถือหุ้นในตลาดหุ้นไทย ปี 2565 โดยฝายวิจัยของตลาดหลักทรัพย์ และเผยแพร่ผ่าน SET Note ซึ่งในภาพใหญ่พบว่า ในตลาดหุ้นไทยมีนักลงทุนไทยมีมูลค่าถือครองหุ้นรวม 73.16% ของมูลค่ารวมหลักทรัพย์ตามราคาตลาด และนักลงทุนต่างประเทศมีมูลค่าการถือครองหุ้นรวม 26.84% ของมูลค่ารวมหลักทรัพย์ตามราคาตลาด

.
.
เมื่อแยกตามการถือครองหุ้น ในตลาดหุ้นไทย จะประกอบด้วยนักลงทุน 4 ประเภท
.
1.นักลงทุนต่างประเทศ หมายถึง นักลงทุนที่มีสัญชาติอื่นใดนอกเหนือจากนักลงทุนไทย
-สัดส่วนถือครองหุ้นปี 2565 อยู่ที่ 26.84% ลดลงจากปี 2564 ที่อยู่ที่ 27.16%
.
2. นักลงทุนสถาบันในประเทศ หมายถึงนักลงทุนตามรายชื่อ / กลุ่มอาชีพตามประกาศของสำนักงาน ก.ล.ต.
-สัดส่วนถือครองหุ้นปี 2565 อยู่ที่ 23.54% ลดลงจากปี 2564 ที่อยู่ที่ 21.27%
.
3.บริษัทหลักทรัพย์ ทั้งที่เป็นสมาชิกตลาดหลักทรัพย์ฯ (broker) และไม่ได้เป็นสมาชิกตลาดหลักทรัพย์ฯ
- สัดส่วนถือครองหุ้นปี 2565 อยู่ที่ 0.27% ลดลงจากปี 2564 ที่อยู่ที่ 0.25%
.
4. นักลงทุนภายในประเทศ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มนักลงทุนรายย่อย และกลุ่มนักลงทุนที่เป็นนิติบุคคลอื่นๆ
-นักลงทุนรายย่อย สัดส่วนถือครองหุ้นปี 2565 อยู่ที่ 29.66% ลดลงจากปี 2564 ที่อยู่ที่ 29.57%
-นิติบุคคลอื่นๆ สัดส่วนถือครองหุ้นปี 2565 อยู่ที่ 19.69% ลดลงจากปี 2564 ที่อยู่ที่ 21.76%
.
.
ผลศึกษาพบว่า ตลาดหุ้นไทยมีสัดส่วนมูลค่าการถือครองหุ้นของนักลงทุนทั้ง 4 ประเภท ในสัดส่วนใกล้เคียงกัน คือ ประมาณ 1 ใน 4 ของตลาด โดยมูลค่าการถือครองหุ้นประมาณ 3 ใน 4 ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดเป็นการถือครองหุ้นโดยนักลงทุนไทย ขณะที่อีก 1 ใน 4 เป็นการถือครองหุ้นโดยนักลงทุนต่างประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับสิทธิประโยชน์ของผ้ถูือหุ้น (shareholders’ benefits) ที่มูลค่าการถือครองหุ้นรวม 3 ใน 4 ของทั้งตลาดเป็น local shares
.
.
นั่นหมายถึงว่า นักลงทุนถือครองหลักทรัพย์ตรงตามสิทธิประโยชน์ส่งผลให้นักลงทุนได้รับสิทธิประโยชน์ครบถ้วน ทั้งสิทธิในการออกเสียงในที่ประชุมผู้ถือหุ้น (voting rights) และสิทธิประโยชน์ทางการเงิน(financial benefits)
.
.
โดยสรุปจากการศึกษาโครงสร้างผู้ถือหุ้นในตลาดหุ้นไทย ปี 2565 พบว่า ในตลาดหุ้นไทยมีสัดส่วนมูลค่าการถือครองหุ้นของนักลงทุนแต่ละประเภทในสัดส่วนใกล้เคียงกัน และนักลงทุนยังให้ความสำคัญกับการรักษาสิทธิประโยชน์ของตนเองโดยเลือกถือครองหุ้นตรงตามสิทธิทำให้ได้รับัสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหุ้นครบถ้วน
.
.
สำหรับข้อมูลที่ใช้ในการศึกษารวบรวมจาก
1.ข้อมูลการปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้น
2.ข้อมูล Corporate Actions
3.ข้อมูลการระดมทุนผ่านตลาดรอง ของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด 783 บริษัท
.
.
โดยใช้ข้อมูลล่าสุดถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม 2565 ซึ่งมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมกว่า 19.04 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 99.40% ของมูลค่าหลักทรัพย์รวมทั้งตลาด
.