คลังเฮ! ครม.เปิดทางขายหุ้นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯที่คลังถือต่ำกว่า 50% สคร.เดินหน้าจ้างที่ปรึกษาพิจารณาเลือกหุ้น เผย 14 บริษัทเข้าข่าย ปัจจุบันมีมูลค่ารวม 3.1 หมื่นล้านบาท
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ได้เสนอขอให้ ครม.มีมติอนุมัติให้ปรับปรุงมติ ครม. เมื่อวันที่ 1 มี.ค. 2554 เรื่อง การจำหน่ายหลักทรัพย์ของรัฐ โดยขออนุมัติหลักการให้จำหน่ายหลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) รวมทั้งบริษัทจดทะเบียนใน ตลท. และกระทรวงการคลังถือหุ้นต่ำกว่า 50% ที่มีลักษณะ ได้แก่ 1) หลักทรัพย์ที่ได้จากการยึดทรัพย์ 2) หลักทรัพย์ที่ได้รับโอนมาจากส่วนราชการอื่น เนื่องจากหมดความจำเป็นตามนโยบายของภาครัฐ และ 3) หลักทรัพย์ที่ภาครัฐไม่มีความจำเป็นในการถือครองไว้เพื่อการพัฒนาประเทศ หรือหลักทรัพย์ของบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่เอกชนดำเนินการได้ดีอยู่แล้ว
"ทางคลังเห็นว่าปัจจุบันยังมีหลักทรัพย์บางส่วนที่ไม่มีความจำเป็นต้องถือครองและเป็นหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลท.ที่สามารถจำหน่ายได้จึงขอปรับปรุงมติครม.เมื่อวันที่ 1 มี.ค. 2554 เพื่อให้การจำหน่ายหลักทรัพย์ของรัฐ ครอบคลุมถึงหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนใน ตลท.ด้วย" แหล่งข่าวกล่าว
สำหรับการปรับปรุงมติ ครม.ดังกล่าว เพื่อให้การบริหารจัดการหลักทรัพย์มีประสิทธิภาพมากขึ้น และเป็นการลดภาระการบริหารจัดการหุ้นที่กระทรวงการคลังหมดความจำเป็นในการถือครอง ซึ่ง ครม.เห็นควรมอบอำนาจให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาวิธีการจำหน่าย ราคาที่จะจำหน่าย และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายหุ้นในทางที่ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อภาครัฐ และนำเงินเข้าบัญชีเงินฝากเพื่อการซื้อหุ้นตามระเบียบกระทรวงการคลัง เพื่อนำเงินที่ได้ไปลงทุนในกิจการต่าง ๆ ตามแผนของกระทรวงการคลังต่อไป
ทั้งนี้ ข้อมูลจากกระทรวงการคลัง ล่าสุด (30 เม.ย. 59) พบว่า มีหลักทรัพย์ที่คลังถือครองทั้งสิ้น 110 แห่ง คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 1,183,437 ล้านบาท โดยหลักทรัพย์ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ แบ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ 6 แห่ง ราคาตลาด 856,047 ล้านบาท และราคาตามบัญชี 537,103 ล้านบาท กับหุ้นบริษัทเอกชนอีก 14 แห่ง ราคาตลาด 31,629 ล้านบาท และราคาตามบัญชี 20,543 ล้านบาท
ในส่วนหลักทรัพย์ที่ไม่ได้อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะแบ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ 17 แห่ง ราคาตลาด 291,069 ล้านบาท และราคาตามบัญชี 291,069 ล้านบาท กับหุ้นบริษัทเอกชนอีก 73 แห่ง ซึ่งมีราคาตลาด 4,692 ล้านบาท และราคาตามบัญชี 4,692 ล้านบาท
"การพิจารณาว่าจะจำหน่ายหุ้นตัวใดนั้นทาง สคร. (สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ) จะมีการจ้างที่ปรึกษาเข้ามาดำเนินการ โดยหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ฯที่กระทรวงการคลังถือหุ้นต่ำกว่า 50% มีมูลค่ารวมตามราคาตลาด ณ เม.ย. 2559 ที่ 31,598.42 ล้านบาท " แหล่งข่าวกล่าว
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า เหตุผลที่ต้องมีการปรับปรุงมติ ครม. เมื่อวันที่ 1 มี.ค. 2554 เนื่องจากมติ ครม.ดังกล่าวอนุมัติให้จำหน่ายหุ้นที่กระทรวงการคลังถืออยู่ในบริษัทต่าง ๆ ที่ต่ำกว่า 50% ได้ แต่ต้องเป็นบริษัทภายนอก ตลท. แต่เนื่องจากหุ้นที่กระทรวงการคลังถือต่ำกว่า 50% บางบริษัทอยู่ใน ตลท. และอาจจะมีนโยบายให้จำหน่ายออกไป จึงจำเป็นต้องเสนอ ครม.ขยายขอบเขตดังกล่าว