ห้องเม่าปีกเหล็ก

ส่องพื้นฐาน 4 หุ้นดัง!

โดย eighteen nineteen
เผยแพร่ :
337 views

ส่องพื้นฐาน 4 หุ้นดัง!

รับผลดีราคาหมู -ไก่พุ่ง ดันกำไรปี 66 โดดเด่น

 

.

เนื้อหมูและเนื้อไก่ถือเป็นเนื้อสัตว์หลักที่ผู้บริโภคนิยมนำมาประกอบการอาหาร ซึ่งที่ผ่านมาราคามีความผันผวนจากปัญหาโรคระบาดในหมูและไก่ รวมถึงความต้องการบริโภคเนื้อสัตว์ที่เพิ่มขึ้น โดยบล.เอเซีย พลัส ระบุว่า แนวโน้มราคาเนื้อหมูและเนื้อไก่ในช่วงต้นปี 2566 ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง

.

โดยประเมินว่าปัจจุบันปริมาณแม่พันธุ์หมู ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ระบาดราว 30% ช่วยผลักดันให้ราคาเนื้อหมูและเนื้อไก่ยืนอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องในปี 2566 นับจะเป็นผลบวกต่อผู้ประกอบการที่อยู่ในอุตสาหกรรม

.

ดังนั้น Wealthy Thai จึงมีแนวโน้มการดำเนินงานของหุ้นหมู-ไก่ ที่คาดว่าจะได้รับผลบวกจากปัจจัยดังกล่าว ได้แก่ CPF, TFG, GFPT และ BTG มาฝากนักลงทุน

.

มาเริ่มที่หุ้นตัวแรก CPF หรือ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารแบบครบวงจรในเครือเจริญโภคภัณฑ์ โดยบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า ยังมีมุมมองบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของ CPF ในปี 2566 ที่คาดจะเติบโตต่อจากปี 2565 จากธุรกิจในต่างประเทศที่ฟื้นตัวได้มากขึ้น

.

ขณะที่ราคาหมูและไก่ในประเทศคาดจะยังทรงตัวระดับสูงถึงช่วงครึ่งแรกของปีนี้เป็นอย่างน้อย ประกอบกับแนวโน้มราคาต้นทุนที่คาดจะชะลอลงหนุนอัตราการทำกำไร โดยยังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 31.50 บาท

.

ถัดมา BTG หรือ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) อีกหนึ่งธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารครบวงจรรายใหญ่ของไทย โดยบล.บัวหลวง ระบุว่า คาดปี 2566 บริษัทมียอดขายที่ 1.22 แสนล้านบาท เติบโต 14% จากปีก่อน ซึ่งจะมาจากการเติบโตในระดับตัวเลขสองหลักจาก 3 ธุรกิจได้แก่ ธุรกิจอาหารและโปรตีน ธุรกิจต่างประเทศ และธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง

.

ขณะที่ธุรกิจเกษตรมีแนวโน้มเติบโต 9% โดยทุกธุรกิจ (ยกเว้นธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง) จะได้รับปัจจัยหนุนมาจากวอลุ่มขายที่เพิ่มขึ้นมากกว่าราคาขายที่เพิ่มขึ้น โรงงานอาหารสัตว์แห่งใหม่ในจังหวัดนครราชสีมาจะเป็นปัจจัยหนุนยอดขายของธุรกิจเกษตร ในขณะที่โรงเชือดหมูแห่งใหม่ในจังหวัดนครปฐมจะช่วยเพิ่มวอลุ่มขายหมูในปี 2566 การอัพเกรดโรงเชือดไก่ที่มีอยู่ ณ ปัจจุบันจะเป็นปัจจัยหนุนรองรับวอลุ่มส่งออกไก่ให้เพิ่มขึ้นในปี 2566

.

ส่วนยอดขายต่างประเทศส่วนมากจะหนุนจากวอลุ่มขายที่เพิ่มมากขึ้นจากการขยายกำลังการผลิต ในขณะที่ราคาขายที่ปรับเพิ่มขึ้นจะเป็นปัจจัยหนุนยอดขายของธุรกิจสัตว์เลี้ยงในปี 2566 ซึ่งมองว่ายอดขายที่เติบโต 14% มีแนวโน้มที่จะกลบผลกระทบของอัตรากำไรขั้นต้นที่มีแนวโน้มอ่อนตัวลงเล็กน้อย และส่งผลให้กำไรขั้นต้นขยายตัว 13% และกำไรหลักขยายตัว 17% ในปี 2566 โดยแนะนำ ซื้อเก็งกำไร ราคาเป้าหมาย 52 บาท

.

ต่อมา TFG หรือ บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บล.บัวหลวง ระบุว่า เนื่องจากราคาปศุสัตว์ไทยที่ยังคงยืนในระดับสูง บวกกับวอลุ่มขายที่จะเพิ่มขึ้นจากการขยายกาลังการผลิตอีก 60% ของทั้งธุรกิจหมูในไทยและเวียดนาม (สำหรับธุรกิจหมูในไทยจาก 1.1-1.2 แสนตันในปี 2565 ไปเป็นประมาณ 2 แสนตันในปี 2566 ส่วนธุรกิจหมูในเวียดนามจาก 3 หมื่นตันไปเป็น 5 หมื่นตัน) นอกจากนี้ บริษัทคาดว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตไก่ไทยขึ้นอีก 20% (จาก 4 แสนตันในปี 2565 ไปเป็น 4.3-4.4 แสนตันในปี 2566)

.

ขณะเดียวกันร้านค้าปลีกของบริษัทภายใต้ชื่อ "ไทยฟู้ดส์ เฟรช มาร์เก็ต" คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 220 แห่ง ณ สิ้นปี 2565 ไปเป็น 380-400 แห่ง ณ สิ้นปี 2566 ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ยอดขายธุรกิจร้านค้าปลีกเติบโตอีกเท่าตัวจาก 6.5 พันล้านบาทในปี 2565 ไปเป็น 1.3 หมื่นล้านบาทในปี 2566

.

นอกจากนี้คาดว่าธุรกิจร้านค้าปลีกของบริษัทจะถึงจุดคุ้มทุนได้ภายในปีนี้ อีกทั้งอัตราค่าระวางเรือที่ปรับตัวลดลง 20-25% ในทุกเส้นทาง (จากที่แตะระดับสูงสุดในไตรมาส 1/65) จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะหนุนกำไรของ TFG ให้ยังคงขยายตัวในปี 2566 แนะนำ ซื้อเก็งกำไร ราคาเป้าหมาย 10.73 บาท

.

และสุดท้าย GFPT หรือ บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า แนวโน้มการท่องเที่ยวฟื้นตัวในญี่ปุ่น-จีนคาดว่าจะทำให้การส่งออกไก่ไปญี่ปุ่น-จีนเติบโตเด่น ทั้งปริมาณส่งออกและราคาไก่ส่งออก ขณะที่การท่องเที่ยวของไทยฟื้นตัวเด่นกระตุ้นปริมาณขายและราคาไก่ในประเทศด้วย คาด GFPT มียอดขายและกำไรสุทธิในปี 2566 ยังค่อนข้างเด่น โดยปัจจัยบวกในปี 2565 ที่หายไปคือค่าเงินบาทอ่อนค่า แต่ปัจจัยบวกในปีนี้ยังมีเข้ามาทดแทนได้แก่ค่า Freight ลดลง และราคาถั่วเหลืองลดลง

.

คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2566-2567 เติบโต 4.4% จาก 2,086 ล้านบาท ในปี2565 มาที่ 2,144 ล้านบาท และ 2,274 ล้านบาท ตามลำดับ โดยปัจจัยหนุนในปีนี้มาจาก จากการส่งออกไก่ไปญี่ปุ่น-จีนที่การบริโภคพื้นตัวรับท่องเที่ยว ส่วนการบริโภคในประเทศคาดได้ปริมาณขายเพิ่มขึ้นทั้งจากนักท่องเที่ยวและผู้บริโภคในไทย รวมถึงการลดต้นทุนวัตถุดิบและค่าขนส่ง แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 18.70 บาท

 

 


eighteen nineteen