แฉกลโกงเปิดเงินสกุลบิตคอยน์ หลอกระดมทุนคล้ายแชร์ลูกโซ่
" ผอ.ดีป้า " อธิบายบิตคอยน์ ชี้กลโกงนักต้มตุ๋น เปิดเงินสกุลบิตคอยน์ขึ้นใหม่ เพื่อหลอกระดมทุนคล้ายแชร์ลูกโซ่
จากกรณีกองปราบบุกจับนายแบบชื่อดัง บูม-จิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต ฐานฟอกเงิน หลังหลอกต่างชาติลงทุนเงินสกุลบิตคอยเสียหายกว่า 700 ล้านบาท ทำให้หลายคนสงสัยว่า เงินสกุลบิตคอยคืออะไร
ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) กล่าวว่า ปัจจุบันยังเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนจากสาธารณชนเกี่ยวกับเงินสกุลดิจิทัล โดยข้อเท็จจริงแล้วระบบเงินสกุลดิจิทัลเป็นระบบการโอนเงินที่สาธารณะร่วมกันทำงาน ไม่ต้องใช้สถาบันการเงินหรือหน่วยงานใดเป็นตัวกลางในการตรวจสอบและบันทึกข้อมูลการโอนเงิน ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมโดยการนำคอมพิวเตอร์ของตนเองมาร่วมทำงานในระบบนี้ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เมื่อต้นทางสั่งโอนเงินไปยังปลายทาง คอมพิวเตอร์ของทุกคนในระบบจะเห็นคำสั่งดังกล่าว และ ช่วยกันตรวจสอบว่าการสั่งโอนดังกล่าวมาจากต้นทางที่แท้จริงหรือไม่ และต้นทางมีเงินเพียงพอหรือไม่
ซึ่งกระบวนการตรวจสอบจะให้คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในเครือข่ายแข่งกันคำนวณเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง และเครื่องใดทำได้ก่อนจะได้รางวัลเป็นเหรียญในสกุลเงินดิจิทัล และ ข้อมูลที่ตรวจสอบเสร็จแล้ว จะถูกนำไปเก็บไว้ในรายการประวัติธุรกรรมที่เป็นบล็อกเชน ซึ่งเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่จัดเก็บแบบเรียงลำดับต่อไปเรื่อย ๆ ตามลำดับของการเกิดขึ้นของธุรกรรม และ ข้อมูลประวัติธุรกรรมนี้จะถูกเก็บไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่อาสามาร่วมในเครือข่ายสกุลเงินนี้ และแก้ไขประวัติย้อนหลังได้ยาก
ดร.ณัฐพล กล่าวต่อว่า ในช่วง 6-7 ปีที่ผ่านมา ก็มีการสร้างเงินสกุลดิจิทัลขึ้นมามากมาย โดยหากเรียงตามมูลค่าตามราคาตลาด คำนวณจากจำนวนเหรียญคูณด้วยอัตราซื้อขาย เงินสกุลดิจิทัล 5 อันดับแรกได้แก่ Bitcoin, Ethereum, Ripple, Bitcoin Cash, และ Litecoin แต่ในความเป็นจริงแล้วเงินสกุลดิจิทัลที่มีการสร้างขึ้นมานั้นมีสูงถึงกว่า 1,500 สกุล ซึ่งแต่ละสกุลเงินก็มีระดับความนิยมและความน่าเชื่อถือแตกต่างกันไป
อย่างไรก็ตาม ผอ.ดีป้า กล่าวว่า ราคาหรือมูลค่าของเงินสกุลดิจิทัลนั้น จะขึ้นลงตามอุปสงค์และอุปทาน ถือเป็นกลไกตลาดอย่างแท้จริง ผู้สนใจเงินสกุลดิจิทัลนั้นมีหลากหลาย ตั้งแต่การทดลองเล่นกับนวัตกรรมเทคโนโลยีการเงินด้วยความอยากรู้อยากเห็น การร่วมผลิตเงินสกุลดิจิทัลหรือที่เรียกว่าขุดเหมือง เพื่อหวังผลตอบแทน การใช้เงินสกุลดิจิทัลเป็นทางเลือกในการเก็บเงิน การลงทุนระยะสั้นและระยะยาวเพื่อหวังกำไร หรือแม้แต่การลงทุนกับกลุ่มสตาร์ทอัพที่ระดมทุนแบบ Initial Coin Offering ( ICO )
“ตลาดเงินสกุลดิจิทัลเป็นตลาดที่มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากมีเงินลงทุนไหลเข้ามามาก ทำให้ราคาเกิดความผันผวน และ ตลาดมีความอ่อนไหวสูง จนมีการมองว่าระบบเงินสกุลดิจิทัลจะไม่มีความยั่งยืน เพราะไม่ได้ถูกสร้างขึ้นโดยมีสินทรัพย์ที่มีค่ารองรับมูลค่าของสกุลเงิน และยังมองว่าปริมาณเงินที่สร้างขึ้นก็อาจไม่สามารถควบคุมให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจที่แท้จริงได้ นอกจากนี้ ในธุรกิจเงินสกุลดิจิทัล มีการโจมตี ขโมย กลโกง หรือการหลอกลวงเกิดขึ้นเป็นระยะ ยิ่งไปกว่านั้น ธุรกิจเงินสกุลดิจิทัลนี้ยังปรากฏนักหลอกลวงต้มตุ๋นเกิดขึ้นมากมาย เช่น การเปิดเงินสกุลดิจิทัลขึ้นใหม่และมาหลอกระดมทุนในลักษณะคล้ายแชร์ลูกโซ่ เป็นต้น ” ดร.ณัฐพล กล่าว
มีรายงานว่าเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา หลังจากมีข่าวการจับกุม นายจิรัชพิสิษฐ์ หรือ บูม ดาราหนุ่มออกไป นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ เจ้าพ่อตลาดหลักทรัพย์ของเมืองไทย ได้เดินทางมายังกองบังคับการปราบปราม เพื่อขอเข้าพบ พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รองผู้บังคับการกองปราบปราม (รองผบก.ป) เจ้าของสำนวนการสอบสวนคดีดังกล่าว เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะเดินทางกลับในช่วงบ่ายวันเดียวกัน
ทั้งนี้ พ.ต.อ.ชาคริต กล่าวภายหลังการเข้าพบว่า นายประสิทธิ์ ได้เดินทางมาขอเข้าพบเพื่อขอพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องคดีการโกงเงินบิทคอยน์ที่มีการจับกุมผู้ต้องหาไป เมื่อมาขอพบตนก็ให้เข้าพบตามปกติ อย่างไรก็ตามรายละเอียดของการพูดคุยคงไม่สามารถเปิดเผยได้ มีเพียง นายประสิทธิ์ พูดทำนองว่าจะขอไปเจรจาเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับผู้เสียหาย ซึ่งตนก็ระบุว่าก็เป็นเรื่องที่เขาจะไปจัดการเอง เพราะปัจจุบัน นายประสิทธิ์ ก็ยังไม่มีหมายจับในคดีนี้และปัจจุบันก็ยังไม่ได้มีการออกหมายจับใครเพิ่มเติมนอกจากออกหมายจับคดีฟอกเงินกับผู้ต้องหา 3 คนก่อนหน้านี้ และตำรวจก็ยังไม่ได้แจ้งข้อหาแก่ นายประสิทธิ์ แต่อย่างใด
รายงานข่าวแจ้งว่า การออกหมายจับผู้ต้องหา 3 พี่น้องในข้อหาฟอกเงินนั้นเนื่องจากพบการกระทำความผิดที่ชัดเจน มีการรับเงินมาแล้วนำไปซื้อที่ดินเพื่อเปลี่ยนสภาพของเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิด จึงเข้าข่ายการฟอกเงินอย่างชัดเจน นอกจากนี้จะมีการพิจารณาแจ้งข้อหาฉ้อโกงเพิ่มเติมอีกด้วยซึ่งจะต้องรวบรวมหลักฐานเพื่อออกหมายจับและแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป ส่วนผู้ต้องหาอีก 4 คนนั้นเบื้องต้นยังไม่พบว่าเข้าข่ายการฟอกเงินแต่มีการรับโอนเงินจากกลุ่มผู้ต้องหาจึงอาจจะเข้าข่ายกระทำความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ ขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 4 คนต่อไปในเร็วๆนี้ ซึ่งในจำนวนนี้ มีคนหนึ่งที่เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในตลาดหลักทรัพย์ ด้วย
อนึ่ง วัฏจักรราคา Bitcoin เป็นดังนี้ คือ :
1) วันที่ 31 ธันวาคม ปี พ.ศ 2559 : ราคา Bitcoin = 968 USD
2) วันที่ 16 ธันวาคม ปี พ.ศ 2560 : ราคา Bitcoin = 19,783 USD ( All Time High )
3) วันที่ 16 มิถุนายน ปี พ.ศ 2561 : ราคา Bitcoin = 5,845 USD
4) วันที่ 9 สิงหาคม ปี พ.ศ 2561 : ราคา Bitcoin = 6,462 USD
หมายเหตุ : 1) ที่มาจาก ( www.bangkokbiznews.com ) ในวันนี้ วันที่ 10 สิงหาคม ปี พ.ศ 2561 และ ( www.google.com )
2) โปรดติดตามรายละเอียดการลงทุนใน สภาวะตลาดกระทิง และ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างขาขึ้นรอบใหญ่ได้ใน longtunbysak.blogspot.com