CV ประกาศชะลอแผนเพิ่มทุน 4 พันลบ.
เหตุราคาหุ้นในกระดานต่ำกว่าราคาเพิ่มทุน
ตะลึง “ซีอีโอ” ขายหุ้น 16 วันรวด กว่า 107 ล้านหุ้น

.
หากพูดถึงหุ้นไอพีโอในช่วงในปีผ่านมาก็มีหลากหลายตัวที่ทำให้นักลงทุนทั้งรักและช้ำ ซึ่งบริษัท โคลเวอร์ เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CV เองก็ด้วยเช่นกัน ที่ได้เข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 2 ก.ย. 2564 และราคาจองซื้อหุ้นไอพีที่ 3.90 บาท
.
โดยในวันนี้ทาง Wealthy Thai จะพาผู้อ่านไปย้อนไทม์ไลน์ในหุ้น CV กันว่า นับตั้งแต่ต้นปี 2566 มาจนถึงปัจจุบัน ณ วันที่ 13 พ.ย.66 เกิดอะไรขึ้นมาจนทำให้ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นลดลง เหลือเพียง 0.52 บาท
.
เริ่มต้นกันที่การประกาศข่าวใหญ่จากการประชุมคณะกรรมการบริษัท(บอร์ด) ในวันที่ 16 ส.ค.66 ที่ได้มีการขอเพิ่มจดทะเบียนจำนวน 1,920 ล้านบาท เป็น 2,560 ล้านบาท จากเดิมที่ 640 ล้านบาท โดยออกหุ้นสามัญใหม่ 3,840 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท
.
สำหรับวัตถุประสงค์การใช้เงินเพื่อนำไปลงทุนหรือซื้อหุ้นสามัญ บริษัท เวสท์เทค เอ็กซ์โพเนนเชียล จำกัด (WTX) ในสัดส่วน 20% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายในราคาซื้อขายหุ้นละ 28.10 บาท หรือคิดเป็นราคาซื้อขายรวมทั้งสิ้นประมาณ 1,040 ล้านบาท ขณะที่จำนวนเงินที่เหลือจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
.
แต่อย่างไรก็ตามในช่วงเช้าวันที่ 13 พ.ย.66 บริษัทได้มีการแจ้งข่าวผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้พิจารณาและมีมติอนุมัติให้ยกเลิกการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (RO) ในราคา 1 บาทต่อหุ้น
.
โดยให้เหตุผลว่า ภายหลังจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 7/2566 เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2566 ได้เกิดความเปลี่ยนแปลงในสถานการณ์ทางเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ
.
รวมถึงเกิดผลกระทบจากสถานการณ์สงครามในต่างประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ในต่างประเทศและในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
.
รวมทั้งส่งผลให้ราคาซื้อขายหุ้นของบริษัท มีมูลค่าลดลงต่ำกว่าราคาเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน และต่ำกว่าราคาการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท
.
ดังนั้น เพื่อเป็นการปกป้องผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้น และเพื่อให้การเพิ่มทุนของบริษัทฯ สามารถดำเนินการได้สำเร็จตามวัตถุประสงค์แล้ว ที่ประชุมฯ เห็นว่า บริษัท มีความจำเป็นต้องทำการปรับปรุงแก้ไขราคาเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนที่เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) และราคาการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 1 (CV-W1) ให้สะท้อนราคาซื้อขายหุ้นของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปัจจุบัน
.
นอกจากนี้ จากการรวบรวมข้อมูลทาง Wealthy Thai พบว่า นาย เศรษฐศิริ ศักดิ์สิทธิเสรีกุล ผู้ที่สวมบทบาททั้งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุดของ CV ได้การรายงานการขายหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ 17 ส.ค. 66 มาจนถึงวันที่ 7 พ.ย.66 รวมกันกว่า 107 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นมูลรวมประมาณ 101 ล้านบาท
