ห้องเม่าปีกเหล็ก

BGRIM จัดทัพเข้าประมูลโรงไฟฟ้า

โดย Forest
เผยแพร่ :
134 views

BGRIM จัดทัพเข้าประมูลโรงไฟฟ้าอีก 3.68 พันเมก

กางแผนปี 66 มีโรงไฟฟ้า COD อีก 4 โครงการ

เล็งทุ่มงบลงทุน 4.25 แสนลบ. อัพกำลังผลิตเพิ่ม

.

BGRIM เผยโรงไฟฟ้าผ่านเกณฑ์รับซื้อไฟจากกกพ. 25 โครงการ รวมกว่า 500 เมกะวัตต์ เล็งเข้าร่วมประมูลแผนรับซื้อไฟเพิ่ม 3,668.5 เมกะวัตต์ พร้อมบุกต่างประเทศต่อเนื่อง ตั้งเป้ากำลังผลิตไฟฟ้าที่เวียดนาม 20 เมกะวัตต์-ยุโรป 200-300 เมกะวัตต์

.

นางสาวศิริวงศ์ บวรบุญฤทัย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงินและบัญชี บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ FiT ปี 2565-2573 สำหรับกลุ่มโรงไฟฟ้าประเภทไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง พ.ศ. 2565 จำนวน 5,203 เมกะวัตต์ นั้น บริษัทผ่านเกณฑ์ทั้งหมด 25 โครงการ รวมเป็นกำลังผลิตมากกว่า 500 เมกะวัตต์ นอกจากนี้บริษัทยังมองเห็นโอกาสจากแผนการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานสะอาดเพิ่มอีก 3,668.5 เมกะวัตต์ ของกกพ. โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษา เบื้องต้นสนใจในส่วนของธุรกิจไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์

.

สำหรับความคืบหน้าการเข้าลงทุนใน Lotuscom Limited Liability Company ซึ่งประกอบธุรกิจไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งบนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) ในประเทศเวียดนาม โดยบริษัทตั้งเป้ากำลังผลิตที่ 20 เมกะวัตต์ ซึ่งจะเน้นกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมเป็นหลัก

.

ส่วนการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าในยุโรป บริษัทตั้งเป้ากำลังผลิตรวมที่ 200-300 เมกะวัตต์ ซึ่งเฟสแรกอาจพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าประมาณ 100-150 เมกะวัตต์ คาดใช้งบลงทุนราว 5,000-7,000 ล้านบาทต่อโครงการ ซึ่งเงินลงทุนจะมาจากการกู้ยืมสถาบันการเงินและกระแสเงินสดของบริษัทในอัตรา 70 ต่อ 30

.

ด้านโครงการ LNG-to-Power ขนาด 3,800 เมกะวัตต์ ในมุย เค กา จังหวัดบินห์ทวน ทางตอนใต้ของประเทศเวียดนาม ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างรอความชัดเจนของแผนแม่บทการพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าฉบับที่ 8 ของรัฐบาลเวียดนาม อย่างไรก็ตาม แนวโน้มราคาก๊าซธรรมชาติที่สูงขึ้นน่าจะมีการส่งผ่านค่าก๊าซฯ ไปยังค่าไฟเพื่อป้องกันความเสี่ยงของผู้ประกอบการ

.

ทั้งนี้ ในปี 2566 บริษัทยังมุ่งขยายการลงทุนต่อเนื่อง โดยมีแผนเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์โรงไฟฟ้าทั้งหมด 4 โครงการ รวมเป็นกำลังผลิต 438 เมกะวัตต์ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้า SPP เพื่อทดแทนโรงไฟฟ้าเดิม BGPM2R, โครงการโรงไฟฟ้าแบบผสมผสาน อู่ตะเภา และโครงการโรงไฟฟ้า SPP ใหม่ 2 โครงการ BGPAT2&3

.

รวมถึงตั้งเป้าเพิ่มลูกค้าอุตสาหกรรม (IU) ใหม่ด้วยสัญญาซื้อขายไฟฟ้ารวม 50-60 เมกะวัตต์ จากปีก่อนอยู่ที่ 30 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับการควบคุมค่าใช้จ่าย เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย อย่างน้อย 50-70 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันมีโครงการที่บริษัทสามารถนำกลับมาบริหารจัดการเอง 1 โครงการ คาดว่าจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายราว 20-25 ล้านบาทต่อปี

.

ขณะที่แนวโน้มราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับโรงไฟฟ้า SPP คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 400-450 บาทต่อล้าน BTU ในปี 2566 จาก 476 บาทต่อล้าน BTU ในปี 2565

.

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมุ่งพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้า เพื่อเพิ่มกำลังผลิตให้ได้ตามเป้าหมาย 10,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2573 ซึ่งสัดส่วน 94% เป็นการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนและกลุ่มอุตสาหกรรม โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนรวม 425,400 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นงบลงทุนของบริษัทราว 70,000 ล้านบาท มาจากกระแสเงินสด 10,000 ล้านบาท กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน 45,000 ล้านบาท และการระดมทุนอีก 15,000 ล้านบาท ซึ่งในส่วนนี้บริษัทมีแผนจะออกหุ้นกู้ หรือ Perpetual bond เพื่อรรองรับ

 

 


Forest