สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -12 ธ.ค. 61 15:00 น.
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เผยในงาน "SET Talk : ภาวะตลาดหุ้นไทยและโอกาสการลงทุน" ยันหุ้น IPO ยังไม่ใช่ขาลง ชูสถิติ 80% มีกำไรวันแรก เผยเริ่มเห็นสัญญาณเงินไหลกลับ หลังสงครามการค้าผ่อนคลาย ยัน SET ลงต่ำกว่าภูมิภาค-ตลาดเกิดใหม่ เหตุพื้นฐานแกร่ง พร้อมเปิดโผ 32 หุ้นพื้นฐานดี "ปันผลงาม-ROE สูง-กำไรแจ่ม" โดยมี นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ และ นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร เป็นผู้ให้ข้อมูล มีสาระสำคัญดังนี้
-สถิติหุ้นไอพีโอปี 60-61 ราคาปิดการซื้อขายวันแรก (First day trade) ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากราคาจองซื้อถึง 80% โดยปี 60 มีหุ้นไอพีโอ 42 บริษัท ราคาปิดวันแรกต่ำจองเพียง 8 บริษัทเท่านั้น ขณะที่ปี 61 มีหุ้นไอพีโอ 20 บริษัท ต่ำจองวันแรกเพียง 4 บริษัท
"หุ้นไอพีโอยังไม่ได้หมดยุคหรือเป็นขาลงตามที่เป็นกระแส เพราะ 2 ปีที่ผ่านมา 80% ของหุ้นที่เข้าซื้อขายราคาปิดวันแรกจะมากกว่าราคาจองซื้อ เพียงแต่ช่วง 1-2 เดือนหลังภาวะตลาดหุ้นค่อนข้างผันผวน พอมีหุ้นไอพีโอต่ำจองตัวแรก จึงส่งผลกระทบทางจิตวิทยาในตัวที่เหลือ โดยมองว่าภาวะแบบนี้จะเกิดขึ้นแค่ระยะสั้นเท่านั้น" นายศรพล แสดงความเห็น
-ขณะเดียวกัน 2 ปีที่ผ่านมา หุ้นไอพีโอมีผลตอบแทนจากราคาหุ้น (Capital gain) มากกว่าค่าเฉลี่ยของ Market Index ทั้ง SET และ mai คิดเป็นสัดส่วน 50-60% จากหุ้นไอพีโอที่เข้าซื้อขายทั้งสิ้น 62 บริษัท โดย 21 บริษัทราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าค่าเฉลี่ยของ Market Index เกิน 20%
-สำหรับภาพรวมตลาดหุ้นไทยจากต้นปีถึงปัจจุบันผลตอบแทนลดลง 7.6% ต่ำกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคและตลาดเกิดใหม่
"ปีนี้ตลาดเกิดใหม่ผลตอบแทนเฉลี่ย -16.7% ส่วนในอาเซียนเช่น สิงคโปร์ -12.6%, อินโดนีเซีย -10.8%, ฟิลิปปินส์ -17.4% หรือตลาดหุ้นขนาดใหญ่ในเอเชียเช่น จีน -26.1%, เกาหลี -21.1%, ฮ่องกง -13.9% และ ใต้หวัน -12.3% สะท้อนว่าตลาดหุ้นไทยมีพื้นฐานที่แข็งแรง ที่ตลาดผันผวนเกิดจากปัจจัยภายนอก ซึ่งเป็นเหมือนกันทั่วภูมิภาค" นายศรพล เพิ่มเติม
-ทั้งนี้เริ่มเห็นสัญญาณการไหลกลับของเม็ดเงินลงทุนของต่างชาติ (Fund Flow) โดย 1-11 ธ.ค.ที่ผ่านมา เป็นการซื้อสุทธิ 4,654.85 ล้านบาท เป็นเดือนแรกในรอบ 14 เดือนที่เป็นการซื้อสุทธิ หลังจากที่ประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนเริ่มผ่อนคลายลง
-นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ได้คัดกรองหุ้นพื้นฐานดี 32 บริษัท โดยคัดเลือกจากหุ้นที่มีอัตราการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 3.5%,ROE ไม่ต่ำกว่า 10% และ อัตรากำไรสุทธิมากกว่า 10% ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา มีรายชื่อดังนี้ PREB - JAS - PATO - MCS - MBKET - KCAR- MFC-ASP -INTUCH - KGI - KKP - GLOW - LH - ASK - ALUCON - THREL - TISCO - QH - TCCC - TMD - TIP - MC - SPCG - DCC - TTW - TSK - SAUCE - SCP - EASTW - TCAP - SCB - ADVANC