บอร์ด SABUY ไฟเขียว

บอร์ด SABUY ไฟเขียว ทุ่มงบ 2.37 พันลบ.

เข้าลงทุนซื้อหุ้น SINGER เพิ่มอีก 10.70%

ดันยอดสัดส่วนการถือรวมเพิ่มเป็น 15%

.

บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 3/2566 ซึ่งประชุมเมื่อ วันที่ 1 มี.ค.66 ได้มีมติอนุมัติให้เข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER เพิ่มเติมอีกจำนวนไม่เกิน 87,951,300 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ในราคาหุ้นเฉลี่ยไม่เกิน 27 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้นไม่เกิน 2,374,685,100 บาท หรือคิดเป็นจำนวนไม่เกิน 10.70% ของจำนวนหุ้นชำระแล้ว ผ่านกระดานซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

.

ทั้งนี้เมื่อรวมการซื้อหุ้นสามัญของ SINGER ในครั้งแรกตามมติการลงทุนเพื่อบริหารสภาพคล่องที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 1/2566 จะทำให้บริษัทมีการได้มาซึ่งหุ้นสามัญของ SINGER จำนวนไม่เกิน 123,351,300 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ในราคาหุ้นเฉลี่ยไม่เกิน 29 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้นไม่เกิน 3,330,485,100 บาท หรือคิดเป็นจำนวน 15% ของจำนวนหุ้นชำระแล้ว

.

โดยจากการที่บริษัทได้มีโอกาสในการเข้าลงทุนในหุ้นสามัญของ SINGER และพบว่า SINGER เป็นผู้จำหน่าย ผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้า “ซิงเกอร์” เช่น จักรเย็บผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า ภายในบ้านต่าง ๆ

.

นอกจากนี้ ยังจำหน่ายสินค้าเชิงพาณิชย์ เช่น เครื่องมือ และอุปกรณ์ทางการเกษตร ตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือออนไลน์ ตู้เติมน้ำมันแบบหยอดเหรียญ และเครื่องทำน้ำหวานเกล็ดหิมะ เพื่อสนองตอบต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุมทั้งกลุ่มลูกค้าบ้าน และกลุ่มลูกค้าเชิงพาณิชย์ ผ่านร้านค้าปลีกซึ่งเป็นสาขาของ SINGER เอง

.

ขณะเดียวกันผ่านทางตัวแทนจำหน่ายต่าง ๆ มากกว่า 80% ของยอดขายเป็นการขายแบบเช่าซื้อ โดย SINGER ให้เช่าซื้อผ่านทาง บริษัท เอสจี แคปปิตอล จ ากัด (มหาชน) ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ SINGER ถือหุ้นสัดส่วน 74.92%

.

ดังนั้นทำให้บริษัทเล็งเห็นว่าธุรกิจของ SINGER สามารถต่อยอดธุรกิจของบริษัทฯ และจะช่วยทำให้บริษัทสามารถผนึกกำลัง กับธุรกิจอื่น ๆ ของ SINGER เพื่อการขยายขอบเขตการลงทุนและกระจายการลงทุนไปยังธุรกิจอื่น ๆ ที่มีศักยภาพในการเติบโตอย่างธุรกิจรวมถึงโอกาสในการเพิ่มศักยภาพการเติบโตทางธุรกิจและขยายฐานลูกค้าของธุรกิจของบริษัทฯ ได้ บริษัทฯ จึงมีความเห็นว่าบริษัทฯ ควรเปลี่ยนแนวทางจากการลงทุนระยะสั้นตาม นโยบายการลงทุนและกรอบวงเงินลงทุนตามที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 1/66 มาเป็น การลงทุนระยะยาว