ห้องเม่าปีกเหล็ก

MSCI กับ มุมมองนักลงทุนต่างชาติ

โดย Yoo
เผยแพร่ :
64 views

ดัชนี MSCI คืออะไร มีผลต่อการลงทุนอย่างไร 

 


               ดัชนี MSCI หรือ MSCI Index เป็นดัชนีอ้างอิงที่บริษัท Morgan Stanley Capital International (MSCI) จัดทำขึ้นเพื่อให้ผู้ลงทุนสถาบันที่เข้ามาลงทุนในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก ได้นำมาใช้เป็นมาตรฐานในการวัดผลตอบแทน ในการลงทุนของตนเองว่าเป็นอย่างไร ได้ผลตอบแทนดีหรือไม่ เมื่อเทียบกับดัชนีนี้  โดยดัชนีนี้มีการจัดทำขึ้นหลายแบบเพื่อให้เหมาะสมกับกลยุทธ์การลงทุนที่มีอยู่หลากหลาย เช่น
ดัชนีที่แบ่งตามภูมิภาค  ดัชนีที่แบ่งตามลักษณะของตลาด ได้แก่ ตลาดของประเทศที่พัฒนาแล้ว ตลาดเกิดใหม่  หรือแบ่งตามประเภทของหุ้น เช่น หุ้นขนาดใหญ่ (large cap) หุ้นขนาดเล็ก (small cap) หรือหุ้นที่มีการเติบโตสูง

 

 

              โดยหุ้นที่จะอยู่ในดัชนีจะถูกคัดเลือกเฉพาะที่ผ่านตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้เท่านั้น และมีการทบทวนหุ้นเข้าและออกจากดัชนีเป็นงวดๆ
เช่น  BTS และ TMB ในการคำนวณดัชนี MSCI Global Standard Indices และเพิ่มหุ้น ASP CHG CKP CGD DRT DSGT ERW KCE MBK MC M MONO NOK RS และ TUF ในการคำนวณดัชนี MSCI Global Small Cap Indices 

 

               สำหรับนักลงทุนสถาบันในต่างประเทศ เช่น กองทุนรวมที่ลงทุนในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก มักนิยมใช้ดัชนี MSCI ระดับภูมิภาค เช่น ดัชนี MSCI EAFE (Europe, Australasia, Far East) ดัชนี MSCI AC Asia Pacific ex Japan ดัชนี MSCI AC World เป็นต้น เป็นมาตรฐานในการวัดผลตอบแทนการดำเนินงาน (benchmark) ของตนเอง สำหรับดัชนี MSCI ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุนของไทย คือ ดัชนี MSCI Far East ex Japan ซึ่งประกอบไปด้วยหุ้นของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกไกล ยกเว้นญี่ปุ่น รวมทั้งสิ้น 9 ประเทศ คือ จีน ฮ่องกง อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไต้หวัน และประเทศไทย

 

 

              ในการคำนวณน้ำหนักการลงทุนของแต่ละประเทศในดัชนี MSCI ซึ่งในที่นี้ขอยกตัวอย่างดัชนี MSCI Far East ex Japan นั้น จะคิดจากสัดส่วนของมูลค่าตลาดของหุ้นทั้งหมดที่เป็นองค์ประกอบในดัชนีประเทศนั้น ๆ เทียบกับมูลค่าตลาดของหุ้นทั้งหมดทุกประเทศในดัชนี MSCI Far East ex Japan

 

              สมมติว่ามูลค่าตลาดของหุ้นที่อยู่ในดัชนี MSCI Thailand รวมทั้งสิ้นคิดเป็น 40,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนมูลค่าตลาดของหุ้นทั้งหมดรวมทั้ง 9 ประเทศที่อยู่ในดัชนี MSCI Far East ex Japanอยู่ที่ 1,700,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ดังนั้น น้ำหนักการลงทุนของประเทศไทยจึงเป็น 2.4% (40,000 ล้าน/1,700,000 ล้าน) นั่นหมายความว่า หากมูลค่าตลาดของหุ้นทั้ง 9 ประเทศโดยรวมทั้งหมดอยู่ที่ 100 ส่วน มีส่วนของหุ้นไทยอยู่ในนั้น 2.4 ส่วนนั่นเอง

 

 

              จากตัวอย่างนี้ ลองนึกภาพดูว่า หากผู้จัดการกองทุนต่างประเทศมีเงินทุน 100 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อเข้ามาลงทุนในภูมิภาคนี้ และนำดัชนี MSCI Far East ex Japan มาเป็น benchmark ของตนซึ่งหากจะลงทุนโดยมุ่งหวังให้ผลตอบแทนของกองทุนใกล้เคียงกับตัว benchmark เขาก็จะนำเงินมาลงทุนในตลาดทุนไทยเพียงประมาณ 2.4 ล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น แต่หากต้องการบริหารกองทุนให้ชนะตัว benchmark นี้ เขาก็อาจพิจารณาลงทุนในประเทศไทยในจำนวนเงินที่มากหรือน้อยกว่าสัดส่วนนี้ก็ได้ ดังนั้น การที่ประเทศใดมีน้ำหนักการลงทุนในดัชนี MSCI ในระดับภูมิภาคน้อย จึงมีแนวโน้มว่าผู้ลงทุนสถาบันทั่วโลกอาจเจียดเงินไปลงทุนในประเทศนั้นน้อยด้วย

 

               ที่ผ่านมา ทางการไทยจึงได้พยายามผลักดันให้น้ำหนักการลงทุนในดัชนี MSCI เพิ่มสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการให้บริษัท MSCI Barra นำใบแสดงสิทธิประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์อ้างอิงไทย (NVDR) เข้ามานับรวมในการคำนวณดัชนีประเทศไทย การส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียนเพิ่มฟรีโฟลตของหุ้นให้มากขึ้น เป็นต้น

 

 

 

              โดยปกติแล้ว บริษัท MSCI Barra จะมีการปรับปรุงองค์ประกอบของหลักทรัพย์ที่อยู่ในดัชนีทุกไตรมาส คือ กุมภาพันธ์ พฤษภาคม สิงหาคม และพฤศจิกายน เพื่อให้ข้อมูลให้มีความทันสมัยโดยอาจเพิ่มหุ้นเข้าไป หรือปรับหุ้นใดออกจากดัชนีของประเทศไหนก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าหุ้นนั้น ๆ เข้าเงื่อนไขหรือไม่  ซึ่งในการปรับปรุงดัชนีแต่ละครั้ง แน่นอนว่าย่อมส่งผลต่อน้ำหนักการลงทุนในแต่ละประเทศให้เปลี่ยนแปลงเพิ่มหรือลดไปบ้างไม่มากก็น้อย โดยหากประเทศอื่นมีหุ้นที่เข้าเกณฑ์มาเป็นองค์ประกอบมากขึ้นก็อาจเบียดน้ำหนักการลงทุนของไทยให้ลดลง นอกจากนั้น หากหุ้นของประเทศใดมีราคาเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าประเทศอื่น ก็จะทำให้น้ำหนักการลงทุนของประเทศนั้นเพิ่มขึ้นได้ หรือประเทศใดมีค่าเงินที่แข็งค่าขึ้นมากกว่าประเทศอื่น มูลค่าตลาดรวมของดัชนีประเทศนั้นก็จะเพิ่มขึ้นและอาจส่งผลให้ประเทศนั้นมีน้ำหนักการลงทุนเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ดังนั้น หากทราบพื้นฐานสักเล็กน้อย ย่อมทำให้ท่านผู้อ่านมีความเข้าใจเกี่ยวกับดัชนี MSCI มากขึ้น และไม่ตื่นตระหนกเกินไปเวลาพบเจอข่าวที่เกี่ยวข้องกับประเทศ

 

 



 

การที่หุ้นเข้ามาใน MSCI มีผลดีอย่างไร

                การที่สถาบันเข้ามาลงทุนในต่างประเทศ เค้าไม่ได้รู้จักหุ้นทุกตัวในตลาด จึงเลือกหุ้นที่อยู่ใน MSCI ที่ได้ถูกคัดกรองมาแล้วว่าเป็นหุ้นที่มีคุณภาพ เหมาะแก่การลงทุน และ ในบางสถาบันมีนโยบายที่ต้องลงทุนในหุ้นที่อยู่ใน MSCI เท่านั้นด้วย ดังนั้น การที่หุ้นถูกเพิ่มเข้า MSCI จึงเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้น

 

 

 

 


Yoo