ห้องเม่าปีกเหล็ก

เจาะลึก FORTH ต่อยอดธุรกิจรวยด้วยตู้เติมเงิน

โดย SiTh LoRd PaCk
เผยแพร่ :
89 views

เจาะโมเดลธุรกิจ FORTH กับ ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล และดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ในรายการ Business Model ครับ สรุปสาระสำคัญมาให้อ่านกันจากการฟังคลิป

 

---------------------------------

เจาะลึก FORTH ต่อยอดธุรกิจรวยด้วยตู้เติมเงิน

ส่วนที ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล วิเคราะห์ไว้ในรายการ

- การวิเคราะห์ FORTH ต้องวิเคราะห์ถึง 4 ธุรกิจหลัก
1) ธุรกิจ อีเอ็มเอส ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ภายใต้เครื่องหมายการค้า Forth และตราสินค้าลูกค้า

2) ธุรกิจโทรคมนาคม ผลิตและรับเหมาติดตั้งอุปกรณ์โทรคมนาคม พร้อมให้บริการโทรคมนาคมครบวงจร
3) ธุรกิจเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง ผลิตและรับเหมาติดตั้งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี อาทิ เช่น ระบบสัญญาณไฟจราจร ป้าย LED มิเตอร์ไฟและน้ำ ระบบติดตามรถยนต์ GPS รวมถึงการให้บริการระบบ ERP เป็นต้น
4) ธุรกิจเติมเงินมือถือและชำระเงินออนไลน์ผ่านตู้เติมเงินอัตโนมัติ

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ตู้บุญเติม
- ธุรกิจตู้เติมเงิน FSMART ซึ่ง FORTH ถือหุ้นอยู่ประมาณ 46%
- ธุรกิจที่ 1 และ 2 เป็นธุรกิจขายมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 33% และมี margin ประมาณ 22%
- ธูรกิจตู้บุญเติมมีสัดส่วนถึง 50% ของยอดขายดังนั้น FSMART มีอิทธิพลกับรายได้มาก
- ธุรกิจที่ 3 มีสัดส่วน 17%
- ธุรกิจที่ 1 และ 3 เป็นธูรกิจที่ไม่เติบโตเลยในช่วงปีที่ผ่านมา
- บริษัทลูก FSMART มี positive CAsh Flow น่าสนใจมากเงินสดเข้ามาเร็ว
- นักลงทุนให้ความสนใจกับ FSMART มากกว่าตัวแม่อย่าง FORTH และให้มูลค่ากับ  FSMART มากจนเกินไป นั้นแสดงว่านักลงทุนไม่ให้คุณค่าธุรกิจที่ 1 และ 3 เลย
- แต่ด้วยการวิเคราะห์ที่ดี เราต้องมองถึง 4 ธุรกิจไปพร้อมๆกัน อย่าง Market Cap. ของลูกเกือบเท่าแม่แล้วซึ่งมันไม่สมเหตุสมผลสักเท่าไรนัก

 

ผลประกอบการรายได้ไม่โตเลยในช่วงที่ผ่านมา (ข้อมูลจาก set.or.th ณ วันที่ 29/11/2559)


- งบ 9 เดือนที่ผ่านมา FORTH กำไรลดลง 10% แต่สิ่งที่น่าสนใจ FSMART กำไรเพิ่ม 30% นั้นแสดงว่าธูรกิจอื่นของแม่ถดถอยลงไปอย่างเห็นได้ชัด
- ธุรกิจของลูกเป็นเมกะเทรนคือกำไรดี แคลชโฟวดี แต่ข้อเสียคือ กำไรดีจะเป็นการชักชวนให้คู่แข่งเข้ามาในตลาดก็ต้องเกิดการแข่งขัน
- ตอนนี้บริษัทลูกกำลังไปเติบโตนอกประเทศ เอาตู้บุญเติมซึ่งเป็นโมเดลที่ประสบความสำเร็จในไทยไปใช้ที่ต่างประเทศด้วย ประเด็นนี้นักลงทุนต้องติดตามและเป็นปัจจัยบวกต่อในอนาคต
- ไทยเป็นศูนย์กลาง CLMV ตู้บุญเติมเลยประสบความสำเร็จ ฐานล่างของปิรามิดมีจำนวนมาก
- จำนวนตู้บุญเติมมีจำนวนมากประมาณเกือบ 8 หมื่นตู้ทั่วประเทศ นั้นเป็นจุดเด่นที่เหนือกว่าคู่แข่ง
- ตอนนี้ตู้หยอดเหรียญกำลังเป็นธุรกิจใหม่ เป็นปัจจัยเติบโตรอบใหม่และเป็นสิ่งที่ต่างประเทศเคยประสบความสำเร็จมาแล้ว น่าสนใจกับโมเดลธุรกิจตัวนี้

 

ส่วนที ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร วิเคราะห์ไว้ในรายการ
-- ธุรกิจรับเหมาติดตั้งเป็นธุรกิจที่ไม่ค่อยแน่นอน ซึ่งการรับเหมาเป็นธูรกิจที่ไม่ค่อยทำเงินนักอาจจะขาดทุนหรืออาจจะกำไรก็ได้
-- รายได้ของ FORTH ไม่น่าประทับใจเลยในช่วงที่ผ่านมา ปี 55 มีรายได้ 5.9 พันล้าน และไม่เคยแตะที่ 5.9 พันล้านได้อีกเลย รายได้ลดลงเรื่อยๆ
-- แต่เนื่องจาก FORTH ถือหุ้น FSMART อยู่ ซึ่งที่ผ่านมาก็เป็นธุรกิจที่เติบโต แสดงว่านักลงทุนแถบไม่ให้ค่าอะไรเลยกับธุรกิจดั้งเดิมที่ไม่ใช่ตู้เติมเงิน
-- มันเหมือนกับตัวแม่ไปถือตัวลูกที่มีมูลค่ามากกว่าอย่าง QH ไปถือหุ้น HMPRO ซึ่งธุรกิจอสังหาแทบจะได้ฟรีเลย หรือว่า CPF ไปถือหุ้น CPALL ซึ่งนักลงทุนให้มูลค่าของ CPALL มากกว่า CPF อันนี้ก็เช่นเดียวกัน คือ นักลงทุนให้ค่าของ FORTH น้อยกว่าตัวลูกอย่าง FSMART
-- ประเด็นสำคัญคือ ถ้าเราจะซื้อตัวแม่จริงๆต้องดูด้วยว่าตัวลูกเป็นอย่างไร ฐานะมั่นคงแค่ไหน หุ้นลูกแพงไปหรือไม่ ถ้าลูกแพงสุดๆ PE 30 - 40 เท่าแบบนี้ แสดงว่าเราก็หวังลูกไม่ได้เพราะถ้าลูกโดนกระทบเมื่อไร แม่จะโดนไปด้วย
-- เหมือนประเด็นเรื่อง INTUCH ตอนนี้ที่ถือหุ้น Advanc สัดส่วนค่อนข้างเยอะ หุ้น INTUCH ก็ไม่ได้แพงมาก และถือ Advanc ด้วยนั้นแสดงว่ามันมีมูลค่าที่น่าสนใจอยู่
-- แต่ถ้าตอนนั้นบริษัทลูกไม่แน่นอนเลย คนไล่ราคาหุ้นเหมือนกับการเติบโตผิดปกติแบบนี้ การที่เราจะซื้อแม่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ดี
-- คาดการณ์ยากมากสำหรับธุรกิจของแม่ แต่ธุรกิจของลูกเหมือนเป็นธูรกิจ Retail คนจำนวนมากใช้ มันเป็นแมสมีความแน่นอน ค่อนข้างมั่นคง แต่ในรายละเอียดลึกๆอาจจะมีความเสี่ยงซึ่งนักลงทุนต้องไปค้นหา
-- เห็นว่าโมเดลธุรตัวใหม่ ตู้หยอดเหรียญซื้อของเหมือนในต่างประเทศ มันก็ดูเป็นโมเดลที่น่าสนใจ
-- เรื่องตู้กด ตู้หยอดเหรียญซื้อของมันดูน่าสนใจ แต่จะเข้ากับนิสัยคนไทยไหมต้องดูอีกเรื่องหนึ่ง ..
-- ธุรกิจตู้เติมเงินเป็นธุรกิจเทคโนโลยี มันมีความเสี่ยง คือ ถ้ามีเทคโนโลยีตัวใหม่เมื่อไร มีคู่แข่งที่ดูดีกว่า อาจจะพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือเลย เหมือนโทรศัพท์มือถืออะไรประมาณนั้น
-- ส่วนผมว่าเรื่องจำนวนตู้เยอะ หรือว่าเข้ามาก่อน แต่ก็ไม่ได้เปรียบอะไรมากเพราะต้นทุนใหญ่ไม่ใช่เรื่องตู้ แต่เป็นค่าสถานที่ทีไปเช่าหรือว่าไปแชร์กำไรกับคนอื่น จริงๆตู้อะไรก็ทำได้หมด คนไม่ได้สนใจหรอกว่าเป็นตู้ยี่ห้ออะไร ลูกค้าไม่ได้สนใจมากนัก การแข่งขันอนาคตสูงแน่นอนเพราะกำไรดี
-- ธุรกิจที่จะไปต่างประเทศมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ของอะไรที่มันข้ามประเทศมันมีข้อจำกัดเยอะ
-- ธุรกิจตู้เติมเงิน มันเป็นธุรกิจเทคโนโลยีอย่างที่บอกไปข้างต้นคือมันผันผวนสูง คู่แข่งเข้ามาง่าย อีกนัยหนึ่งอาจจะเป็นเรื่องของโชค คือ คุณโชคดีที่บังเอิญจับเทคโนโลยีถูกตัว มันก็เลยโตเป็นบ้าเป็นหลัง แต่สักพักมันก็จะกลายเป็นตะวันตกดินเปรียบเทียบง่ายๆเหมือนเฟชบุค ที่จับถูกตัวเจ้าของรวย บริษัทโตแรงอะไรแบบนั้นแต่อนาคตเราไม่รู้อาจจะมีโซเชียวเน็ตเวิร์คอะไรใหม่ๆคนก็แห่กันเข้าไปใช้ คนเข้าไปเล่น อย่างในอดีตเมื่อก่อนคนก็เล่นไฮไฟว์ เล่นบล็อคเกอร์ เล่น MSN ตอนนี้ก็ไม่มีคนเล่นแล้ว เป็นแบบเดียวกัน

ขอบคุณแหล่งข้อมูล : รายการ Business Model ช่อง Money channel 

สรุปโดย: SiTh LoRd PaCk

 

ดูคลิปฉบับเต็มได้ที่นี้ครับ


SiTh LoRd PaCk