IMF เตือน 1 ใน 3 เศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปี 2566
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2566 ว่า Kristalina Georgieva กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เตือนว่าเศรษฐกิจโลกเผชิญกับปีที่ยากลำบาก รุนแรงกว่าปี 2565
“คาดว่า 1 ใน 3 ของเศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอย” จอร์จิวาบอกกับรายการ ‘Face the Nation’ ของ CBS ในการให้สัมภาษณ์ที่ออกอากาศเมื่อวันที่ 1 มกราคม “ทำไม? เนื่องจากสามประเทศเศรษฐกิจใหญ่ ได้แก่ สหรัฐ สหภาพยุโรป และจีน ต่างก็ชะลอตัวลงพร้อมๆ กัน”
โดย IMF เคยเตือนเมื่อเดือนตุลาคม 2565 ว่ากว่า 1 ใน 3 ของเศรษฐกิจโลกจะหดตัว และมีโอกาส 25% ที่ GDP โลกจะเติบโตน้อยกว่า 2% ในปี 2566 ซึ่งถือเป็นภาวะถดถอยทั่วโลก
และจากการตรวจสอบสามประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดใน CBS Georgieva วาดภาพผสมของความสามารถในการต้านทานภาวะตกต่ำ ในขณะที่สหรัฐอาจหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอย สหภาพยุโรปได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากสงครามในยูเครน ครึ่งหนึ่งของสหภาพยุโรปจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีหน้า ขณะเดียวกัน จีนก็เผชิญกับปีที่ยากลำบาก
นอกจากนี้ข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อวันเสาร์แสดงให้เห็นว่าการกลับอย่างกะทันหันของจีนต่อนโยบาย Covid Zero ผลักดันกิจกรรมทางเศรษฐกิจในเดือนธันวาคมให้ดำเนินไปอย่างช้าที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563 เนื่องจากไวรัสแพร่กระจายไปทั่วเมืองใหญ่และกระตุ้นให้ผู้คนต้องอยู่บ้านและปิดกิจการ
“การชะลอตัวของประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดมีแนวโน้มเชิงลบทั่วโลก เมื่อเรามองไปที่ตลาดเกิดใหม่ในประเทศกำลังพัฒนา ภาพจะเลวร้ายยิ่งกว่า” จอร์จีวากล่าว
ด้านผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อสำหรับภาคการผลิตที่เผยแพร่ในวันจันทร์แสดงให้เห็นการอ่านเชิงลบทั่วยุโรป ตุรกี และในเกาหลีใต้ ข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อวันอังคารคาดว่าจะเปิดเผยตัวเลขในทำนองเดียวกันสำหรับมาเลเซีย ไต้หวัน เวียดนาม สหราชอาณาจักร แคนาดา และสหรัฐอเมริกา ถึงกระนั้นแนวโน้มของเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกอาจได้รับการผ่อนปรน