อเมริกา เปิดตัว Framework กำกับคริปโทฯ

อเมริกา เปิดตัว Framework กำกับคริปโทฯ เน้นขจัดสิ่งผิดกฎหมาย เพิ่มบทลงโทษ

สำนักข่าว CNBC รายงานว่า รัฐบาลสหรัฐได้เปิดตัว Framework การกำกับดูแลอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซี (Comprehensive Framework for Responsible Development of Digital Assets) หลังจากที่ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้ออกมาเรียกร้องให้หน่วยงานของรัฐบาลกลาง ตรวจสอบความเสี่ยงและประโยชน์ของคริปโทฯ และสั่งให้มีการออกรายงานอย่างเป็นทางการ
 

Framework การกำกับดูแลอุตสาหกรรมคริปโทฯนี้ จะครอบคลุมถึงแนวทางการพัฒนาของอุตสาหกรรมการเงินที่จะมุ่งเน้นให้เกิดธุรกรรมแบบไร้พรมแดน ตลอดจนการปราบปรามการฉ้อโกงในวงการสินทรัพย์ดิจิทัล โดยจะเป็นกรอบการทำงานให้กับหน่วยงานกำกับดูแลในอเมริกาปฏิบัติ เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และสำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้า
 

เป็นเวลา 6 เดือน หลังจากคำสั่งของ โจ ไบเดน ทีมงานที่รับผิดชอบได้พัฒนากรอบการทำงานและข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย รวมถึงจัดลำดับความสำคัญจากคำสั่งของรัฐบาลที่ระบุไว้ 6 ข้อ คือ 1. การคุ้มครองผู้บริโภคและนักลงทุน 2. ส่งเสริมความมั่นคงทางการเงิน 3. ต่อต้านการเงินที่ผิดกฎหมาย 4. ความเป็นผู้นำของสหรัฐอเมริกาในระบบการเงินโลกและความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ 5. การรวมทางการเงิน 6. ความรับผิดชอบต่อนวัตกรรม
 

Brian Deese ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติและที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ Jake Sullivan กล่าวในแถลงการณ์ว่า แนวทางใหม่นี้มีขึ้นเพื่อวางตำแหน่งประเทศให้เป็นผู้นำในการกำกับดูแลระบบนิเวศสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งในและต่างประเทศ โดยส่วนหนึ่งของ Framwork นี้ ได้ระบุถึงการมุ่งเน้นการขจัดสิ่งผิดกฎหมายในอุตสาหกรรม และยังมีมาตรการที่ดูเหมือนจะเป็นบทลงโทษระบุไว้ด้วย
 

"ประธานาธิบดีจะประเมินว่า จะเรียกร้องให้สภาคองเกรสแก้ไขพระราชบัญญัติความลับของธนาคารหรือไม่ รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการทำธุรกรรมโอนเงินโดยไม่มีใบอนุญาต เพื่อบังคับใช้กับผู้ให้บริการด้านสินทรัพย์ดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็น Digital Asset Exchange หรือผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม NFT"
 

สำนักข่าว CNBC รายงานอีกว่า ประธานาธิบดี โจ ไบเดน มีแผนจะผลักดันให้สภาคองเกรส เพิ่มบทลงโทษสำหรับการโอนเงินโดยไม่มีใบอนุญาต และอาจแก้ไขกฎเกณฑ์ของรัฐบาลกลางบางอย่างเพื่อให้กระทรวงยุติธรรมสามารถดำเนินคดีกับอาชญากรรมด้านทรัพย์สินทางดิจิทัล ได้ในทุกเขตอำนาจศาล ที่พบเหยื่อของอาชญากรรมนี้
 

โดยในขั้นต่อไป กระทรวงการคลังสหรัฐจะประเมินความเสี่ยงทางการเงินที่ผิดกฎหมายเกี่ยวกับการเงินแบบกระจายอำนาจ (Decentralized Finance) ภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2566 และจะเริ่มการพิจารณาเกี่ยวกับสินทรัพย์ NFT ได้ภายในเดือนกรกฎาคม 2566
 

ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เกิดอาชญากรรมในแวดวงสินทรัพย์ดิจิทัลมากมาย ข้อมูลจากคณะกรรมการการค้าแห่งสหพันธรัฐ (Federal Trade Commission) ระบุว่า ตั้งแต่ต้นปี 2564 มีการฉ้อโกงในอุตสาหกรรมคริปโทฯ และเกิดความเสียหายมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ 
 

ขณะเดียวกัน ในเดือน สิงหาคม 2022 ก.ล.ต.สหรัฐ เผยว่า ได้ปรับเงินผู้ที่ส่งเสริมโปรเจ็กต์ Ponzi ซึ่งเป็นโปรเจ็กต์ฉ้อโกงที่มีการระดมทุนได้มากกว่า 300 ล้านดอลลาร์ จากนักลงทุนหลายล้านรายทั่วโลก นอกจากนี้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 เจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ ได้ยึด bitcoin มูลค่า 3.6 พันล้านดอลลาร์ โดยเป็น bitcoin ที่มีความเกี่ยวข้องกับการแฮ็กกระดานเทรด Bitfinex เมื่อปี 2559 ด้วย 
 

อ่าน Comprehensive Framework for Responsible Development of Digital Assets ฉบับเต็ม