ห้องเม่าปีกเหล็ก

คิดเป็น เห็นก่อน

โดย ชัจจ์ปัณฑ์
เผยแพร่ :
64 views

 

รอบนี้สลับมาเล่นกลุ่มแบงก์...ของดีราคาถูก


ความผันผวนของตลาดที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ไม่ได้เป็นอะไรที่อยู่เหนือความคาดหมาย การแกว่งตัวของดัชนีอยู่ในช่วงของการปรับฐานอย่างที่เรารู้ๆกันอยู่นั่นล่ะครับ พอมีแรงซื้อจากทั้งกองทุนและต่างชาติเข้ามาตลาดก็ปรับตัวขึ้น แต่พอกองทุนและต่างชาติขายดัชนีก็อ่อนย่อทรุดลง เป็นเรื่องของการชิงจังหวะกันทำเกมส์ โดยผ่านการลงทุนในกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ลักษณะสลับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป ที่ดูจะเป็นเรื่องที่ยากลำบากสำหรับนักลงทุนรายย่อยโดยทั่วไป ที่ไม่สามารถคาดเดาหรือจับจังหวะการลงทุนให้ถูกทิศถูกทางได้อย่างแม่นยำ มักจะเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบอยู่ร่ำไป


รอบนี้กลุ่มหุ้นถูกหมุนมาถึงรอบของกลุ่มแบงก์ ที่มีแรงซื้อเข้ามาอย่างโดดเด่น โดยเฉพาะแบงก์ขนาดใหญ่ นำโดย KBANK SCB BBL และ KTB โดย KBANK ที่วันนี้กลายเป็นหุ้นที่มีมูลค่าตลาดใหญ่ที่สุดในกลุ่มแซง SCB ไปแล้ว ส่วนปัจจัยสนับสนุนกลุ่มนี้คงหนีไม่พ้นเรื่องของผลการดำเนินงานไตรมา 4/60 ที่โบรกเกอร์หลายสำนักคาดว่าจะออกมาดี แม้จะมีเรื่อง NPL ที่จะเพิ่มสู่ระดับสูงที่สุดของปีในไตรมาส 4 นี้ก็ตาม แต่มีแนวโน้มที่ดีขึ้น


นอกจากนี้การขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยที่เห็นภาพชัด ทำให้ยอดการปล่อยสินเชื่อถูกกระตุ้นให้มีการขยายตัว รวมถึงแนวโน้มดอกเบี้ยที่เป็นขาขึ้น หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในช่วงเดือน ธค. นี้สูง ด้วยปัจจัยดังกล่าวจึงเป็นแรงหนุนให้กลุ่มแบงก์มีความน่าสนใจ แถมยังเป็นหุ้นที่ราคายังปรับตัวขึ้นมาไม่มากนักเมื่อเทียบกับตลาด พีอีก็ต่ำ ปันผลก็ดี ก็คงต้องตามน้ำครับกลุ่มนี้ช่วงนี้
สำหรับหุ้นฟอร์มเทพอย่าง AOT ก็ยังร้อนแรงได้ต่อเนื่อง ล่าสุด แจ้งงบการเงินงวดปี 59/60 (ต.ค.59-ก.ย.60) มีกำไรสุทธิ 2.07 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.07% จากงวดปี 58/59 ที่มีกำไรสุทธิ 1.93 หมื่นล้านบาท เนื่องมาจากปริมาณผู้โดยสารในงวดปี 60 ที่มีจำนวนถึง 129 ล้านคน รวมถึงปริมาณจำนวนเที่ยวบินกว่า 8 แสนเที่ยว โดยผ่านการใช้บริการในสนามบินทั้ง 6 แห่งของ AOT ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินในงวดปี 61 ก็ยังคงสดใสที่ช่วงปลายปี 60 ที่เป็นช่วงไฮซีซั่น ทั้งจำนวนผู้โดยสารและจำนวนเที่ยวบินที่จะเพิ่มขึ้นอย่างหนาแน่น นับเป็นหุ้นบลูชิพ ขวัญใจมหาชนนักลงทุนไปแล้วในวันนี้ครับ


สถานการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้แม้จะมีความผันผวน แต่โดยภาพรวมยังไม่ได้ดูแย่หรือไม่ดี ภาพการแกว่งตัวขึ้นลงสลับฟันปลาของดัชนีบ้างก็ไม่ใช่เรื่องน่าวิตกกังวลมากนัก เพราะโดยปัจจัยพื้นฐานที่กำลังดีอย่างต่อเนื่อง ตามตัวเลขเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัว รวมถึงเร็วๆนี้น่าจะได้เห็นการปรับเพิ่มประมาณการณ์กำไรของบริษัทจดทะเบียนของเหล่าบรรดานักวิเคราะห์ เพราะผ่านมาแล้ว 3 ไตรมาส นี่ก็เข้าสู่เดือนสุดท้ายของไตรมาส 4/60 แล้วคงจะพอมองเห็นอะไรๆชัดเจนแล้ว


ส่วนแรงขายที่เกิดขึ้นเป็นระยะๆ แน่นอนการที่ตลาดหุ้นไทยตั้งแต่ต้นปีมาสามารถให้ผลตอบแทนระดับเกิน 10% นับว่าไม่น้อยเลยทีเดียว จะขายล็อกกำไรก่อนสิ้นปี ที่โดยปกติตลาดมักจะไม่ค่อยคึกคักอยู่แล้ว ใกล้ช่วงเทศกาลท่องเที่ยวที่วันหยุดเยอะ แล้วค่อยกลับมาลุยมาสู้หุ้นกันต่อในปีหน้าเสียมากกว่าครับ


สำหรับปัจจัยต่างประเทศ ยังคงต้องติดตามกฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯ ว่าจะผ่านสภาสูงได้หรือไม่ หรืออาจจะต้องปรับแก้ทำให้ล่าช้าออกไปอีก การประชุม FOMC ของเฟดช่วงกลางเดือนที่คาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง รวมถึงแนวโน้มที่จะปรับดอกเบี้ยขึ้นต่อไปอีกในปีหน้าแค่ไหน ส่วนการทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ ที่ทำให้เกิดความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีกลับมาอีกครั้ง ก็ต้องดูว่าจะมีมาตรการตอบโต้อะไรออมาจากทางสหรัฐฯและชาติพันธมิตรเพิ่มอีกหรือไม่หลังการหารือกับทาง UN


ยังไม่ต้องรีบร้อนครับ เลือกค้นมองหา จับตาดูหุ้นดีที่ราคาลงมามากๆโดยที่พื้นฐานยังไม่ได้เปลี่ยนยังดูดีอยู่ หุ้นที่กิจการมีความสามารถที่จะสร้างการเติบโตได้ดีในอนาคต แต่ราคาถูกกว่าความสามารถของการดำเนินงานที่สร้างผลกำไรที่ยังเติบโตได้ดี ยิ่งพิจารณาจากผลประกอบการที่จะออกมาแล้ว หากไม่ได้ดูแย่หรือหากดีกว่าที่คาดกันคงดูดีไม่น้อย มองหาหุ้นที่มีการสร้างผลงานพลิกฟื้นจากที่ก่อนหน้าขาดทุนแล้วกลับมามีกำไรอย่างก้าวกระโดดราคาหุ้นยังไม่ได้ดีดขึ้นตามและถ้าอนาคตหุ้นที่ว่ายังดีอยู่ก็น่าเก็บสะสมหุ้นแล้วถือรอคอย หวังผลที่ดีในอนาคตกันครับ

 


ชัจจ์ปัณฑ์