นโยบายกําแพงภาษี มีประโยชน์ต่อชาวอเมริกันจริงหรือไม่?

เมื่อไม่นานมานี้มีหนังสือพิมพ์บางฉบับในสหรัฐอเมริกาออกบทวิเคราะห์มาว่า " นโยบายกําแพงภาษีของสหรัฐอเมริกาต่อจีนที่จะเพิ่มขึ้นอีก 200,000 ล้าน USD จะมีผลกระทบทางด้านลบต่อประชาชนชาวอเมริกัน เพราะ จะทําให้ชาวอเมริกันซื้อสินค้าในราคาที่แพงขึ้น "

ผู้โพสต์จึงขอนําบทวิเคราะห์ดังกล่าวมาขยายต่อเพื่อให้ผู้ที่เข้ามาอ่าน เข้ามา View ได้ใช้ดุลยพินิจของตัวเองว่าข้อความดังกล่าวข้างต้นน่าจะมีความเป็นจริงมากน้อยเพียงใด ดังนี้ คือ :

เมื่อสหรัฐอเมริกามีการตั้งกําแพงภาษีจากจีนจํานวน 200,000 ล้าน USD เช่นจากเดิม 5% เป็น 25% สิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นก็คือ :

1) รัฐบาลอเมริกันได้ส่วนเกินภาษีเดิมคือ 20% ซึ่งเงินจํานวนดังกล่าวรัฐบาลสหรัฐสามารถนําไปพัฒนาประเทศในด้านต่างๆได้

2) ประชาชนชาวอเมริกันซื้อสินค้าจากจีนสูงขึ้น 20% จากกําแพงภาษีที่สูงขึ้น

3) เมื่อสินค้าจากจีนมีราคาสูงขึ้น ชาวอเมริกันบางส่วนหรือหลายส่วนก็จะหันไปซื้อสินค้าที่ผลิตในสหรัฐอเมริกา ที่มีราคาเท่ากับหรือสูงกว่าสินค้าจากจีนเล็กน้อย แต่คุณภาพดีกว่าสินค้าจากจีน เพราะสินค้าจากจีนโดยปรกติราคาจะถูกจริงแต่คุณภาพมักจะไม่ค่อยดี  ซึ่งจะทําให้เกิดการซื้อขายหมุนเวียนของสินค้าที่ผลิตภายในสหรัฐอเมริกาเอง และ เป็นการส่งเสริมให้ประชาชนชาวอเมริกันมีงานทํา และ ทําให้เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาดีขึ้น

4) คนงานจีนตกงานทันที 800,000 คน เพราะ สินค้าที่ผลิตและส่งออกไม่สามารถขายไปยังสหรัฐอเมริกาซึ่งเคยเป็นตลาดหลักของจีนในอดีตได้ และมีโอกาสที่จะตกงานเพิ่มขึ้นจากผลพวงดังกล่าวข้างต้น

เพราะฉะนั้น ผู้โพสต์จึงมีความเห็นว่านโยบายกําแพงภาษีของสหรัฐอเมริกาต่อจีน 200,000 ล้าน USD น่าจะมีประโยชน์ต่อชาวอเมริกัน และ เป็นผลเสียต่อชาวจีน จริง!

หมายเหตุ : โปรดติดตามรายละเอียดการลงทุนใน สภาวะตลาดกระทิง และ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างขาขึ้นรอบใหญ่ได้ใน longtunbysak.blogspot.com