ห้องเม่าปีกเหล็ก

MSCI Rebalance ตลาดเก็งกลุ่มแบงก์ถูกเพิ่มน้ำหนัก

โดย stock-news
เผยแพร่ :
72 views

 

วอลุ่มเทรดหุ้นกลุ่มแบงก์ทะลุหมื่นล้าน (พฤหัสฯ 9 พ.ย.) หนุนดัชนีกลุ่มแบงก์บวกสวนทางกับหุ้นกลุ่มหลักอื่นอย่างพลังงานและไอซีที พร้อมๆ กับแรงซื้อในหุ้นบลูชิพที่คอยประคอง SET index ตามแรงขายทำกำไรจากภาพเทคนิคที่ไม่สามารถทะลุฝ่าแนวต้านระยะสั้น 1,595 จุดขึ้นไปได้
 
 
หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์มีแรงเก็งกำไรเข้ามาหนาแน่น ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ถึงโอกาสที่หุ้นกลุ่มนี้จะถูกปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในดัชนี MSCI-Thailand สำหรับการทบทวนดัชนีรอบใหม่ในวันศุกร์ที่ 10 ก.พ.นี้ ว่าจะเกิดขึ้นได้มากน้อยแค่ไหน?
 
 
ดัชนี MSCI เป็นดัชนีอ้างอิง (benchmark) ที่ถูกจัดทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ลงทุนสถาบันที่ลงทุนในภูมิภาคต่างๆทั่วโลก ได้นำมาใช้เป็นมาตรฐานในการวัดผลตอบแทน เทียบกับการลงทุนของตนเองว่าเป็นอย่างไร ได้ผลตอบแทนดีหรือไม่เมื่อเทียบกับดัชนีดังกล่าว
 
 
“กรภัทร วรเชษฐ์” ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยและบริการลงทุน "โนมูระ พัฒนสิน" บอกกับ Money Channel ว่า MSCI จะประกาศผลในวันศุกร์ที่ 10 ก.พ.นี้ ก่อนจะมีผลเป็นทางการในวันที่ 28 ก.พ. แต่ในรอบนี้ประเมินว่าน่าจะไม่มีการปรับหุ้นไทยออกจากดัชนี MSCI GLOBAL STANDARD หลังจากในรอบที่แล้วได้นำหุ้นเข้าคำนวณ 2 ตัว ได้แก่ KCEและ BJC 
 
 
อย่างไรก็ดี ยังน่าจับตาว่า MSCI อาจจะปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้น Big cap 2 กลุ่มหลัก นั่นคือ พลังงานและธนาคารพาณิชย์หรือไม่? หลังจากในช่วงที่ผ่านมากลับทำ Performance ได้อย่างน่าสนใจ จนทำให้เป็นหนึ่งในหุ้นกลุ่มเป้าหมายของนักลงทุนสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศ 
 
 
 ส่วนดัชนี MSCI Global Small Cap คงต้องมาติดตามว่าจะมีการทบทวนนำหุ้นใดเข้าและออก ซึ่งหากมีการเปลี่ยนแปลงอาจจะเห็นแรงเก็งกำไรเข้ามาในหุ้นดังกล่าวพอสมควร 
 
 
โบรกเกอร์รายนี้มองหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่น่าสนใจ คือ BBL และ TMB จากแนวโน้มสินเชื่อปรับตัวดีขึ้น ขณะ NPLลดลง ขณะที่ KKP มีความโดดเด่นเรื่องปันผลสูง
 
 
ด้าน “วิกิจ ถิรวรรณรัตน์” แห่งโบรกเกอร์ค่าย “บัวหลวง” บอกกับ Money Channel ถึงประเด็น MSCI Rebalance ว่าในครั้งนี้หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์มีความเป็นไปได้ที่จะถูกปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุน เนื่องจากในปีที่ผ่านมาดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นมาสูง แต่ราคาหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ยังปรับตัวขึ้นน้อยกว่าตลาดมาก จึงอาจจะต้องเพิ่มน้ำหนักการลงทุนให้ขึ้นมาใกล้เคียงกับภาพรวม SET index ซึ่งมองว่าตลาดจะตกเป็นเป้าหมายฟันด์โฟลว์ของสถาบันต่างชาติให้ไหลเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้น 
 
 
อย่างไรก็ตาม การปรับตัวเพิ่มขึ้นในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์รอบนี้ มองว่าเป็นแค่ภาวะเก็งกำไรจากเม็ดเงินในประเทศเท่านั้น เพราะฟันด์โฟลว์จะไหลเข้ามาลงทุนจริงก็ต่อเมื่อ MSCI มีผลบังคับใช้แล้ว
 
 
เขาประเมินผลประกอบการธนาคารพาณิชย์ในปีนี้จะฟื้นตัวได้ตามภาวะเศรษฐกิจและ NPL ที่ชะลอตัวลง ทำให้การตั้งสำรองหนี้ไม่สูง จนกดดันกำไรเหมือนในอดีต สำหรับ Top pick ของค่ายบัวหลวง ยกให้ SCB (ราคาพื้นฐาน 173 บาท) และ TISCO (ราคาพื้นฐาน 71 บาท)
 
 
สำหรับมุมมองโบรกเกอร์ “ทรีนีตี้” ให้น้ำหนักการลงทุนกลุ่มธนาคารพาณิชย์ในปี 2560 "เท่ากับตลาด" เนื่องจากประเมินเศรษฐกิจปี 2560 มีทิศทางที่ดีขึ้น โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนหลักมาจากการใช้จ่ายและการลงทุนของภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะส่งผลให้การบริโภคภาคครัวเรือน และการลงทุนของภาคเอกชนที่อยู่ในระดับค่อนข้างต่ำในปี 2559 มีทิศทางดีขึ้นได้ จึงคาดว่าสินเชื่อในปีนี้ จะเติบโตดีขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ที่จะส่งผลบวกต่อธนาคารขนาดใหญ่ ส่วนสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม คาดว่าจะมีความต้องการสินเชื่อสูงแต่อาจเติบโตได้ไม่เต็มที่ เนื่องจากธนาคารยังระมัดระวังด้านคุณภาพหนี้ในกลุ่มนี้อยู่
 
 
สำหรับแนวโน้ม NPL ของกลุ่มแบงก์ในปีนี้ นั้น อาจยังเห็นการเพิ่มขึ้น แต่อัตราการก่อตัวของ NPLใหม่จะไม่น่ากังวลเท่ากับในปี 2559 ทำให้อาจเห็นค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญลดลงเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม จากประเด็นการผ่านแผนฟื้นฟูของ SSI ที่ทำให้สามารถจัดชั้นหนี้ใหม่ออกจากการเป็น NPL นั้น ส่งผลบวกต่อธนาคารที่เป็นเจ้าหนี้ คือ SCB, KTB และ TISCO โดยจะเห็นสัดส่วน NPL ที่ลดลง และสำรองส่วนเกินเพิ่มขึ้น จนมีโอกาสลดการตั้งสำรองพิเศษเพิ่มเติมไปได้มาก และทำให้กำไรเติบโตได้โดดเด่น
 
 
*********************************
ทีม Business&Finance, Money Channel

เครดิต : moneychannel


stock-news