แบบนี้ พี่หรั่งเอาจริงแน่ๆเลย

นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทยต่อเนื่องในวันนี้ วันที่ 8 สิงหาคม ปี พ.ศ 2561 จํานวน +2,901.98 ล้าน บาท ทําให้นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทยต่อเนื่องเป็นจํานวน 11 วันทําการแล้ว ( โดยยกเว้นเฉพาะวันที่ 25 กรกฎาคม ปี พ.ศ 2561 เท่านั้น )  สรุปการซื้อหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติเป็นดังนี้ คือ :

ยอดขายสุทธิตั้งแต่ต้นปีถึงวันที่19 กรกฎาคม ปี พ.ศ 2561      = -198,405.75 ล้าน บาท ( ขายสะสมสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์  ) และ Set Index ปิดที่ 1,646 จุด

1) วันที่ 20  กรกฎาคม ปี พ.ศ 2561 นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ   = + 979.39 ล้าน บาท

2) วันที่ 23  กรกฎาคม ปี พ.ศ 2561 นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ   = +1,610.98 ล้าน บาท

3) วันที่ 24  กรกฎาคม ปี พ.ศ 2561 นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ   = +1,309.54 ล้าน บาท

4) วันที่ 25 กรกฎาคม ปี พ.ศ 2561 นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ  =  -330.56  ล้าน บาท

5) วันที่ 26 กรกฎาคม ปี พ.ศ 2561 นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ    =  +2,313.76 ล้าน บาท

6) วันที่ 31 กรกฎาคม ปี พ.ศ 2561 นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ    =  +1,823.67 ล้าน บาท

7) วันที่ 1 สิงหาคม ปี พ.ศ 2561 นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ        =  +1,147.73 ล้าน บาท

8) วันที่ 2 สิงหาคม ปี พ.ศ 2561 นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ        =   +347.52 ล้าน บาท 

9) วันที่ 3 สิงหาคม ปี พ.ศ 2561 นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ       =   +560.11 ล้าน บาท 

10)วันที่ 6 สิงหาคม ปี พ.ศ 2561 นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ      =  +1,229.07 ล้าน บาท 

11)วันที่ 7 สิงหาคม ปี พ.ศ 2561 นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ      =  +2,225.95 ล้าน บาท 

12)วันที่ 8 สิงหาคม ปี พ.ศ2561 นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ        = +2,901.98 ล้าน บาท และ Set Index ปิดที่ 1,721 จุด

รวมนักลงทุนต่างชาติซื้อ  11 วันทําการและขาย 1 วันทําการ    = +16,119.14 ล้าน บาท

ยอดขายสุทธิตั้งแต่ต้นปีถึงวันที่ 8 สิงหาคม ปี พ.ศ 2561          = -182,286.61 ล้าน บาท

มีผลทําให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น ( 1,721 - 1,646 ) / 1,646 x 100 = +4.56%

การกลับมาซื้อหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติ น่าจะพยุงตลาดหุ้นไทยไม่ให้ปรับฐานอย่างรุนแรงเหมือนก่อนหน้านี้ ก่อนที่จะเป็นขาขึ้นต่อไปในอนาคตได้

การที่นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อทั้งหุ้นไทยและหุ้นในภูมิภาคแถบเอเชีย อาจจะมีสาเหตุมาจาก 2 ประการด้วยกัน คือ :

1) FOMC อาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ย Fed Fund Rate เพียงแค่ครั้งเดียว ( แทนที่จะปรับสองครั้งตามที่ตลาดเคยคาดหวังไว้ ) ในช่วงที่เหลือของปีนี้คือปี พ.ศ 2561 จากการชี้นําของประธานาธิบดี Donald Trump เพราะ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่ามากเกินไป เมื่อเปรียบเทียบกับค่าเงินหยวนของจีน และ ค่าเงิน EURO ของสหภาพยุโรป และ การประชุม FOMC จะมีขึ้นอีก 3 ครั้งในปีนี้คือปี พ.ศ 2561 ดังนี้ คือ :

        1.1) วันที่ 19 - 20 กันยายน ปี พ.ศ 2561

        1.2) วันที่  31 ตุลาคม - 1 พฤศจิกายน ปี พ.ศ 2561

        1.3) วันที่ 12 - 13 ธันวาคม ปี พ.ศ 2561

2) กนง. อาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย หนึ่งครั้ง ในช่วงที่เหลือของปีนี้คือปี พ.ศ 2561แทนที่จะปรับในช่วงต้นปีหน้าคือปี พ.ศ 256 และ การประชุม กนง. จะมีขึ้นอีก 3 ครั้งในปีนี้คือปี พ.ศ 2561 ดังนี้ คือ :

         2.1) วันที่ 19 กันยายน ปี พ.ศ 2561

        2.2) วันที่ 14 พฤศจิกายน ปึ พ.ศ 2561

        2.3) วันที่ 19 ธันวาคม ปี พ.ศ 2561

ในส่วนของสงครามการค้าโลกนั้น สหรัฐอเมริกาจะเรียกเก็บภาษีจากจีนอีก 16,000 ล้าน USD ในวันที่ 23 สิงหาคม ปี พ.ศ 2561 ซึ่งจีนก็ประกาศตอบโต้แบบตาต่อตาฟันต่อฟันเช่นเดียวกัน จากเดิมเรียกเก็บ 34,000 ล้าน USD เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ปี พ.ศ 2561 รวม 2 รายการนี้เป็นเงินจํานวน 50,000 ล้าน USD ซึ่งจีนก็ประกาศตอบโต้แบบตาต่อตาต่อฟันเช่นเดียวกันทั้ง 2 รายการ และ สงครามการค้าโลกระลอกต่อไปนั้นน่าจะเป็นการเรียกเก็บภาษีของสหรัฐอเมริกาจากจีนอีกจํานวน  200,000 ล้าน USD ในเดือน กันยายน ปี พ.ศ 2561 ซึ่งประเด็นนี้จะเป็นปัญหาของจีน เพราะ จีนนําเข้าสินค้าจากสหรัฐอเมริกาเป็นจํานวนแค่ 130,400 ล้าน USD แค่นั้นเองในปี พ.ศ 2560 

หมายเหตุ: 1) ที่มาจาก ( www.set.or.th ) และ ( www.bloomberg.com ) 

                2) โปรดติดตามรายละเอียดการลงทุนใน สภาวะตลาดกระทิง และ ธุรกิจรับเหมาขาขึ้นรอบใหญ่ได้ใน longtunbysak.blogspot.com