ปี 2025 ไม่ได้เป็นแค่ปีทองของ “ทองคำ” แต่ยังเป็นปีที่ เงิน (Silver) กลับมาแสดงพลังอีกครั้ง
ล่าสุดราคาทะยานแตะ $42 ต่อออนซ์ สูงสุดในรอบกว่า 14 ปี และทำผลตอบแทน +45% ตั้งแต่ต้นปี แซงหน้าทั้งหุ้นและสินทรัพย์ส่วนใหญ่

จุดเปลี่ยน: การเบรกแนวต้าน 14 ปี
การขึ้นไปเหนือ $42 ครั้งนี้คือ สัญญาณทางเทคนิคสำคัญ ที่นักวิเคราะห์รอคอย
• หุ้นสหรัฐฯ S&P 500 ขึ้นปีนี้ +12%
• เงินพุ่งแรงกว่านั้นเกือบ 4 เท่า
สะท้อนว่าตลาดเริ่มเห็นศักยภาพของโลหะสีเทาที่ถูกมองข้ามมานาน
Gold–Silver Ratio: ตัวชี้โอกาสลับ
อัตราทอง–เงิน (GSR) ปัจจุบันอยู่ที่ 86:1 แม้ลดจาก 100:1 ต้นปี แต่ยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 40–60:1
• ถ้า Ratio ลดมา 60:1 → เงินอาจไปถึง $58
• ถ้าลดเหลือ 40:1 → เงินอาจแตะ $87
• รอบก่อนสุดโต่งถึง 31:1 → เงินอาจเกิน $110
นี่ไม่ใช่คำทำนาย แต่คือ ภาพให้เห็นว่าศักยภาพข้างหน้าของ Silver ใหญ่แค่ไหน
ทำไมเงินยังพุ่ง?
1. ดีมานด์อุตสาหกรรมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ – Solar และ EV ต้องใช้เงินมากกว่าที่คิด
2. ซัพพลายตึงตัว – การผลิตเหมืองแทบไม่โต 3 ปีติด ขณะที่สต๊อก COMEX หายไปกว่า 35%
3. เงินเฟ้อ + ธนาคารกลางอัดสภาพคล่อง – ทั่วโลกเพิ่มเงินใหม่ $3.2 ล้านล้านดอลลาร์ในปีเดียว
Mike Maloney มองอย่างไร?
• “เงินจะขึ้นแรง และ % Gain มากกว่าทอง 4 เท่า”
• “Tesla และบริษัทใหญ่ต้องเริ่มสต็อกเงินตั้งแต่วันนี้”
• “$40 คือราคาถูก เมื่อเทียบกับ High ปี 1980 ที่ปรับเงินเฟ้อแล้วกว่า $1,600”
นักลงทุนควรทำอย่างไร
• DCA สม่ำเสมอ ไม่ต้องพยายามจับจังหวะ
• ถือจริง > กระดาษ “ถ้าไม่ได้จับต้องจริง ก็ไม่ใช่ของคุณ”
• ยอมรับความผันผวน เพราะเงินอาจย่อ 10–15% ได้ใน Bull Market
$42 อาจดูสูงแล้ว แต่เมื่อเทียบกับประวัติศาสตร์ อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของรอบใหญ่
สิ่งที่น่าสนใจคือ คนทั่วไปยังไม่เข้ามา — Google Search คำว่า “ซื้อเงิน” ยังต่ำกว่าปี 2011 ถึง 70%
แปลว่ารอบนี้ยังไม่จบ และทุกการย่อ อาจเป็นโอกาสสะสม
ที่มา. KIM Property Live