วิธีใช้กราฟเบื้องต้น [สำหรับมือใหม่]

รู้จักกราฟเบื้องต้นสำหรับมือใหม่

ในส่วนนี้เราจะมารู้จักกราฟหุ้นกัน ...

เวลาเราเปิดบัญชีกับโบรคเกอร์ ทางโบรคเกอร์จะมีเครื่องมือกราฟหุ้นให้เราใช้ฟรีอยู่แล้ว และนักลงทุนนิยมใช้กันมาก คือ efinance thai แต่ในความเป็นจริงโปรแกรมกราฟหุ้นมีหลายค่ายมาก ที่นิยมใช้กันในไทยมีของค่าย Efinance Thai, ค่าย Aspen และค่าย Bisnews ซึ่งมีทั้งใช้ฟรีและเสียเงินครับ

เมื่อพูดถึงกราฟหุ้นจะมี 2 ส่วนใหญ่ๆที่มือใหม่ควรรู้ครับ คือ ส่วนของ Price Pattern และส่วนของ Indicator

ส่วนของ Price Pattern คือรูปแบบของราคาหุ้น นักลงทุนนิยมใช้ในส่วนของกราฟแท่งเทียน หรือ Candlestick กราฟแท่งเทียนจะเป็นการบ่งบอกแนวโน้มของราคาหุ้นว่ามี "แนวโน้ม" จะเคลื่อนที่เป็นอย่างไรต่อไปในแท่งเทียนต่อไป

เราสามารถศึกษารูปแบบกราฟแท่งเทียนได้จากหนังสือเล่มนี้ครับ https://goo.gl/s1088K

ส่วนต่อมาคือ Indicator เครื่องมือจับจังหวะราคาหุ้น มีเครื่องมืออยู่เป็นจำนวนมากแต่ที่นักลงทุนไทยนิยมใช้ได้แก่ …

- เส้นค่าเฉลี่ย Moving Average ถือเป็นเครื่องมืออันดับต้นๆของนักลงทุนไทยที่ใช้งานได้มีประสิทธิภาพ นักลงทุนส่วนใหญ่ใช้เผื่อดูว่าหุ้นตัวนั้นเป็นขาขึ้นหรือขาลง ถ้าราคาหุ้นอยู่ใต้เส้นค่าเฉลี่ยบ่งบอกว่าหุ้นตัวนั้นเป็นขาลง ถ้าราคาหุ้นอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยบ่งบอกว่าหุ้นตัวนั้นเป็นขาขึ้น

- MACD ใช้สำหรับดู Momentum ของราคาหุ้นว่าแนวโน้มของราคาหุ้นมีความแข็งแกร่งมากแค่ไหน

- RSI ใช้สำหรับดูสัญญาณ Overbought และ OverSold ในบางครั้งสามารถดูจังหวะของ Divergence ได้อีกด้วย

== สรุป ==

สำหรับมือใหม่แล้ว มีอยู่ 3 สิ่งที่เราควรรู้เป็นอันดับแรกเลยนั้น คือ โปรแกรมที่ใช้ซื้อขายหุ้น การศึกษาหุ้นด้วยปัจจัยพื้นฐาน การดูราคาหุ้นด้วยกราฟเทคนิค นี้คือบันได 3 ขั้น ที่นักลงทุนควรสนใจเป็นอันดับแรก

จริงๆแล้วเรื่องของกราฟหุ้นมีรายละเอียดมากพอๆกับการศึกษาเรื่องปัจจัยพื้นฐาน เพียงแต่กราฟหุ้นจะสะท้อนผลลัพธ์ได้เร็วกกว่าเรื่องพื้นฐานที่ใช้เวลาเป็นไตรมาสหรือเป็นปีถึงจะมีความเปลี่ยนแปลง ในขณะที่กราฟหุ้นจะเปลี่ยนแปลงวันต่อวัน คนส่วนใหญ่จึงให้ความสำคัญกับกราฟหุ้นมากกว่าเรื่องของปัจจัยพื้นฐาน แต่จากสถิติที่ผ่านมาบ่งชี้ให้เราเห็นว่า จากนักเก็งกำไร 100 คน มี 80 คนที่ล้มเหลว 15 คนที่เสมอตัว และ 5 คนเท่านั้นที่จะประสบความสำเร็จจากการเก็งกำไรด้วยกราฟเทคนิค

ปัจจัยพื้นฐานมีจุดยากอยู่ที่ตัวเลขทางบัญชี และการมองถึงอนาคตว่าธุรกิจนี้จะยังดีอยู่ต่อไปหรือไม่ในอนาคต ซึ่งต้องใช้ศิลปะมากกว่าจะอาศัยหลักวิชาการ คนที่ลงทุนโดยอาศัยปัจจัยพื้นฐานมีจำนวนมากที่ล้มเหลว ขาดทุนจนต้องออกจากตลาดไป

อย่างไรก็ตาม การลงทุนให้ประสบความสำเร็จนอกจากจะต้องอาศัยกราฟและปัจจัยพื้นฐานแล้ว ยังต้องเข้าใจในเรื่องจิตวิทยา อุปนิสัย การควบคุมความกลัวความโลภ ซึ่งต้องอาศัยประสบการณ์ในการอยู่ตลาดหุ้นอย่างยาวนานด้วยครับ ถ้าคิดแค่ว่าอาศัยแต่กราฟและปัจจัยพื้นฐานนั้น ยังไม่เพียงพอในการอยู่กับตลาดหุ้น

อ่านบทความบันไดขั้นที่ 1 ได้ที่ >> https://www.stock2morrow.com/article-detail.php?id=1770
อ่านบทความบันไดขั้นที่ 2 ได้ที่ >> https://www.stock2morrow.com/article-detail.php?id=1772