ห้องเม่าปีกเหล็ก

กลุ่มเหล็กไล่ทวง

โดย 98 Degree
เผยแพร่ :
62 views

กลุ่มเหล็กไล่ทวง Performance หุ้นเด่น ลุ้นดีมานด์จีนหนุน

 

 

ถึงคิวหุ้นกลุ่มเหล็กกลับมาทวง Performance โดดเด่นอีกครั้งในไตรมาสส่งท้ายปี ดูจากทิศทางราคาหุ้นที่เป็นภาพขาขึ้นมาตั้งแต่ต้นปี แม้จะมีสลับกับแรงขายทำกำไรในบางช่วง

 

มีสัญญาณบวกมาจากความต้องการสินค้าแร่เหล็กและถ่านหินภายในประเทศจีนที่ฟื้นตัว จนเริ่มเห็นโบรกเกอร์ต่างชาติบางรายอัพเกรดแนวโน้มดีมานด์ถ่านหินในจีนแล้ว ในขณะเดียวกัน ปริมาณสินค้าในตลาดก็หดหายไปพอสมควร จากนโยบายชะลอเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนเมื่อปีที่แล้ว

 

แต่ทิศทางดัชนีหุ้นกลุ่มเหล็กที่ดีขึ้นมาในปีนี้ นักลงทุนบางรายอาจยังสงสัยว่าการเก็งข่าวดีข้างต้น จะสมเหตุสมผลหรืออยู่ได้ยาวนานเพียงใด ?

 

คุณมงคล พ่วงเภตรา จากฝ่ายวิเคราะห์ฯ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ให้ข้อมูลกับ Money Channel ว่า แนวโน้มราคาเหล็กปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา และถ้าหากย้อนไปเมื่อปีที่แล้วพบว่าประเทศจีนได้ลดความต้องการใช้เหล็กและถ่านหินลง เพื่อชะลอความร้อนแรงภาวะเศรษฐกิจ เพราะอุตสาหกรรมเหล็กและถ่านหิน ถือเป็นอุตสาหกรรมต้นน้ำที่เชื่อมโยงเข้ากับหลายภาคส่วนในระบบเศรษฐกิจ แต่ด้วยผลพวงจากภาวะซัพพลายที่ปรับตัวลดลง จึงทำให้ราคาเหล็กและถ่านหินเริ่มกลับมาดีขึ้น

 

ภาพบวกอีกด้านสะท้อนได้จากผลประกอบการไตรมาส 2/59 ของบริษัทที่ทำธุรกิจเหล็กสามารถเติบโตได้โดดเด่น และแม้จะปรับตัวลดลงไปบ้างในไตรมาส 3 นี้ แต่เชื่อว่าจะกลับมาโดดเด่นอีกครั้งในไตรมาสสุดท้าย ตามการบริโภคสินค้าประเภทโลหะที่เพิ่มขึ้นในจีนเป็นหลัก

 

หากดูข้อมูลดัชนีราคาเหล็ก (Steel Price Index) อ้างอิงจาก Bloomberg พบว่าเป็นทิศทางขาขึ้นมาโดยตลอด ซึ่งถ้านับย้อนหลังตั้งแต่เดือน ก.ย.59 มาถึงปัจจุบัน ดัชนีฯ ปรับตัวขึ้นมาแล้วถึง 8% แต่ถ้าย้อนกลับไปเมื่อต้นปี พบว่าพุ่งขึ้นแล้วถึง 46%

 

เคทีบีฯ เชื่อว่าดัชนีราคาเหล็กน่าจะปรับตัวขึ้นได้ต่อได้ในไตรมาส 4 เพราะแม้จะมีการเก็งกำไรเข้ามาเป็นระยะ แต่ปัจจัยพื้นฐานพบว่ามีสัญญาณบวกจากตัวเลขความต้องการในจีนคอยสนับสนุน

 

สำหรับหุ้นเด่นในกลุ่มเหล็กของเคทีบีฯ คือ บมจ.ค้าเหล็กไทย หรือ TMT (ราคาพื้นฐาน 14 บาท) กับเหตุผลว่าในปัจจุบันมีผลตอบแทนที่เป็นปันผลสูงสุดติดอันดับ 1 ใน 3 เมื่อเทียบกับหุ้นทั้งหมดในตลาด โดยประเมิน Dividend yield เมื่อเทียบกับราคาหุ้นปัจจุบันสูงถึง 10.40%

 

และแม้ว่ากำไรไตรมาส 3 คาดว่าจะอ่อนตัวลงไปบ้าง แต่แนวโน้มกำไรไตรมาส 4 จะฟื้นตัวโดดเด่นอีกครั้ง แต่ไม่น่าจะสูงถึงระดับไตรมาส 2 ส่งผลให้ทั้งปี 2559 กำไรสุทธิคาดว่าจะแตะ 789 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นถึง 146% คิดเป็นอัตราจ่ายปันผลที่ 1.40 บาท

 

 "คือเดิมเราคิดว่ารอบของราคาเหล็กจะจบไปแล้วในไตรมาส 3 แต่พอมาไตรมาส 4 ประมาณเดือน ต.ค.ราคาเหล็กกลับถูกกระตุกขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งเป็นไปตามความต้องการในจีนที่มากขึ้น และถ้าถามว่าจะขึ้นต่อได้อีกหรือไม่ คงต้องขึ้นอยู่กับความต้องการในจีน โดยปัจจุบันยังอยู่ในทิศทางที่ดี แม้จะมีการเก็งกำไรบ้าง แต่ตัวเลขความต้องการในจีนยังมีสูง ซึ่งสอดคล้องกับราคาถ่านหิน เพราะถ่านหินใช้ในการถลุงเหล็กเป็นอุตสาหกรรมต้นน้ำ ถ้าสังเกตเราจะพบว่าราคาเหล็กและถ่านหิน จะไม่ล้อไปในทิศทางเดียวกับกลุ่มน้ำมันและไม่อิงกับดอลลาร์แล้ว ซึ่งไม่เหมือนกับในอดีต เพราะได้สะท้อนความต้องการแท้จริงมากขึ้น แต่ผู้ลงทุนก็ควรต้องระมัดระวังความผันผวนของราคาเหล็กด้วยในอนาคต" 

 

ส่วนโบรกเกอร์ค่าย "เคจีไอ" แม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับความผันผวนของราคาเหล็กในครึ่งปีหลัง แต่ประเมินราคาเหล็กน่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในเดือนสิงหาคม และน่าจะฟื้นตัวและยืนได้อย่างแข็งแกร่งในช่วงที่เหลือของปีนี้

 

โดยราคาเหล็กในประเทศในเดือนก.ค.-ส.ค.ลดลงมาอยู่ที่ 18.50-18.60 บาท/กก. จากระดับสูงสุดที่ 21.0 บาท/กก. ในเดือน พ.ค.จากความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาดในจีน แต่คาดราคาเหล็กในประเทศจะฟื้นและยืนได้อย่างมั่นคงที่ระดับ 20.0 บาท/กก. เพราะโรงเหล็กในประเทศขาดสภาพคล่อง ทำให้อัตราการผลิตต่ำ ขณะอุปทานเหล็กในประเทศยังตึงตัว รวมถึงมาตรการต่อต้านการทุ่มตลาดของรัฐบาล และอุปทานเหล็กของจีนอาจจะลดลงได้

 

“เคจีไอ” คาดการณ์กำไรทั้งปีของ TMT จะแตะ 900 ล้านบาท จากราคาเหล็กในประเทศที่ยืนได้ดีในปีนี้ และการบริหารสินค้าคงคลังอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะคาดปริมาณยอดขายในปีนี้จะทำสถิติสูงสุดที่  6 แสนตัน เพิ่มขึ้น 5.7% จากปีก่อน โดยจุดแข็งของ TMT คือการเป็น “solution provider” ซึ่งนำเสนอสินค้าที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า

 

********************************

ทีม Business&Finance, Money Channel


98 Degree