เจาะลึก "ปตท." ผู้ผลิต EV ไทย พร้อมหรือไม่? ขึ้นแท่น "ฮับ อาเซียน"
เทรนด์รถEV เป็นเทรนด์โลก ประเทศไทยจะเดินหน้าสถาปนาต่อยอดเป็นผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าต่อไปได้อย่างไร การเปลี่ยนแปลงจากเครื่องสันดาปภายในไปสู่อั้นวีน ภาครัฐเองก็ได้สนับสนุนการเติบโตของอีวีอย่างต่อเนื่องและประกาศวิชั่นนโยบาย 30@30 อย่างชัดเจน
นายเอกชัย ยิ้มสกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และกรรมการผู้จัดการ บริษัท อรุณ พลัส จำกัด (ARUN PLUS) ผู้นำด้านระบบนิเวศน์ยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจร หนึ่งในกลุ่มธุรกิจใหม่ของ ปตท. กล่าวว่า ปีที่ผ่านมากระแสรถอีวีเข้ามา กลุ่ม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ต้องปรับตัวเพื่อให้อยู่อย่างเดิมไม่ได้ เลยมีวิชั่นใหม่คือ Powering Life with Future Energy and Beyondขับเคลื่อนทุกชีวิต ด้วยพลังแห่ง
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมอีวี ได้ปักธงอยู่ในวิชั่นนี้ อรุณ พลัส มีบริษัทในกลุ่มปตท. อย่าง GPSC ที่ทำเรื่องแบตเตอรี่มาซักพัก ส่วน IRPC และ GC ได้ทำเรื่องซัพพลายเชนป้อนวัตถุดิบให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ ในขณะที่ OR ทำปั๊มน้ำมัน และมีแนวคิดที่จะเปลี่ยนเป็นอีวี อีโคซิสเต็มเพื่อรองรับรถอีวี ดังนั้น สิ่งที่ปตท.ทำอยู่ คือการดำเนินธุรกิจให้ไปในทิศทางเดียวกันตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ดังนั้นสิ่งที่ขาดคือส่วนสำคัญคือการสร้างอีโคซิสเต็มที่เป็นการต่อยอดอีวี
“อุตสาหกรรมเครื่องยนต์สันดาปต้องต้องมีโอกาสอีวีด้วย แต่จะเหมือนไก่กับใครว่าอะไรจะเกิดก่อนกัน คนจะซื้อรถจะต้องบอกว่าที่ชาร์จพอหรือยัง คนจะลงทุนชาร์จ ก็ต้องดูว่ารถเยอะพอหรือยัง อันนี้เป็นปลายทาง ต้นทางก็คือ คนจะลงทุนแบตเตอรี่ก็ต้องดูว่าโรงงานรถมีเยอะพอหรือไม่ เพราะต้องการอีโคโนมีออฟเสกลค่อนข้างสูง คนจะลงทุนรถ ซัพพลายเชนพร้อมหรือยัง แบตเตอรี่มาหรือยัง”
อย่างไรก็ตาม เมื่อคลี่ดูแล้วก็จะตองวางให้ถูกที่ ถูกจังหวะและเวลา ซึ่งหัวใจหลักคือโปรดักส์ชั่น ภาคของการผลิต เมื่อเกิดความร่วมมือกับฟ็อกซ์คอนน์ ตั้งบริษัทร่วมทุน ลงทุนกว่า 3 หมื่นล้านบาท เป็นโรงงานที่ผลิตรถได้ทั้งคัน มองหาธุรกิจใหม่เหมือนกัน สิ่งที่ฟ็อกซ์คอนน์ให้ อรุณ พลัสคือความเสรี โดยโอเพ่นทั้งภาคการพัฒนาและภาคการใช้กับลูกค้า
“ตอนนี้เรามีลูกค้า 2 กลุ่มคือ กลุ่มสตาร์ทอัพจากจีน ที่ยังมีเทค คอมพานี ที่ทำเรื่องรถ อาทิ แอปเปิล หัวเหว่ย โซนี่ เป็นต้น ที่ยังไม่มีรถเป็นของตัวเอง บางคนมีกำลังก็จะลงทุนภาคการผลิต บางคนไม่มีกำลังงานอยู่ที่จีนต้องการขยายแบรนด์ของตัวเอง เราก็เป็นทางเลือก คนอยากมาเปิดตลาดรถในอาเซียนก็มาคุยกับเราเพื่อผลิตให้ได้ อีกกลุ่มที่เป็นแบรนด์รถที่น่าสนใจอและยังมีทั้งโรงงาน ดังนี้น จะเหมาะกับแบรนด์รถใหม่และรถเก่าที่อยากมาลงตลาดอีวีที่ไม่อยากตกขบวน”
ทั้งนี้ อรุณพลัส ได้พูดคุยกับลูกค้าหลายรายมีทั้งยุโรปและจีน ทั้งใหม่เก่า โดยมีแผนว่าไตรมาส 1/2566 จะมีความชัดเจน ขณะเดียวกันโรงงานต้องสร้างให้เสร็จภายในปี 2566 เพื่อที่ต้นปี 2567 จะเริ่มผลิต โดยช่วงกลางปี 2566 จะมีรถที่ออกมาวิ่งที่เป็นรถของลูกค้า ปตท. ที่มาจ้างผลิต ซึ่งข้อดีคือ ก็ลดเต้นทุนการผลิต
"เมื่อกลุ่มปตท.มีความพร้อมทุกซัพพลายเชนก็สามารถต่อยอดอุตสาหกรรมอีวีได้อย่างครบวงจร สามารถก้าวสู่ผู้นำฮับ อาเซียนให้กับผู้ปลิตรถอีวีได้อย่างครบวงจรและสมบูรณ์แบบได้อย่างแน่นอน"