คําว่า นโยบาย " เอ็นดูเขา เอ็นเราขาด " นั้น " เพื่อนผู้รู้ใจ " หมายถึงนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนก่อนๆที่ทําให้สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศใจบุญสุนทาน โดยการให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศต่างๆทั่วโลกเพราะนโยบาย " เอ็นดูเขา " แต่ก็ได้ทําให้ประชาชนชาวอเมริกันเดือดร้อนหนักจนเรียกได้ว่า " เอ็นเราขาด " เพราะเงินที่นําไปทํานโยบาย " เอ็นดูเขา " นั้นมาจากหยาดเหงื่อแรงงานและนํ้าตาของชาวอเมริกันโดยการสูบเลือดสูบเนื้อในรูป " ภาษี " ของชาวอเมริกัน นั่นเอง!
" นายตลาดตัวจริงเสียงจริงอย่าง เอะอะ โผงผาง ไม่อยู่กับร่องกับรอย " นั่งคิดวิเคราะห์และไตร่ตรองอย่างเงียบๆเกี่ยวกับนโยบาย " เอ็นดูเขา เอ็นเราขาด " ของประธานาธิบดีท่านฯก่อนๆของสหรัฐอเมริกา และ " เพื่อนผู้รู้ใจ " ขอทบทวนอีกครั้งหนึ่งน่ะ คร๊าบว่า คําว่า " เอ็นดูเขา " ในที่นี้ หมายถึงสหรัฐอเมริกาในสมัยก่อนๆมีนโยบายให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศต่างๆทั่วโลกในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือแบบให้เปล่ากับประเทศต่างๆในแถบอัฟริกาใต้ การส่งทหารไปช่วยรบและประจําการในซีเรีย อัฟกานิสถาน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น เป็นต้น การเจรจาการค้าแบบเสียเปรียบกับประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะกับประเทศจีน และอื่นๆ ส่วนคําว่า " เอ็นเราขาด " นั้นหมายถึงประชาชนชาวอเมริกันที่จะต้องเสียภาษีเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทุกอย่างและได้รับความเสียหายอย่างมากมายมหาศาลจากนโยบายดังกล่าวข้างต้น และผลที่ตามมาที่เห็นได้ชัดก็คือประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาท่านฯก่อนๆ " ได้หน้าได้ตา " เพราะสามารถผลักดันให้ประเทศสหรัฐอเมริกากลายเป็นประเทศ " มูลนิธิ " ที่ส่งเงินส่งทองออกไปช่วยเหลือประชาชนชาวโลกได้อย่างมากมายมหาศาล ในขณะเดียวกันกับประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาบางท่านฯถึงกับได้รับ " รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ " จากการเอื้อเฝื้อเผื่อแผ่ฯของท่านฯนั้นๆ แต่หารู้ไม่ว่าประชาชนชาวอเมริกันบางส่วนถึงกับอดตายจากนโยบาย " เอ็นดูเขา เอ็นเราขาด " ของท่านฯทั้งหลายเหล่านั้น
" นายตลาดตัวจริงเสียงจริงอย่าง เอะอะ โผงผาง ไม่อยู่กับร่องกับรอย " จึงได้เสียสละความสุขส่วนตัวลงมาชิงชัยในตําแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เพราะเห็นว่านโยบาย " เอ็นดูเขา เอ็นเราขาด " ของประธานาธิบดีท่านฯก่อนๆของสหรัฐอเมริกาไม่ถูกต้องแล้วมากําหนดเป็นนโยบายที่ตัวเองคิดว่าน่าจะถูกต้องขึ้นมาคือนโยบาย " America First " หรือนโยบาย " America Great Again " และได้รับการเลือกตั้งให้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ถึงแม้คะแนนจะตามคู่แข่งมาตลอดถึง 15% ต่อ 85% ก็ตาม
เมื่อเข้ามารับตําแหน่งประธานาธิบดีแล้ว " นายตลาดตัวจริงเสียงจริงอย่าง เอะอะ โผงผาง ไม่อยู่กับร่องกับรอย " ก็ได้สละเงินเดือน 400,000 USD ต่อ ปี ให้แก่มูลนิธิการกุศลฯ เพราะจุดประสงค์หลักของ " นายตลาดตัวจริงเสียงจริงอย่าง เอะอะ โผงผาง ไม่อยู่กับร่องกับรอย " นั้น เพื่อต้องการช่วยให้ชาวอเมริกันหลุดพ้นจากนโยบายที่ทําให้ประชาชนชาวอเมริกันยากจนข้นแค้น นั่นเอง!
ภายในระยะเวลาไม่ถึงสองปีที่ " นายตลาดตัวจริงเสียงจริงอย่าง เอะอะ โผงผาง ไม่อยู่กับร่องกับรอย " ได้เข้ามาบริหารประเทศ เศรษฐกิจและตลาดหุ้นของสหรัฐอเมริกาก็ได้ดีวันดีคืน เกินคาด และทําให้ " นายตลาดตัวจริงเสียงจริงอย่าง เอะอะ โผงผาง ไม่อยู่กับร่องกับรอย " ถึงกับยกย่องตัวเองว่าเป็นประธานาธิบดีที่ดีที่สุดของสหรัฐอเมริกา และเปลี่ยนจาก " มูลนิธิสหรัฐอเมริกาอันยิ่งใหญ่ " กลายเป็น " มหาอํานาจอันดับหนึ่ง " ของโลกเช่นเดิมต่อไป ก่อนที่จะเสียตําแหน่งนี้ให้กับจีนอย่างฉิวเฉียด แบบเส้นยาแดงผ่าแปด เลยทีเดียว!
หมายเหตุ : ที่มาจาก ( www.bloomberg.com ) และ @realDonaldTrump