ห้องเม่าปีกเหล็ก

ผลวิเคราะห์วิจัยไทยเทศชี้ตรงกัน ดีลควบรวม TRUE - DTAC เป็นบวกต่อตลาดโทรคม การแข่งขัน และราคา

โดย Lennoon
เผยแพร่ :
61 views

ผลวิเคราะห์วิจัยไทยเทศชี้ตรงกัน ดีลควบรวม TRUE - DTAC เป็นบวกต่อตลาดโทรคม การแข่งขัน และราคา

 

ดีลการควบรวมกิจการระหว่าง บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) และ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คแซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) อยู่ในขั้นตอนของการศึกษาและพิจารณาการปรับโครงสร้างการควบรวมกิจการ แต่ก็ยังคงเป็นกระแสร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยประเด็นห่วงใยหลัก ๆ ในเรื่องของการผูกขาด และราคาค่าบริการที่อาจแพลงขึ้นจนทำให้ผู้บริโภคเสียประโยชน์นั้น นักวิเคราะห์หลักทรัพย์และกลยุทธ์การตลาดมองต่าง แจงชัดว่าการควบรวมเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมโทรคมนาคม ยกระดับการแข่งขันให้ทัดเทียมกันมากขึ้น หมดห่วงในเรื่องราคาค่าบริการแพง สอดคล้องกับผลวิจัยจากกรุงศรีฯ และต่างประเทศว่า อัตราค่าบริการของไทยต่ำมากในอาเซียน ขณะที่กสทช. ควบคุมราคาได้ดี ด้าน AIS ยังคงฟันกำไรได้มากกว่าเหมือนเดิม ปิดประเด็นควบรวมแล้วเกิดการผูกขาด

 

  • ดีลควบรวมกิจการระหว่าง TRUE และ DTAC จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการทุกราย เพราะจะทำให้โครงสร้างตลาดโทรคมนาคมเปลี่ยนไปในทางบวก จากที่ก่อนหน้านี้จนถึงปัจจุบัน ADVANC หรือ AIS เป็นเจ้าตลาดรายเดียวอย่างต่อเนื่องมาตลอด โดย DTAC เสียเปรียบในเรื่องของส่วนแบ่งการตลาดเสมอมา เพราะมีคลื่นความถี่ในมือน้อยกว่ารายอื่น หากสามารถรวมกับ TRUE จะทำให้บริษัทที่เกิดใหม่ มีทรัพยากรหรือสินค้ามากขึ้น ช่องทางการขายเพิ่มขึ้น ต่อไปการแข่งขันจะสมเหตุสมผลหรือทัดเทียมกันได้มากขึ้น โดยต้นทุนการดำเนินงานจะลดลง จะไม่มีการลงทุนซ้ำซ้อนในการขยายเครือข่ายคลื่นความถี่ จึงถือว่าเป็นประโยชน์ต่อภาพรวมของอุตสาหกรรมโทรคมนาคม

 

  • แม้ว่า TRUE และ DTAC จะมีรายได้เท่าเดิม แต่อัตรากำไรจะเพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายที่ลดลง ซึ่ง DTAC มี Net Profit Margin ประมาณ 5-6% ส่วน TRUE ติดลบ 10% ขณะที่ ADVANC มี Net Profit Margin สูงถึง 20%

 

  • ดีลการควบรวมระหว่าง TRUE และ DTAC ส่งผลดีต่อกลุ่มสื่อสาร โดยความน่าสนใจอยู่ที่งบลงทุน ซึ่ง ADVANC มีอยู่ 3 หมื่นล้านบาท ขณะที่ TRUE มีอยู่ 2-3 หมื่นล้านบาท และ DTAC อยู่ที่ 5-2.0 หมื่นล้านบาท เมื่อรวมกิจการจะมีงบลงทุนลดลงประมาณ 1.5-2.0 หมื่นล้านบาทต่อปี จึงมองเป็น upside ต่อบริษัทใหม่หลังการควบรวมกิจการที่มีโอกาสใช้ Economy of scale ออกแพ็คเกจมาแข่งขันกับเจ้าตลาดอย่าง ADVANC ซึ่งตรงนี้ยังตอบโจทย์ความกังวลในเรื่องการแข่งขันด้านราคาได้อีกด้วย

 

  • บทวิเคราะห์ของศูนย์วิจัยธนาคารกรุงศรีอยุธยาระบุว่า ประเทศไทยมีสัดส่วนค่าใช้จ่ายบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (รวมบริการเสียงและอินเทอร์เน็ต) ต่ำเป็นอันดับ 5 ในกลุ่มประเทศอาเซียน โดยต่ำกว่าค่าเฉลี่ยประมาณ 38%

 

  • รายงานอัตราค่าบริการโทรคมนาคมล่าสุด ระบุว่าอัตราค่าบริการเฉลี่ยในแต่ละประเภทของผู้ให้บริการทุกราย ไม่เกินอัตราที่กสทช. กำหนด และมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง แต่มีการแข่งขันนำเสนอบริการอินเทอร์เน็ต 4G และ 5G มากขึ้น

 

  • Top Dollar เผยผลวิจัยผู้ใช้บริการสมาร์ทโฟนประมาณ 8 พันล้านคนทั่วโลก ซึ่งเท่ากับเกือบร้อยละ 50 ของประชากรโลก พบว่า ประเทศไทยมีค่าบริการถูกที่สุด ติดอันดับ TOP 10 ของโลก

 

  • ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา กสทช. ทำหน้าที่ควบคุมราคาเป็นอย่างดีมาโดยตลอด ทำให้ธุรกิจโทรคมนาคมไม่สามารถปรับเพิ่มราคาได้ ดังนั้น ในข้อเท็จจริงจึงไม่น่าวิตกกังวล ในกรณีที่ TRUE รวมกับ DTAC แล้วราคาจะสูงขึ้น หากยังมีกสทช. เป็นกลไกสำคัญในการควบคุมและกำกับดูแลอยู่

 

  • สิ่งที่คนไทยควรจะเป็นห่วงมากกว่าการกำกับผู้ให้บริการโทรคมนาคมที่มีกฎหมายกฎระเบียบครบถ้วน คือ การที่กฎหมายในการกำกับดูแลตามไม่ทันกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีดิจิทัล ที่มีผู้ให้บริการ Over the top (OTT) ที่แทบไม่มีกฎหมายควบคุม ซึ่งบริษัทเหล่านี้อยู่ในต่างประเทศ และไม่ต้องจ่ายภาษีให้กับประเทศไทย กฎหมายที่มีก็บังคับใช้กับผู้ประกอบการในประเทศเป็นหลัก

 

 

ข้อมูลจาก InfoQuest, MGR


Lennoon