MoneyTalk Special ก้าวสู่โลกยุคใหม่ กับ ไทยวีไอ
คุณ วีระพงษ์ ธัม นายกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า(ประเทศไทย)
หลังจากคุณหลิน ได้พูดในรายการMoneyTalk เมื่อปีที่แล้วว่าได้ลงทุนในต่างประเทศ
วันนี้จะมาพูดต่อเกี่ยวกับมุมมองเกี่ยวกับการลงทุนที่เปลี่ยนไปหลัง Covid อย่างไรบ้าง
ช่วงต้นปีที่แล้ว วีไอไทยไปลงทุนในต่างประเทศคึกคักมาก เพราะว่าหุ้นเทค ขึ้นเยอะ ทั้งใน US,China,ลาตินอเมริกา
ญี่ปุ่นและยุโรป ถือเป็นช่วงฮันนีมูล ในช่วง2-3เดือนแรกของปีที่แล้ว หุ้นขึ้น 5-10%ทุกวัน โอนเงินไปซื้อหุ้นไม่ค่อยทัน
หุ้นต่างประเทศขึ้นได้ โดยเฉพาะหุ้นเทคที่ Price per sales จาก 10 เท่าไป 40 เท่าขึ้นไม่ยาก เปรียบกับ
หุ้นไทย ที่ PE 30 เท่าจะขยับไปที่ 100เท่า ค่อนข้างยากกว่า
ดังนั้นช่วงนั้น ไปลงทุนในต่างประเทศ คิดเป็นสัดส่วน 30% ซึ่งรวมราคาที่ขึ้นไปแล้ว กับ เติมเงินมาตลอดทาง ตอนนี้ สัดส่วนในหุ้นต่างประเทศเหลือแค่ 10 กว่า%
(มาจากหุ้นต่างประเทศลดลง และ หุ้นไทยเพิ่มขึ้น )
ทั้งที่ได้ปรับพอร์ตไปแล้วหลายตัวเพื่อประคองพอร์ต
โชคดีที่หุ้นไทยขึ้นมา ทำให้ภาพรวมของพอร์ตยังดี
ต้นปี2021 นักวิเคราะห์ต่างประเทศให้ความเห็นว่าหุ้น Growth จะมาแรง พอปลายปีภาพกลับกัน
หุ้นValue กลายเป็นหุ้นที่มาแรง แต่หุ้น Growth ลดลงแรง
พอต้นปี2022 นักวิเคราะห์ต่างประเทศให้ความเห็นว่า หุ้น value จะ perform มาก
คุณหลินมีความคิดเห็นส่วนตัวว่า หุ้น growth หลายตัว ราคาลงมาจนหลายตัวราคาสมเหตุผลมากขึ้น
แต่ไม่ใช่ราคาถูกนะ ก็เลยซื้อเพิ่ม
กลยุทธ์ที่ปรับในปีนี้
1.หุ้นที่ลงทุนปรับจาก หุ้นที่Hypergrowth (อัตราการเติบโตมากกว่า60%ต่อปีซึ่งเสี่ยงสูง ถ้ากำไรไม่มา) มาเป็นหุ้นGrowth (เติบโต30%ขึ้นไป) แทน
2.ต้องดูปัจจัยในแต่ละประเทศมากขึ้น
เพราะหลายปัจจัยที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ ทำให้ตลาดหุ้นผันผวน ก็เลยลดน้ำหนักในการลงทุนใน
ลาตินอเมริกา รัสเซีย ลง
นโยบายของสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า(ประเทศไทย)
1.Missionของสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า หรือ Thaivi ยังเหมือนเดิม แต่เราจำเป็นต้องไปลงทุนในต่างประเทศ
จากข้อมูลของกองทุนรวม มีเม็ดเงินไหลเข้าในGlobal Equity เติบโตในปีที่แล้ว 92% ส่วนกองหุ้นจีนโต 52%
ทั้งที่ NAV ลดลงมามาก (แสดงว่าเม็ดเงินเข้ามาน่าจะเติบโตมากกว่า 70%)
สุดท้ายนักลงทุนต้องปรับตัวอยู่ดี ทางสมาคมThaivi ต้องหาแนวร่วมเพื่อไปลงทุนในต่างประเทศ
ไม่อยากให้นักลงทุนเป็น ไก่ (ลงทุนไม่เป็น) ในการลงทุนต่างประเทศ
ส่วนตัวยังfocus ลงทุนหุ้นไทย รายการopportunity day ซึ่งบริษัทที่มาออกรายการเพิ่มจากเดิม50เป็น100กว่าบริษัท
ในWebboard Thaivi ก็มีห้อง 100คน100หุ้นไทยและต่างประเทศ ซึ่งยังคึกคักอยู่ เราจะเป็นไก่ที่บินได้แล้ว
เหตุผลที่ไปลงทุนตลาดหุ้นรัสเซียและละตินอเมริกา เพราะ ปีที่แล้ว ชอบModel business : Fintech,E-commerce
แต่การหาหุ้นลงทุน ต้องไปหาหุ้นที่มีmarket cap เล็กๆเพื่อจะได้โต10เด้งได้ ก็ต้องไปหาในประเทศที่ล้าหลัง
ซึ่งหุ้นที่ไปลงทุน ถือเป็นหุ้นHypergrowth. ต่อมาก็หันมาถือหุ้นGrowthแทน ระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น
ส่วนตัว เชื่อในเทรนของDigital ซึ่งเป็นเทรนใหญ่ที่จะมา ดังนั้นเลยต้องศึกษา
2.พัฒนาPlatformของThaivi และเป็นพันธมิตรกับplatformที่อื่นด้วย
เราอยากให้นักลงทุนรุ่นใหม่ที่พึ่งเริ่มเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นรู้จักเรามากขึ้น
3.เราต้องการให้นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ คืนกำไรสู่สังคม ผ่านการบริจาคให้โครงการดีๆ
เช่น ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ทำให้เด็กเล็กเป็นทรัพยากรที่มีค่าในอนาคต
คนที่สมัครเป็นสมาชิกใหม่ในปีที่แล้ว ส่วนใหญ่อายุเฉลี่ย20กลางๆ เข้ามาหาข้อมูลในwebboard Thaivi
ส่วนคลิปโต ถ้ามีพื้นฐานมากขึ้นอีกระดับนึง อาจเปิดห้อง100คน100 เหรียญก็เป็นไปได้
เพราะอยากให้นักลงทุนรุ่นใหม่ เข้าใจในการลงทุนแบบวีไอมากขึ้น
ส่วนหุ้นเทคโนโลยีหลายตัว ถ้าเราเข้าใจทฤษฏีมากขึ้น ก็อาจลงทุนได้ดีขึ้น เช่น
การตัดค่าใช้จ่ายของ R&D ของหุ้นเทคจะตัดในปีเดียว แตกต่างจาก การลงทุนในหุ้นold economy
ซึ่งตัดค่าเสื่อมเครื่องจักรหลายปี เราต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ๆเพิ่มขึ้นตลอดเวลา
สุดท้ายขอขอบคุณ อาจารย์ไพบูลย์ อาจารย์นิเวศน์ และ คุณหลินมากๆครับที่มาให้ความรู้