หุ้นท่องเที่ยวยิ้มร่ารับตัวเลขนทท.ฟื้น
หลังผ่านจุดต่ำสุด-มาตรการรัฐหนุน
.
แม้ภาพรวมสถานการณ์การท่องเที่ยวในช่วงครึ่งปีแรกยังคงเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน แต่จากข้อมูลล่าสุดพบว่าเริ่มเห็นการฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวไม่น้อย หลังเริ่มมีคำถามถึงทิศทางธุรกิจในช่วงต่อจากนี้ว่าจะยังมีปัจจัยสนับสนุนหรือไม่
.

โดย บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวฯ รายงานจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติรายสัปดาห์ 26 พ.ค. -1 มิ.ย. มีจำนวน 575,136 คน เฉลี่ย 82,162 คนต่อวัน เพิ่มขึ้น 24.11% จากสัปดาห์ก่อนหน้า แต่จากต้นปีถึงปัจจุบันมีจำนวน 14.45 ล้านคน ลดลง 2.77% จากปีก่อน โดยนักท่องเที่ยวที่เด่นขึ้นตามกลุ่มได้ประโยชน์วันหยุดยาว ช่วงเทศกาล และนักท่องเที่ยวจีนกลับมาอยู่ที่ 7.6 หมื่นคน อยู่ในกรอบบนตั้งแต่ช่วงแผ่นดินไหว
.
ทั้งนี้ บล.กรุงศรี มีมุมมองบวกกับรายงานข้างต้น จำนวนนักท่องเที่ยวฟื้นตัวสอดคล้องกับสถิติในอดีต (ผลของฤดูกาล) ที่จำนวนนักท่องเที่ยวจะปรับตัวลงทำจุดต่ำสุดของปีในเดือน พ.ค. จากนั้นจะทยอยฟื้นตัวต่อเนื่องจนถึงเดือน ส.ค. ก่อนจะปรับฐานอีกครั้งในเดือน ก.ย.
.
โดยหากอิงกับสถานการณ์ปัจจุบันที่ภาครัฐเร่งออกมาตรการโดยเฉพาะ "สวัสดีหนีห่าว" เพื่อสร้างความเข้าใจและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวจีนตั้งแต่วันที่ 29 พ.ค. ที่ผ่านมา คาดว่าจะดึงนักท่องเที่ยวจีนกับมาเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น จึงมีความเป็นไปได้สูงที่จะเห็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติค่อย ๆ ฟื้นตัว คล้ายกับสถิติในอดีต เป็นจิตวิทยาบวกกับหุ้นท่องเที่ยว (MINT, CENTEL, SHR, ERW) รวมถึงค้าปลีก อาทิ CPALL จากที่ผ่านมาปรับลงสะท้อนปัจจัยลบต่าง ๆ ไปแล้ว
.
เริ่มที่ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT บล.หยวนต้า แนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมาย 35.00 บาท โดยแนวโน้มงบไตรมาส 2-3 จะเด่นกว่ากลุ่มท่องเที่ยวในไทย เพราะแรงหนุนของ High Season โรงแรมยุโรปและกระทบเรื่องนักท่องเที่ยวจีนจำกัด อีกทั้งกลยุทธ์การลดหนี้สินมาต่อเนื่อง คาดช่วยทำให้อัตราการทำกำไรของบริษัทดีขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตลอดปี 2568 การปลดล็อกมูลค่าสินทรัพย์จากการจัดตั้งกอง REIT จะเป็น Upside ให้กับประมาณการในระยะถัดไป ทั้งนี้ คาดกำไรปกติไตรมาส 2/68 เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเติบโตจากไตรมาสก่อน ตามปัจจัยด้านฤดูกาล
.
ตามด้วย บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL บล.หยวนต้า แนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมาย 34.00 บาท ทั้งนี้ ยอดจองล่วงหน้าช่วงไตรมาส 2/68 ของกลุ่มโรงแรมในไทยยังเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่โรงแรมญี่ปุ่นเติบโตทั้งจากไตรมาสก่อน และจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ผลบวกจากช่วงฤดูกาลและการจัดงาน World expo (เม.ย.-ต.ค.68) ตลาดมัลดีฟส์อ่อนแอทั้งจากไตรมาสก่อน และจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
.
ดังนั้นแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/68 คาดกำไรปกติลดลงจากไตรมาสก่อน แต่เทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน คาดกำไรปกติเติบโตหนุนจากการดำเนินงานของโรงแรมในญี่ปุ่น รวมถึงในปีก่อนมีปิดรีโนเวทโรงแรมที่พัทยาและภูเก็ต
.
ส่วน บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR บล.กรุงศรี แนะนำ "ซื้อ" ด้วยราคาเป้าหมาย 2.00 บาท ทั้งนี้ ไตรมาส 2/68 โรงแรมในไทย (โดยเฉพาะภูเก็ตและสมุย) ยังคงรักษาโมเมนตัมเชิงบวก ด้วยการเติบโตสองหลัก ขณะที่มัลดีฟส์ได้ประโยชน์จากอัตราการเข้าพักที่สูงขึ้น
.
ดังนั้น คาดผลประกอบการไตรมาส 2/68 จะปรับตัวดีขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยขาดทุนน้อยลง (เทียบกับขาดทุน 72 ล้านบาท ในไตรมาส 2/67) แต่ลดลงจากไตรมาสก่อน ตามฤดูกาล ขณะที่คาดผลประกอบการไตรมาส 3/68 จะพลิกเป็นกำไร (เทียบกับขาดทุน 20 ล้านบาท ในไตรมาส 3/67) เมื่อโรงแรมที่ปรับปรุงกลับมาดำเนินการและอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงเริ่มส่งผล
.
สำหรับ บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW บล.หยวนต้า แนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมาย 3.20 บาท ทั้งนี้ กำไรปกติไตรมาส 1/68 คิดเป็น40% ของประมาณการปี 2568 ที่ 860 ลบ. (-8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน) อย่างไรก็ดี ในไตรมาส 2-3/68 จะเข้าสู่ช่วง Low Season ของการท่องเที่ยวในไทยและฟิลิปปินส์ ทำให้ยังคงประมาณการ
.
ส่วนแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/68 คาดกำไรลดลงจากไตรมาสก่อน ตามปัจจัยฤดูกาลและลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน สอดคล้องกับภาพอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ส่วนกำไรสุทธิคาดลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีรายการพิเศษกำไรจากการปิดกอง ERWPF ในไตรมาส 2/67
.
ปิดท้ายที่ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL ที่แม้ไม่ใช่หุ้นในกลุ่มท่องเที่ยวโดยตรง แต่คาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากปัจจัยดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ บล.หยวนต้า แนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมาย 65.00 บาท สำหรับแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/68 คาดทรงตัวจากไตรมาสก่อน แต่เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้วยแรงหนุนจาก
.
1) คาดการณ์ ไตรมาส 2/68 SSSG ที่ยังเติบโตในระดับ 1-2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2) การขยายสาขาเฉลี่ย 700 แห่งต่อปี หรือ 150-200 ต่อไตรมาส 3) การมีวันหยุดยาวจำนวนมากในช่วงไตรมาส 2 หนุนยอดขายกลุ่มสินค้าพร้อมทานและการท่องเที่ยว
ที่มา.. Wealthy Thai