ห้องเม่าปีกเหล็ก

ใครจะไปรู้ว่า “หมู” ช่วยให้ CPF ยังยืนอยู่ได้ในวันที่โลกวิกฤติ

โดย sine2528
เผยแพร่ :
62 views

ก่อนหน้านี้ พอจะได้ยินข่าวมาแล้วว่าเครือ CP ของเจ้าสัวธนินทร์เข้าเทคโอเวอร์กิจการโลตัส ที่ประเทศมาเลเซีย ก่อนที่จะมีข่าวด้านความสัมพันธ์ กับการบินไทยแว่วมานิด ๆ ในช่วงที่ผ่านมา

แต่รู้ไหม ว่าหนึ่งเครือ ในอาณาจักรของเจ้าสัวธนินท์ ตอนนี้ ยังคงยืนอยู่ได้ และมีความโดดเด่นเป็นสุดในกลุ่ม อาณาจักรซีพี มีธุรกิจในเครือมากกว่า 30 บริษัท ทั้งกิจการเกี่ยวกับการเกษตร กิจการค้าปลีก ธุรกิจสื่อสารและคมนาคม ธุรกิจอีคอมเมิร์ซและดิจิทัล ซึ่งธุรกิจด้านการเกษตรถือเป็นธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในเครือ นักลงทุนส่วนใหญ่จะรู้จักกันดีในชื่อ CPF

 

https://images.unsplash.com/photo-1542838132-92c53300491e?ixlib=rb-1.2.1&ixid=eyJhcHBfaWQiOjEyMDd9&auto=format&fit=crop&w=1867&q=80

 

เมื่อย้อนเวลากลับไป 99 ปีก่อน บิดาของเจ้าสัวธนินท์ "เจี่ย เอ็กชอ" เถ้าแก่ชาวแต้จิ๋ว หอบสาดเสื่อหมอนใบ มาตั้งถิ่นฐานในไทยตั้งแต่ปี 2464 ได้เริ่มทำการค้าขายสินค้าด้านการเกษตร ก่อนที่จะขยับขยาย ก่อตั้งกิจการใหญ่ขึ้น ภายใต้ชื่อ “เจริญโภคภัณฑ์” ในปี 2496

ฉะนั้น.. จึงไม่แปลกที่ธุรกิจด้านการเกษตร หรือ CPF จะเป็นธุรกิจหลักของอาณาจักร และกลายเป็นอาณาจักรธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในประเทศมาจวบจนกระทั่งปัจจุบัน สำหรับเจ้าสัวธนินท์ เริ่มเข้ามามีบทบาทในธุรกิจของตระกูลโดยการเข้ามาบริหารธุรกิจอาหารสัตว์ ในปี 2505 ก่อนที่จะนั่งตำแหน่ง ผู้จัดการใหญ่ของ CP ในปี 2512 อย่างไรก็ตาม ในปี 2562 ที่ผ่านมาเจ้าสัวธนินท์ ได้สละเก้าอี้หัวเรือใหญ่ ทั้ง CPF และ CPALL แต่ถึงยังไง ก็ยังคงเป็นมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของประเทศไทย อยู่ดี..

 

https://images.unsplash.com/photo-1560781290-7dc94c0f8f4f?ixlib=rb-1.2.1&ixid=eyJhcHBfaWQiOjEyMDd9&auto=format&fit=crop&w=1350&q=80

 

วันนี้ พิษโควิด 19 กำลังทำลายสารระบบ ทางด้านเศรษฐกิจทั่วทั้งโลกไปแทบทั้งหมด ขณะเดียวกัน ท่าทีสถานการณ์โรคระบาดในบ้านเรา ก็เริ่มมีท่าทีดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถ้ายังเป็นแบบนี้ ทุกกิจการอาจจะกลับ เข้ามาอยู่ในสภาพปกติ ในเร็ววัน..

 

แต่รู้หรือไม่ ว่าในช่วงที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ การค้าขาย “หมู” ของเจริญโภคภัณฑ์ ช่วยให้กิจการยังคงยืนอยู่ได้ ซึ่งซีพีทำการค้าหมูในหลายประเทศ เช่น จีน ไทย และเวียดนาม สถานการณ์โรคระบาดช่วยให้หมู เป็นสินค้าในความต้องการสูงของตลาด ราคาหมูจึงสูงขึ้น กลายเป็นตัวแปรสำคัญของธุรกิจ

ข้อมูลไตรมาสแรกที่ผ่านมา ราคาหมูที่เวียดนามขึ้นราคา เป็นนิวไฮถึง 9 หมื่นดองต่อกิโลกรัม ก่อนที่นโยบายจากรัฐบาล จะขอความร่วมมือ ให้ลดลงมาอยู่ที่ 7.6 หมื่นดองต่อกิโลกรัม ขณะเดียวกัน โควิดที่ระบาดในจีน ก็ทำให้ความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างสูงเช่นเดียวกัน

 

ผลประกอบการไตรมาสที่ 1

CPF ทำรายได้นิวไฮที่ 1.53 แสนล้านบาท

ทำกำไรขั้นต้นที่นิวไฮไป 24,442 ล้านบาท

 

https://images.unsplash.com/photo-1537033206914-9d3551ff8103?ixlib=rb-1.2.1&ixid=eyJhcHBfaWQiOjEyMDd9&auto=format&fit=crop&w=1650&q=80

 

ถึงอย่างนั้น ในไตรมาสที่ 2 นี้ ราคาหมูดูมีท่าทีจะอ่อนตัวลง แต่จากเหตุผลหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น..การคลี่คลายของสถานการณ์โรคระบาด ถ้าหากเป็นเช่นนั้น ความต้องการ ในสินค้าจะมีมากขึ้นกว่าเดิม ในทางตรงกันข้าม ถ้าหากโรคระบาดยังยืดเยื้อ ราคาหมูจะลดลงจากเดิม เนื่องจากผลกระทบทางฝั่งของกำลังซื้อ อีกหนึ่งปัจจัย คือการกักตุนอาหาร ของผู้คนจะช่วยชดเชยรายได้ที่หายไปจากกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการร้านค้าหรือ Food Service

นอกจากนั้นแล้ว ราคาหมูในเวียดนาม ที่ยังคงอยู่ในระดับสูงอยู่ ซึ่งคาดว่า น่าจะสูงเช่นนี้ตลอดทั้งปี ประกอบกับการลงทุนตัวแปรอื่นในจีน ที่อาจมีโรงงานด้านกิจการไก่เพิ่มมาอีก 7 แห่ง แถมยังมีการรับรองการส่งออกเพิ่มขึ้นเป็น 22 แห่ง จึงทำให้ปริมาณการส่งออกไก่จากในไทย อาจจะมีท่าทีเพิ่มขึ้นภายในไตรมาสที่สอง

ดังนั้น ผลประกอบการของ CPF อาจจะแตะนิวไฮอีกครั้งในไตรมาสสาม เมื่อมองในภาพรวม การกักตุนอาหาร ในช่วง Stay From Home ที่เพิ่มมากขึ้น ช่วยให้กิจการของ CPF ที่ค้าขายในสินค้านั้นอยู่แล้ว หนึ่งในเครือ..ของอาณาจักรนี้..จึงยังยืนหยัดอยู่ได้แม้ในวันที่วิกฤติกระทบต่อทุกส่วน..ของโลก
 

.............................................................

ขอบคุณข้อมูลจาก Trueid

ลิขสิทธิ์โดย Swivel 

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ Swivel

*บทความนี้ได้รับลิขสิทธิ์ถูกต้องจาก Swivel On Blockdit จริง


sine2528