ห้องเม่าปีกเหล็ก

TTB : ขุมทรัพย์หลังบ้าน

โดย BeArt
เผยแพร่ :
282 views

TTB : ขุมทรัพย์หลังบ้าน

กำไรไตรมาส 4/2566 ดีกว่าคาดเล็กน้อย TTB รายงานกำไรไตรมาส 4/2566 ที่ 4.87 พันลบ. เพิ่มขึ้น 3% QoQ และ 26% YoY สูงกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ 6% และสูงกว่าของตลาด 10% กำไรที่ดีกว่าคาดมาจากรายได้ภาษีจำนวน 4.1 พันลบ. ในไตรมาส 4/2566 โดยกำไรที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเชิง QoQ มาจากอัตราส่วนต่างดอกเบี้ย (NIM) และสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ปรับดีขึ้น เทียบกับค่าใช้จ่ายภาษีจำนวน 1.13 พันลบ. ในไตรมาส 3/2566 กำไรที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งเชิง YoY มาจาก NIM ที่กว้างขึ้นและอัตราส่วนต้นทุน/รายได้ที่ลดลง

 

คุณภาพสินทรัพย์ที่ควบคุมได้ TTB รายงานอัตราส่วนหนี้เสีย (NPL) ไตรมาส 4/2566 ที่ 3.1% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 3.0% ในไตรมาส 3/2566 และสูงกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ 10bps หากอิงจากประมาณการของเรา การก่อ NPL ใหม่ในไตรมาส 4/2566 ทรงตัว QoQ ที่ 1.3% นอกจากนี้ TTB ยังตั้งสำรองเพิ่มเติมจำนวน 4.9 พันลบ. และค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญ (credit cost) เพิ่มขึ้นเป็น 277bps ในไตรมาส 4/2566 จาก 128bps ในไตรมาส 3/2566 เพื่อเพิ่มเงินสำรองหนี้สูญต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (loan loss coverage ratio) เป็น 155% ในไตรมาส 4/2566 จาก 144% ในไตรมาส 3/2566 หากไม่รวมการตั้งสำรองเพิ่มเติม credit cost ไตรมาส 4/2566 จะอยู่ที่ 131bps ซึ่งต่ำกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ 11bps เรามองว่าแผนของธนาคารที่จะลดสินเชื่อธุรกิจ SME และกลุ่มสินเชื่อรายย่อยที่มีผลตอบแทนเทียบความเสี่ยงที่ต่ำอย่างต่อเนื่องจะช่วยเพิ่มคุณภาพพอร์ตสินเชื่อของบริษัทฯ ในปี 2567

 

ขุมทรัพย์หลังบ้าน TTB แจ้งว่าบริษัทฯ ยังมีสิทธิประโยชน์ทางภาษีคงเหลือ 1.55 หมื่นลบ. (~0.16 บาท/หุ้น) ซึ่งสามารถทยอยรับรู้ได้ภายในปี 2571 ขึ้นอยู่กับประมาณการกำไรสุทธิในอนาคต สิทธิประโยชน์ทางภาษีเกิดขึ้นเนื่องจากในเดือน พ.ย.2566 TBCO (เดิมคือ ธนาคารธนชาต) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ TTB ได้จดทะเบียนการชำระบัญชีเสร็จสิ้นกับกระทรวงพาณิชย์ และ TTB มีผลขาดทุนทางภาษีจากการลงทุนใน TBCO ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้เมื่อกระบวนการชำระบัญชีเสร็จสิ้น เราจึงประมาณการณ์ว่า TTB จะทยอยใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีในปี 2567-69 และทำให้ไม่มีการบันทึกค่าใช้จ่ายภาษีในปี 2567-69 ส่งผลให้เราปรับประมาณการกำไรปี 2567-68 ขึ้น 10% และ 9% เป็น 2.22 หมื่นลบ. และ 2.41 หมื่นลบ. ตามลำดับ เราคาดว่ากำไรจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2567 ที่ 20% และ ROE สูงขึ้นเป็น 9.5% จาก 8.2% ในปี 2566

 

เป้าธุรกิจปี 2567 ดูเหมือนจะเป็นไปในเชิงอนุรักษ์นิยม เรามองว่าเป้าหมายทางการเงินปี 2567 ของ TTB ดูจะเป็นไปในเชิงอนุรักษ์นิยม โดยธนาคารคาดว่า 1) จะไม่มีการเติบโตของสินเชื่อในปี 2567 แต่จะเพิ่มสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนสูงต่อไป เช่น สินเชื่อรถแลกเงิน สินเชื่อบ้านแลกเงิน และบัตรเครดิต ขณะที่สินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนต่ำเช่น สินเชื่อเชิงพาณิชย์อาจลดลง 2) NIM จะทรงตัวหรือลดลงเล็กน้อย YoY มาอยู่ในช่วง 3.1-3.25% จากความเสี่ยงของการแข่งขันด้านเงินฝาก 3) การเติบโตของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย (non-NII) จะอยู่ในระดับตัวเลขหลักเดียวด้านต่ำ 4) อัตราส่วนต้นทุน/รายได้ จะอยู่ในระดับ 40 กลางๆ 5) หนี้เสีย (NPL) จะอยู่ที่ไม่เกิน 2.9% เทียบกับ 2.6% ในปี 2566 และ 6) ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญ (credit cost) จะอยู่ที่ 125-135bps เทียบกับระดับปกติของ credit cost ที่ 128bps ในปี 2566 หากไม่รวมสิทธิประโยชน์ทางภาษีในปี 2567 เราคาดว่ากำไรปกติปี 2567 อาจจะทรงตัว YoY

 

แนะนำ “ซื้อ” และ TP ที่ 2.00 บาท เพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 2.0 บาท จาก 1.89 บาท ตามการปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2567-68 เรามองว่า TTB จะให้อัตราตอบแทนจากเงินปันผลที่น่าสนใจที่ 7.4% ในปี 2567

 

 

 


BeArt