Stock Life Cycle วงจรชีวิตหุ้น

Stock Life Cycle  วงจรชีวิตหุ้น

            หุ้นทุกตัวจะมีวงจรของตัวเอง หากเปรียบเทียบแล้วก็คล้ายการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ของ มนุษย์ดีๆนี่เอง โดย หุ้นก็มี 4 ช่วงเวลาชีวิต และแต่ละรอบอาจใช้เวลาแตกต่างกัน เช่น 1 รอบใหญ่ ใช้เวลา 5 ปี แต่ภายใน 5 ปีนี้ จะมีการแกว่งตัวเป็น รอบๆ ค่อยๆขึ้น บางรอบ 1 เดือน บางรอบ 3 เดือนไม่แน่นอน โดยใน1 รอบ มักมี แพลตเทิร์น 4 ช่วง คล้ายกัน

ช่วงที่ 1 สะสมหุ้น (accumulation)

               เรียกว่าเป็นช่วงที่นักลงทุนเริ่มสะสมหุ้น เริ่งซื้อหุ้นเข้าพอร์ต แต่มีนักลงทุนบางกลุ่มยังไม่แน่ใจว่าราคาหุ้นจะขึ้นต่อไปได้ และจะขึ้นเมื่อไร ก็จะทนไม่ได้และขายทิ้งไป และไปซื้อหุ้นที่เริ่มวิ่งขึ้นแล้ว หรือบางทีก็พลาดไปซื้อหุ้นที่วิ่งไปจนเริ่มนิ่ง ส่งตัว และเริ่มเข้าสู่ขาลง ในช่วงนี้ราคาหุ้นจะปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย สร้างเป็นแนวต้านและแนวรับ เมื่อมีราคาหุ้นมากขึ้น ราคาจะสามารถเบรกผ่านขึ้นหรือลงไปได้ หรือ เลือกทิศทางได้นั่นเอง

ช่วงที่ 2  วิ่งขึ้น (rally)

               ช่วงนี้เป็นช่วงที่ราคาหุ้น ทะยานขึ้นต่อเนื่อง เป็นช่วงที่นักลงทุนต่างมองเห็นทิศทางของหุ้นตัวนี้ทุกคน มีปริมาณซื้อขายเพิ่มขึ้นจน แรงซื้อสามารถเอาชนะ แรงขายได้ แม้บางครั้งหุ้นจะมีการปรับตัวลงบ้าง แต่จะมีแรงสนับสนุนจากนักลงทุนรายย่อย ทำให้ราคาปรับลดลงไม่มาก และสามารถทำจุดสูงสุดของราคาใหม่ได้ แต่อาจจะไม่สามารถยืนราคาได้ หลังจากที่ราคาได้ขึ้นมาเรื่อยๆแล้ว นักลงทุนบางกลุ่มเริ่มขึ้นมาซื้อหุ้นในช่วงท้าย เพราะมีความรู้สึกว่า ราคาหุ้นน่าจะวิ่งขึ้นต่อได้ เพราะมองว่าราคาหุ้นยังมีแรงซื้อขายมากว่าแรงขาย

ช่วงที่ 3 แจกของ (distribution)

              พอผ่านระยะ rally แล้ว นักลงทุนจะเริ่มเกิดความลังเล เพราะไม่แน่ใจว่าราคาหุ้นจะขึ้นต่อไปได้หรือไม่ จึงขายหุ้นออกมา แต่จะมีกลุ่มนักลงทุนที่ยังไม่ได้เข้ามาซื้อ ทำให้เกิดการแกว่งตัวของราคา ในปริมาณการซื้อขายที่สูงกว่าการแกว่งตัวในระยะ accumulationและเกิดเป็นระยะแนวรับแนวต้าน หากหุ้นสามารถ เบรค แนวต้านราคาขึ้นไปได้ ก็จะสามารถกลับสู่ ช่วง rallyได้อีก แต่โดยส่วนมาก หากราคาหุ้นวิ่งขึ้นมามาก จะมีปริมาณซื้อขายต่อวันมาก จะไม่สามรถวิ่งไปได้ต่อ เพราะจะมีแมงเม่าคอยดักขายตลอดเวลา เมื่อหลุดแนวรับเมื่อไร จึงจะถือว่าจบ ระยะ distribution

ช่วงที่ 4 ปรับฐาน (decline)

               หลังจากที่หุ้นหลุดแนวรับลงมา จะเกิดแรงขายตามมา เพราะนักลงทุนจะเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ กับหุ้นในระยะ distributionและมักจะเป็นนักลงทุนระยะสั้น ที่พร้อมจะ cut loss ตลอดเวลา ราคาหุ้นจึงปรับตัวลง และหากหุ้นขึ้นมามาก ก็จะปรับฐานลงมาก เช่นกัน

               เมื่อหุ้นผ่านมาครบทั้ง 4 ระยะ ก็จะเริ่มนิ่ง และทิ้งไปซักระยะหนึ่งก็จะกลับสู่ช่วง accumulation อีกครั้ง แต่ว่าระยะเวลาแต่ละช่วงของหุ้นแต่ละตัวจะไม่เท่ากัน บางตัวใช้เวลาเพียง 2-3 วัน บางตัวเป็นเดือน หรือบางตัวอาจทิ้งห่างเป็นปี

- Yoo - 

อ้างอิง : หนังสือคัมภีร์หุ้น 2