นักเรียนทุกคนคงคุ้นเคยกับฤดูกาล อย่างอยู่ภาคกลาง ก็จะรู้ว่า ปีหนึ่งมี 3 ฤดู ตอนนี้เป็นปลายฤดูหนาว และอีกไม่กี่อึดใจ ฤดูร้อนก็จะมาเยือน พอผ่านเดือนพฤษภาคม นักเรียนก็จะต้องเตรียมตัวรับกับสายฝนที่จะตกลงมาจนถึงเดือนตุลาคม
หลังจากนั้นลมหนาวก็จะมาเยือนอีกรอบหนึ่ง
ฤดูกาลแต่ละฤดูจะมีเอกลักษณ์พิเศษของมัน พาให้เกิดกิจกรรมพิเศษที่ทำให้ฤดูกาลกลายเป็นความทรงจำของนักเรียน ฤดูกาลจึงมาพร้อมกับเสน่ห์ที่เป็นทั้งสุขและทุกข์ เป็นทั้งให้กำลังใจ และสลดสังเวชกับความทรงจำที่เลวร้ายที่เคยเกิดขึ้นกับชีวิตเมื่อในอดีต
คนที่ผ่านโลกมามาก ก็จะมีเรื่องที่อยู่ในความทรงจำเยอะ อาจเป็นเพราะชีวิตเป็นเรื่องของการนับซ้ำๆ กับอดีต ทำให้เกิดการรู้ขึ้นมาเองว่านับจากนี้ อะไรจะเกิดขึ้นในอนาคตบ้าง
อย่างคนเล่นหุ้นที่เล่นมาตลอดระยะเวลาหลายปี แต่ก็ไม่รวยซะที มาวันนี้ทุกคนก็จะรู้ว่า หากตัวเองถือหุ้นเอาไว้ได้นานพอ ก็จะไม่ใช่แค่เป็นคนรวย แต่เป็นถึงเศรษฐี
การรู้ว่าต้องถือหุ้นที่ดีๆ นานๆ พาให้กลายเป็นเศรษฐีเป็นบทเรียนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต เพราะนักเรียนไม่ประสบความสำเร็จกับมัน นักเรียนจึงรู้ ทำให้วันนี้นักเรียนมีเรื่องนี้ระลึกเอาไว้ในใจ
ลงทุน 1 ล้านบาท 2-3 ปีกลายเป็น 10 ล้านบาทได้ ลงทุน 10 ล้านบาท 2-3 ปีกลายเป็น 100 ล้านบาทได้ ลงทุน 100 ล้านบาท 2-3 ปีกลายเป็น 1,000 ล้านบาทได้ เพราะนักเรียนเจอหุ้นที่ขึ้น 10 เด้ง ที่มีให้เห็นอยู่บ่อยๆ อย่าง GENCO 1 บาท เมื่อ 3 เดือนก่อน มาวันนี้ 6 บาทกว่า บวก 600% อย่าง RAM ไม่กี่สิบบาท เมื่อ 10 ปีที่แล้ว มาวันนี้ 2,000 บาท อย่าง BIG C หลักหลายสิบบาท มาวันนี้ 200 กว่าบาท
เรื่องที่ระลึกเอาไว้ในใจ หากนักเรียนสังเกตจิตใจตัวเองดีๆ นักเรียนจะรู้ว่า มันเกี่ยวข้องกับความเข้าใจที่อยู่ๆ เวลาก็ทำให้นักเรียนมีความเข้าใจมากขึ้น จะว่าต้องมีคนมาสอนก็ไม่ใช่ มันเป็นของมันเอง แบบไม่ต้องมีคนมาคอยสอน นี่เองที่คนชอบพูดว่า เวลาจะเป็นครูสอนทุกสิ่งทุกอย่างแก่เรา
มาวันนี้อีกเหมือนกัน ถ้านักเรียนติดตามคอลัมน์ชั่วโมงเรียนหุ้นที่ผมเขียนสอนนักเรียนมาโดยตลอด นักเรียนจะระลึกรู้สิ่งหนึ่งที่สำคัญมากๆ คือ ราคาหุ้นไม่ใช่ว่าขึ้นแบบไม่มีเหตุ หุ้นทุกตัวทั้งขึ้นและตกต้องมีเหตุทั้งนั้น และเหตุที่ว่าเกี่ยวข้องกับเจ้ามือโดยตรง
เจ้ามือที่จะซื้อถูกและขายแพง หรือเจ้ามือที่จะเอาหุ้นที่ตัวเองถืออยู่เยอะๆ ขายทิ้งออกมาทุกระดับราคา สาเหตุเป็นเพราะเจ้ามือชิงเผ่นหนีออกจากบริษัทก่อนใครเขาเพื่อน สาเหตุเพราะเจ้ามือรู้ว่า บริษัทกำลังจะดิ่งเหว ผลประกอบการจะออกมาเละ ฉะนั้นก่อนที่หุ้นจะตกอย่างหนัก กูขายก่อนใครจะเป็นการดีที่สุด
ยกตัวอย่าง เหตุการณ์แปลกๆ ที่ผมถึงขนาดร้องอุทานในใจว่า มึงแน่มาก มึงกล้ามาก เช่น ผู้ถือหุ้นใหญ่ถือหุ้นกว่า 90% มีรายย่อยถือซัก 10% จู่ๆ ราคาหุ้นก็ขึ้นพรวดพราดแบบไม่มีเหตุอันควร
ราคาที่ขึ้นพรวดพราดขึ้นไม่เยอะหรอกนักเรียน เอาซัก 300 – 400% ก็แล้วกัน สาเหตุที่ขึ้นเป็นเพราะใครก็ไม่รู้ไล่ซื้อหุ้นจากรายย่อย 10% ในตลาดแบบไล่ซื้อทุกระดับราคา เป็นการไล่ซื้อที่หุ้นนั้นแม้จะโคตรแพง หรือหากแม้นคนสติดีๆ ก็จะไม่มีทางซื้อหุ้นตัวนี้แน่ แต่ใครก็ไม่รู้คนนี้ซื้อทุกระดับราคาแบบเป็นการซื้อเก็บแล้วไม่ขายออกมาด้วย
สุดท้ายเมื่อราคาสูงลิบลิ่ว ผู้ถือหุ้นใหญ่ 90% ก็ขายหุ้นทิ้งออกมาในตลาด ในราคาที่ทำให้กำไรเละ โดยที่ตลาดได้แต่มองตาปริบๆ ไม่สามารถจับคนปั่นหุ้นได้ สาเหตุเป็นเพราะไอ้บ้าที่ไล่ซื้อหุ้นจากรายย่อย ซื้อแล้วซื้อเลย ไม่ได้ขายทิ้งออกมา มันจึงไม่ได้มีการปั่นหุ้นแต่อย่างใด เป็นเรื่องของโชควาสนาของผู้ถือหุ้นใหญ่ที่จู่ๆ ก็มีแมงเม่าอยากได้หุ้นกันเป็นจำนวนมาก ผู้ถือหุ้นใหญ่ก็เลยถูกหวยรางวัลที่ 1 นักเรียนว่าแปลกมั๊ยล่ะ
อีกตัวอย่างหนึ่ง อินไซด์ที่ว่าไม่มี ไม่มี และก็ไม่มี แต่พอราคาถูกลากขึ้นไปหลายร้อยเปอร์เซ็นต์ เกิดมีงานกันทุกตัว ที่เห็นบ่อยก็เรื่องของการเพิ่มทุน PP (เพิ่มทุนให้กับนักลงทุนเฉพาะเจาะจง) ทำให้คนที่เข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุน PP ได้หุ้นเพิ่มทุนฟรี แถมยังได้เงินเข้ากระเป๋าตัวเองอีกต่างหาก
นักเรียนหลายคนอาจจะเห็นตัวอย่างไม่ชัด ขอยกตัวอย่างก็แล้วกัน อย่างเพิ่มทุน PP หุ้นละ 1 บาท ขายนาย A จะกี่ร้อยล้านหุ้นก็ตาม แต่ก่อนการจ่ายเงินค่าหุ้นเพิ่มทุน ราคาหุ้นบนกระดาษวิ่งขึ้นมาอยู่ที่ 5 บาท หากนาย A มีคนใช้และคนใช้นาย A ไปซื้อหุ้นตัวนี้ก่อนราคาจะขึ้น แล้วไปขายตอนที่ราคาขึ้น ได้กำไรซัก 400% คำถามคือ คนใช้จะเอาเงินไปให้ใคร
คำตอบก็ชัดว่านาย A จะได้เงินก้อนโตเอามาซื้อหุ้นเพิ่มทุน ทำให้หุ้นเพิ่มทุนได้มาฟรี นาย A คนนี้จึงต้องมีอิทธิพลและเป็นคนไม่ธรรมดาเอามากๆ เพราะทำให้ กลต. ไม่รู้ว่าใครเข้ามาเล่นหุ้นตัวนี้ และทำการไล่ราคาหุ้นตัวนี้
เมื่อ กลต. ไม่รู้ จึงเหมารวมว่า หุ้นเกิดการเก็งกำไรกันไปเอง และการที่ราคาหุ้นขึ้นเยอะๆ (สูงเว่อร์) เกินกว่าราคาขายหุ้นเพิ่มทุน PP เป็นเพราะความบังเอิญ เหมือนเก็งเลขซื้อหวย แล้วดันออกมาตรงๆ จึงไม่มีอะไรในกอไผ่ ถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ (แต่โคตรเกิดขึ้นได้ยาก)
เหตุการณ์ไม่มีอะไรในกอไผ่เกิดขึ้นแบบซ้ำซาก จนกลายเป็นโมเดลที่พาให้เกิดการเลียนแบบต่อๆ กัน ทำให้วันนี้นักเรียนเห็นหุ้นตัวใดที่มีการซื้อขายและราคาที่ผิดปกติ นักเรียนจะต้องนึกถึงเหตุทันที
เหตุที่มีเจ้ามือ หรือไอ้โม่งบงการอยู่
อาการนึกถึงเหตุทันที เกิดขึ้นเองโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะเรียกว่า เป็นสัญชาติญาณก็ว่าได้ ทำให้นักเรียนเกิดความรู้สึก และความรู้สึกที่เกิดขึ้นนี้ต้องเรียกได้ว่า มีอาการของการตกผลึก มันเป็นความรู้สึกที่คนข้างในพูดเดิมพันแบบไม่มีเสียง แต่เราได้ยินว่า มึงเชื่อกูเถอะ ล้านเอาบาทเดียว ทำให้เราเชื่อแบบ 1,000,000% ว่าต่อจากนี้จะต้องมีเรื่องเกิดขึ้นแน่ (ตอนต่อไปจะสอนวิธีการ)
เขียนมาถึงเรื่องการมีเรื่อง ก็พลันนึกไปถึงว่า อะไรเหรอที่จะเกิดเป็นเรื่อง หากเป็นเรื่องในชีวิต เช่น ชายหนุ่มชวนหญิงสาวไปกินข้าวมื้อค่ำ แล้วทั้งคู่มีน้ำล้างคอเป็นไวน์ เบียร์ แล้วบังเอิญทั้งคู่ก็ถูกคอกันดี ต่างคนต่างอกหักกันมาทั้งคู่ ถามนักเรียนว่า เรื่องที่จะเกิดขึ้นตอนเที่ยงคืนหรือหลังเที่ยงคืน จะเป็นเรื่องอะไรต่อไป แบบให้แทงพนันล้านเอาบาทเดียว นักเรียนตอบได้มั๊ยล่ะ (อ่านต่อ เดี๋ยวมีเฉลย)
เรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคตคืออะไร ความรู้สึกจะบอก ซึ่งนักเรียนหลายคนอาจจะงงว่า ตะกี้เป็นตัวอย่างเรื่องของชายหนุ่มกับหญิงสาว แต่กับเรื่องหุ้นและการปั่นหุ้น มันจะเกี่ยวข้องกันอย่างไร
คำตอบของผมขอตอบว่า เกี่ยวข้องแน่ๆ สาเหตุเป็นเพราะเรื่องหุ้นและการปั่นหุ้น หรือหากไม่เรียกว่าการปั่นหุ้น เพราะจะทำให้วงการหุ้นแปดเปื้อนด้วยความเลว จึงเรียกใหม่ว่า การเก็งกำไร เป็นเรื่องของความโลภของมนุษย์ เรียกให้เป็นภาษาชาวบ้านว่า เป็นเรื่องของความอยาก นักเรียนเคยอยากมั๊ยล่ะ
อยากที่จะเป็นคนรวย และอยากนู้น อยากนี่ที่ทั้งควรพูดและไม่ควรพูด
ความอยากหรือความโลภ จึงเป็นต้นกำเนิดของพฤติกรรมมนุษย์ที่พาให้คนต้องสร้างกิจกรรมขึ้นมา โดยก่อนจะแสดงพฤติกรรมออกมา ต้องเกิดกิจกรรมก่อน และในกิจกรรมจะต้องมีสัญญาณ
การกินข้าวมื้อค่ำที่มีไวน์ เบียร์ ถือเป็นกิจกรรม เหตุการณ์หลังเที่ยงคืน (อนาคต) คือพฤติกรรมที่จะแสดงออก โดยจะแสดงออกมาแบบใด ต้องอ่านและจับสัญญาณให้ได้
มาถึงตรงนี้ คำตอบที่วงเล็บไว้ว่าจะเฉลย ก็เป็นได้ 3 ทาง
ทางแรก สัญญาณที่นักเรียนจับได้และรู้สึก ชายหนุ่มกับหญิงสาวสองคนนี้เป็นพี่น้องกัน หลังเที่ยงคืน ทั้ง 2 คน แยกย้ายกันกลับบ้าน แล้วหลับเป็นตาย
ทางสอง สัญญาณที่นักเรียนจับได้และรู้สึก ชายหนุ่มกับหญิงสาวสองคนนี้เป็นเพื่อนกัน หลังเที่ยงคืน คำตอบเหมือนทางแรก
ทางสาม สัญญาณที่นักเรียนจับได้และรู้สึก ชายหนุ่มกับหญิงสาว สองคนนี้ใช้กิจกรรมกินข้าวเป็นฉากหน้า หลังเที่ยงคืน คำตอบเป็นที่รู้กัน
จากตัวอย่างแค่เรื่องการกินข้าวมื้อค่ำ ถ้านักเรียนพิจารณาดีๆ นักเรียนจะเห็นว่า ตัวนักเรียนเป็นคนเห็นกิจกรรม และคนเห็นกิจกรรมก็คือคนจับสัญญาณและรู้สึกได้กับสัญญาณที่จับได้ ดังนั้น เมื่อนักเรียนเห็นอะไรก็แล้วแต่ การเห็นนั้นต้องตามต่อมาด้วยสัญญาณ และจบลงที่ความรู้สึก หลังจากนั้นคำตอบต่ออนาคต (จินตนาการ) ก็จะเกิดขึ้น (ตัวอย่างของคำตอบ : ไม่ใช่ทาง 1 ไม่ใช่ทาง 2 แต่เป็นทาง 3 ชัวร์)
ครั้งหน้า เราจะมาต่อกัน กับกรณีการเก็บหุ้นของเจ้ามือ ว่าเจ้ามือจะสร้างกิจกรรมอะไรขึ้นมาบ้าง เพื่อเราจะซื้อหุ้นตามเจ้ามือให้ได้ ซึ่งมันก็เหมือนกับการมองชายหนุ่มและหญิงสาวกินข้าวกันนั่นแหละ มองจนเห็นสัญญาณก่อเกิดเป็นความรู้สึก แล้วเกิดมีคำตอบขึ้นมาเอง แบบกูตอบถูกชัวร์ ไม่เชื่อก็พนันกัน ล้านเอาบาทเดียว ว่าเจ้ามือกำลังเก็บหุ้น