ห้องเม่าปีกเหล็ก

'บาทแข็ง' โอกาสหรือวิกฤติ?

โดย OVERMoney
เผยแพร่ :
24 views

'บาทแข็ง' โอกาสหรือวิกฤติ? ธุรกิจไทยลุ้นตัวโก่ง ไตรมาส 4 ชี้ชะตาเศรษฐกิจไทย

By กัญณัฏฐ์ บุตรดี

 

  • เงินบาทแข็งค่า (ต่ำกว่า 32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ) ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยทั้งบวกและลบ แต่ถ้าควบคุมไม่ดีอาจเป็นปัญหา โดยเฉพาะในไตรมาส 4 ซึ่งเป็นช่วงสำคัญของภาคการส่งออกและท่องเที่ยว
  • ผลกระทบ SME ที่นำเข้ามากกว่าส่งออกได้ประโยชน์จากต้นทุนที่ถูกลง แต่ผู้ส่งออกได้รับผลกระทบด้านรายได้ ส่วนโอกาสเงินบาทแข็งคือการนำเข้าเครื่องจักรและเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
  • ธปท. และกระทรวงการคลังต้องมีกลยุทธ์ในการควบคุมความผันผวนของค่าเงิน เป้าหมายคือต้องการให้เศรษฐกิจไทย “แข็ง(แรง)” มากกว่าค่าเงินบาท

 

เสียงสะท้อนจากภาคธุรกิจดังขึ้นเรื่อยๆ เมื่อค่าเงินบาทเดินหน้าแข็งค่าจนต่ำกว่าระดับ 32 บาทต่อดอลลาร์ แม้สถานการณ์นี้จะเป็นเหมือนเหรียญสองด้านที่มีทั้งข้อดีและข้อเสีย

นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานยุทธศาสตร์ สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย กล่าวกับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า ค่าเงินบาทนั้น หากการควบคุมดูแลไม่เหมาะสม อาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะในไตรมาส 4/2568 นี้ ซึ่งเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการขับเคลื่อนการส่งออกและท่องเที่ยว

‘บาทแข็ง’ สวนทางเป้าหมายการส่งออก

โดยตัวเลขการค้าล่าสุดสะท้อนภาพชัดเจนถึงความเปราะบางของเศรษฐกิจไทย โดยในปี 2567 ประเทศไทยมียอดการส่งออกอยู่ที่ 300,739.79 ล้านดอลลาร์ แต่ขาดดุลการค้าไปถึง 4,782.99 ล้านดอลลาร์ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการ SME ที่มีมูลค่าการส่งออกเพียง 11% ของมูลค่ารวม แต่กลับขาดดุลการค้ามากถึง 4,632.65 ล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ สถานการณ์ดูเหมือนจะดีขึ้นเล็กน้อยในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2568 เมื่อภาพรวมการส่งออกของประเทศเกินดุลเล็กน้อยที่ 259.89 ล้านดอลลาร์ แต่ในกลุ่ม SME กลับยังคงขาดดุลการค้าอย่างหนักที่ 6,182.73 ล้านดอลลาร์ ชี้ให้เห็นว่าแม้ต้นทุนการนำเข้าวัตถุดิบจะลดลง แต่รายได้จากการส่งออกก็หดหายไปอย่างน่าใจหาย

ท่องเที่ยวซบเซา 'บาทแข็ง-จีนถอย'

อีกหนึ่งเครื่องจักรสำคัญของเศรษฐกิจอย่างภาคการท่องเที่ยวก็อยู่ในภาวะน่าเป็นห่วง ตัวเลข 8 เดือนแรกของปี 2568 พบว่า มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง 7% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา หนึ่งในปัจจัยสำคัญคือเงินบาทที่แข็งค่า ทำให้ค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวสูงขึ้น นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยจากเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวและการที่เวียดนามใช้กลยุทธ์เชิงรุกเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจีน ทำให้เวียดนามมีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นถึง 44% หรือ 3.5 ล้านคน ขณะที่ไทยมีนักท่องเที่ยวจีนเพียง 3.1 ล้านคนเท่านั้น

นายแสงชัย กล่าวย้ำว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งสร้างยุทธศาสตร์ใหม่ ไม่ใช่แค่ดึงต่างชาติให้เข้ามา แต่ต้องสร้างภาพลักษณ์ที่แตกต่างด้วยศิลปวัฒนธรรม อาหาร และมวยไทย พร้อมทั้งใช้ภาพยนตร์และซีรีส์เป็นเครื่องมือในการโปรโมท รวมถึงการส่งเสริมให้ธุรกิจท่องเที่ยวปรับตัวด้วยการเข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ

พลิกวิกฤติเป็นโอกาส 'ลดต้นทุน-เร่งลงทุน'

อย่างไรก็ตาม เงินบาทที่แข็งค่าก็ถือเป็นโอกาสทองของธุรกิจที่พึ่งพาการนำเข้า เช่น ภาคการเกษตรที่ต้นทุนนำเข้าปุ๋ยเคมีจะลดลง ภาคพลังงานที่มีต้นทุนนำเข้าน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่ถูกลง รวมถึงภาคการก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ที่การนำเข้าวัสดุอุปกรณ์จะมีราคาที่ต่ำลง นอกจากนี้ ยังเป็นจังหวะที่ภาครัฐและเอกชนควรเร่งลงทุนนำเข้าเทคโนโลยีและเครื่องจักรใหม่ๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

ท้ายที่สุดแล้ว ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่การทำงานของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกระทรวงการคลัง ในการบริหารจัดการค่าเงินให้มีความสมดุล เพื่อให้เศรษฐกิจไทยสามารถขับเคลื่อนต่อไปได้ และทำให้คำกล่าวที่ว่า “อยากให้เศรษฐกิจไทยแข็ง(แรง)มากกว่าค่าเงินบาท” เป็นจริงเสียที

 

 

ที่มา…  https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1199469

 


OVERMoney