คิดเป็น เห็นก่อน

AOT หุ้นฟอร์มเทพ คาดได้งานบริหารสนามบินอุดรธานีและ...ตาก??

เมื่อมีคนขายก็ต้องมีคนซื้อจึงจะเป็นตลาดที่ดูดี เหมือนอย่างตลาดหุ้นไทยในเวลานี้ แม้จะมีแรงขายหุ้นออกมาแต่ก็มีแรงรับซื้ออยู่ตลอดเช่นกัน เพียงแต่คนซื้อก็อยากจะได้ของถูกลงหน่อยก็เพียงถอยตั้งรับซื้อหุ้นต้นทุนถูกเข้าพอร์ต ส่วนคนขายก็พอมีกำไรจากราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาก็ขายออกมาบ้าง ดีไม่ดีกลับไปตั้งรับเอาหุ้นคืนในราคาต่ำกว่าที่ขายได้กินส่วนต่างราคากันพุงกาง

AOT หรือ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) การซื้อขายกลับมาคึกคักราคามีการปรับตัวขึ้นโดดเด่นด้วยปริมาณการซื้อขายที่หนาแน่นผิดปกติ หลังจากที่ราคาหุ้น AOT มีการปรับฐานมาร่วม 1 เดือน เนื่องจากมีข่าวว่า กรมท่าอากาศยานไทยเตรียมให้ AOT เข้าบริหารท่าอากาศยานอุดรธานี และท่าอากาศยานตาก ซึ่งต้องมีการลงทุนเพิ่มทั้งการพัฒนาอาคารผู้โดยสาร และขยายรันเวย์ โดยคาดจะใช้เงินลงทุนรวม 8 พันล้านบาท เพื่อพัฒนาเป็นฮับทางการบินภาคตะวันตกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

ทั้งนี้การเข้าไปลงทุนเพื่อบริหารสนามบินทั้ง 2 แห่งดังกล่าว หากเป็นที่ท่าอากาศยานอุดรธานี น่าจะไม่มีปัญหาให้ต้องกังวลอะไร เพราะปริมาณผู้โดยสารน่าจะหนาแน่นและมีการขยายตัวที่ดีในอนาคต แต่สำหรับท่าอากาศยานตาก นั้นน่าจะต้องตั้งคำถามต่อไปว่าจะคุ้มค่าในการเข้าไปลงทุนครั้งนี้หรือไม่ เนื่องจากมองที่ปริมาณการความหนาแน่นในการใช้สนามบินตากไม่น่าจะคุ้มค่าในการลงทุนซักเท่าไหร่นัก แต่ก็คงต้องติดตามรอดูความชัดเจนในเรื่องนี้ต่อไป

นอกจากนี้ปริมาณนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางมายังไทยเพิ่มขึ้นหลัง จาก ICAO ปลดธงแดง โดยผู้โดยสารระหว่างประเทศโต 18.7% ในเดือนต.ค. และ 25.8% ในช่วงพ.ย.(ข้อมูล ณ 24 พ.ย.) ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตในระยะยาวของ AOT ได้เป็นอย่างดี ก็คงลุ้นว่าจะวิ่งต่อไปได้ไกลแค่ไหนสำหรับหุ้นฟอร์มเทพตัวนี้

นักลงทุนส่วนใหญ่ต่างต้องการแสวงหาผลตอบแทนจากความคาดหวังที่สูง เพราะทุกคนอยากที่จะประสบความสำเร็จในระยะเวลาอันรวดเร็ว แต่ในความเป็นจริงการลงทุนไม่มีทางลัด นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จล้วนแล้วแต่ผ่านการฝึกฝน ผ่านการลองผิดลองถูก สำเร็จบ้างล้มเหลวบ้าง และมีประสบการณ์มาอย่างโชกโชน

แต่โดยส่วนใหญ่นักลงทุนที่ไม่ประสบความสำเร็จมักจะมีการปฏิบัติในสิ่งที่คล้ายกัน เช่น ใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผลในการตัดสินใจลงทุน นักลงทุนมือใหม่และนักลงทุนหลายคนตัดสินใจลงทุนโดยใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล ฟังคนอื่น ถามคนอื่นฟังข่าวลือ โอกาสผิดพลาดในการลงทุนจึงสูง

มีความมั่นใจในตัวเองมากเกินไป ประเมินความเสี่ยงต่ำเกินไป คาดหวังบนจินตนาการมากกว่าความเป็นจริง ไม่กล้าที่จะยอมตัดขาดทุนเมื่อผิดทาง ไม่อดทนที่จะมีกำไรสูงสุด ซึ่งมักทำสิ่งตรงกันข้าม โดยขายหุ้นที่ดีมีกำไรออกไป กำไรช่อง 2 ช่อง โดยกลัวว่าหุ้นจะกลับมาลง แต่กลับไม่กล้าขายหุ้นแย่ขาดทุนออกไป (ไม่ขาย ไม่ขาดทุน) โดยคาดหวังว่าหุ้นจะกลับขึ้นมามีกำไรโดยขาดข้อเท็จจริง

ตื่นตกใจเกินกว่าเหตุ เมื่อยามที่ตลาดเกิดปัจจัยกระทบที่ส่งผลต่อตลาดอย่างรุนแรง จากเหตุการณ์หรือข่าวลือ ที่ไม่ได้ส่งผลต่อพื้นฐานที่แท้จริงของหุ้นที่เราลงทุนให้เปลี่ยนแปลงไปมักจะรีบเทขายหุ้นออกไปโดยขาดการไตร่ตรองที่รอบคอบเมื่อเหตุการณ์คลี่คลายกลับสู่ภาวะปกติ ถ้าฐานะทางการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัทยังดีอยู่เป็นปกติในขณะที่ราคาหุ้นลดลง คนที่กล้าและมั่นใจในพื้นฐานของกิจการจะเข้าไปช้อนซื้อหุ้นไว้แล้วรอคอยตลาดพลิกกลับจึงได้กำไรมหาศาลภายในระยะเวลาอันสั้น ในวิกฤตมักมีโอกาสอยู่เสมอ

สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นจุดอ่อนของนักลงทุนที่ยังไม่ประสบความสำเร็จ อยู่ที่ใครจะสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการลงทุน กำจัดจุดอ่อนเหล่านี้ให้หมดไป ก็จะสามารถสร้างผลตอบแทนคืนกลับที่ดีได้จากการลงทุนครับ