ห้องเม่าปีกเหล็ก

ส่องพื้นฐาน 6 หุ้นเด่น

โดย ปั่นปลูกปลูกปั่น
เผยแพร่ :
270 views

ส่องพื้นฐาน 6 หุ้นเด่น

คว้า ESG Ratings ระดับ AAA

.

เมื่อไม่นานมานี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปลี่ยนชื่อหุ้นยั่งยืน THSI (Thailand Sustainability Investment) เป็น SET ESG Ratings พร้อมยกระดับการประกาศผลในรูปแบบของเรตติ้ง โดยแบ่งเป็น 4 ระดับ คือ AAA, AA, A และ BBB เพื่อเป็นข้อมูลให้แก่ผู้ลงทุนเพิ่มขึ้น

.

ทั้งนี้บริษัทที่ผ่านเกณฑ์และได้รับการประกาศผลประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ปี 2566 มีจำนวน 193 บริษัท แบ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในระดับ AAA (คะแนนรวม 90-100) จำนวน 34 บริษัท ส่วนระดับ AA (คะแนนรวม 80-89) จำนวน 70 บริษัท ระดับ A (คะแนนรวม 65-79) จำนวน 64 บริษัท และระดับ BBB (คะแนนรวม 50-64) จำนวน 25 บริษัท

.

และล่าสุดกระทรวงการคลังเตรียมจัดตั้ง Thailand ESG Fund หรือ กองทุนรวมเพื่อความยั่งยืน โดยเตรียมยกร่างประกาศการจัดตั้ง TESG และคาดว่าจะนำลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาช่วงต้นเดือนธันวาคม 2566 และหากมีผลบังคับใช้ ก.ล.ต. ก็จะสามารถอนุมัติการจัดตั้งได้ภายในต้นเดือนธันวาคม 2566 และผู้ลงทุนสามารถได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจากการลงทุนในกองทุนรวมดังกล่าวในปีภาษี 2566 ได้

.

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด มีความเห็นว่า กองทุน Thailand ESG Fund จะเริ่มขายวันที่ 1 ธ.ค. 66 ซึ่งจะเข้ามามีบทบาทเป็นกองทุน ลดหย่อนภาษีในปี 2566 ถึง 2575 และในระยะยาวเข้ามาทดแทนกองทุน SSF ที่จะหมดอายุสิ้นปี 2567 ดังนั้นการลงทุนของกองทุนน่าจะเอนเอียงไปในหุ้น หรือตราสารหนี้ที่ให้ความสำคัญกับเรื่อง ESG มากขึ้น

.

ดังนั้นในครั้งนี้ Wealthy Thai จะพามาสำรวจบริษัทที่ได้ SET ESG Ratings ในระดับ AAA ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์กันว่า อาจจะเป็นเป้าหมายกองทุน Thailand ESG Fund แต่ในเชิงปัจจัยพื้นฐานจะมีความน่าสนใจแค่ไหน บทความนี้มีคำตอบให้แล้ว โดยจะยกตัวอย่าง 6 บริษัท ที่ได้ SET ESG Ratings ในระดับ AAA ที่นักลงทุนถามเข้ามาบ่อยๆ

.

เริ่มกันที่ PTT นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คงคำแนะนำ TRADING ราคาเหมาะสม 36.50 บาท หุ้นมีจุดเด่นด้านเงินปันผล Yield เกือบ 6% ต่อปี และความมั่นคงจากธุรกิจครบวงจร รวมทั้ง Upside เชิง Sentiment หากภาครัฐอนุมัติจัดตั้งกองทุน ESG

.

ต่อกันที่ BANPU นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) มีความเห็นว่า อุปสงค์ถ่านหินช่วงไฮซีซั่นก่อนฤดูหนาวน่าจะเป็นปัจจัยหนุนราคาถ่านหินและราคาหุ้น นอกจากนี้อาจมีอัพไซด์ต่อกำไรระยะยาวของบริษัทจากการลงทุนใหม่ในธุรกิจพลังงานอัจฉริยะ (BanpuNEXT) มูลค่าหุ้นปัจจุบันยังคงถูก จึงแนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" ราคาเป้าหมาย 8.80บาท

.

ตามด้วย PTTGC นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) คาดผลการดำเนินงานหลักจะพลิกกลับเป็นกำไรในไตรมาส 4/66 เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน หนุนโดยกำไรจากธุรกิจอะโรเมติกส์และธุรกิจโอเลฟินส์ที่เพิ่มขึ้น (ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์บางประเภทปรับตัวสูงขึ้น) แต่คาดว่ากำไรหลักจะลดลงจากไตรมาสก่อน เพราะกำไรที่ลดลงจากธุรกิจโรงกลั่น (ค่าการกลั่นที่ลดลง) และธุรกิจโอเลฟินส์ (การหยุดซ่อมบำงตามแผน)

.

ถึงแม้ว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานหลักไตรมาส 4/66 จะไม่น่าตื่นเต้น แต่มูลค่าหุ้นที่ยังต่ำน่าจะช่วยจำกัดความเสี่ยงขาลงของราคาหุ้น สำหรับในระยะยาวการเข้าซื้อกิจการ Allnex จะเป็นก้าวแรกของ PTTGC ในการเปลี่ยนพอร์ตโฟลิโอให้มีผลิตภัณฑ์ชนิดพิเศษมากขึ้น จะช่วยเพิ่มความสามารถการทำกำไรและผลประกอบการในระยะยาว จึงคงคำแนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมาย 44 บาท

.

ถัดมา CPALL นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) คงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 76 บาท เลือกให้เป็นหุ้นเด่นกลุ่มค้าปลีก จากกำไรไตรมาส 3/66 โตดีและทิศทางกำไรไตรมาส 4 ที่จะปรับขึ้นเด่นต่อทั้งร้านสะดวกซื้อและค้าปลีก (CPAXT) หนุนกำไรทั้งปีจะโต 29% รวมทั้ง Valuation อยู่ในโซนถูก หลังราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายบน PE ปี 67 เพียง 24-25 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอดีตราว -2.0SD

.

ADVANC นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด มองว่า ภาพรวมการควบรวมกิจการเป็นบวกต่อกระแสเงินสดในระยะยาว แม้ระยะสั้น ADVANC อาจได้รับผลกระทบทางบัญชีกดดันงบกำไรขาดทุนบ้างแต่คาดว่าบริษัทจะบริหารจัดการได้

.

อย่างไรก็ดีผลบวกระยะยาวของดีลควบรวมกิจการ อยู่ในประมาณการของฝ่ายวิจัยและตลาดแล้ว ส่วนต่างหลักๆที่อาจจะเกิดขึ้นคือการบันทึกบัญชี ซึ่งไม่มีนัยสำคัญกับกระแสเงินสด คงประมาณการและราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2567 ที่ 255 บาท แนะนำ “ซื้อ”

.

ปิดท้ายที่ WHA นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 5.40 บาท คาดว่ายอดขายที่ดินจะสูงถึง 2,750 ไร่ปีนี้และ 3,000 ไร่ปีหน้า สนับสนุนด้วย MOU/LOI 991 ไร่ และอีกหลายพันไร่อยู่ระหว่างการเจรจา ผลการดำเนินงานธุรกิจโลจิสติกส์จะดี โดยได้รับการสนับสนุนจากการขายสินทรัพย์ในไตรมาส 4/66

.

แม้ว่าการเซ็นสัญญาเช่ารายใหม่บางโครงการจะเลื่อนไปเป็นปีหน้าก็ตาม กำไรธุรกิจโรงไฟฟ้าอาจลดลงในไตรมาส 4/66 แต่กำไรจะฟื้นตัวในปี 67 นอกจากนี้มีการพัฒนาเชิงบวกในประเด็นที่รอดำเนินการหลายประเด็น และ WHA จะเซ็นสัญญาร่วมทุน ขนาดใหญ่ในด้านโลจิสติกส์ คงคำแนะนำ ซื้อ

 

 

 


ปั่นปลูกปลูกปั่น