ห้องเม่าปีกเหล็ก

เมื่อโลกธุรกิจเปลี่ยนกติกา แล้วธุรกิจของคุณยังเล่นตามกติกาเดิมอยู่หรือไม่?

โดย ปาฏิหาริย์
เผยแพร่ :
35 views

ในวันที่โลกเปลี่ยนเร็วเกินกว่าที่จะคาดคิด

ธุรกิจของคุณยังเล่นตามกติกาเดิมอยู่หรือไม่?

.

 

ครึ่งปีแรกของ 2025 อาจเป็นช่วงเวลาที่ผู้ประกอบการไทยเริ่มรู้สึกว่ามีแรงสั่นสะเทือน จากทั้งเศรษฐกิจในประเทศและระดับโลกเริ่มใกล้ตัวมากกว่าที่ผ่านมา ไม่ใช่แค่ยอดขายที่หายไป แต่เป็น "บริบท" ของการแข่งขัน ที่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ธุรกิจที่อยู่รอดไม่ใช่แค่เก่งที่สุด แต่ต้อง "เข้าใจกติกาใหม่" ให้ทันเกมก่อนที่จะเปลี่ยนครั้งถัดไป

.

คุณยอด ชินสุภัคกุล CEO ของ LINE MAN Wongnai เปิดเผยว่า "ตลาดร้านอาหาร" ตอนนี้ยอดขายลดลงทั้งระบบ บางร้านลดลงมากถึง 70% รวมไปถึงข้อมูลจากสมาคมภัตตาคารไทยระบุว่า ยอดขายบางร้านหายไป จากวันละ 50,000 บาท เหลือเพียง 20,000 บาท

.

นอกจากนี้ ต้นทุนวัตถุดิบพุ่งสูงขึ้น 25%, ค่าแรงเพิ่มขึ้นอีก 5% แต่นักท่องเที่ยวกลับลดลงกว่า 1.8% ส่งผลให้ร้านอาหารมากกว่า 50% ต้องปิดตัวลงหลังเปิดใหม่ได้เพีย'แค่ 1 ปี ดังนั้นสิ่งที่คุณยอดแนะนำคือข้อมูลว่าลูกค้ามองหาอะไรจากร้านอาหาร นั่นก็คือ

- ช่องทางการสั่งซื้อที่หลากหลาย

- รองรับการชำระเงินหลายรูปแบบ

- ความรวดเร็วในการให้บริการ

- การจัดการคิวที่ดี และเป็นระบบ

- ความสะดวกในการใช้บริการ

.

และคุณยอดได้แนะนำทางรอดของร้านอาหาร ประกอบด้วย

- ใช้เทคโนโลยี: เพิ่มยอดขายและลดรายจ่าย

- ทำเพื่อขยาย: ปรับรูปแบบและขยายเพื่อเติบโต

- การเข้าถึงแหล่งเงินทุน: เพื่อสนับสนุนการเติบโต

- ความช่วยเหลือจากภาครัฐ: ช่วยเหลืออย่างเป็นระบบ ตามขนาดของร้านค้า

.

ในภาพใหญ่ ระดับมหภาค

คุณจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา CEO ของ Bitkub

แชร์ว่า "โลกกำลังกลายพันธุ์" (The World is Mutating)

.

เพราะจากในอดีตจนถึงปัจจุบัน เราเข้าใจว่า "สหรัฐอเมริกา" คือมหาอำนาจอันดับ 1 และ เรามักจะได้ยินคำว่า "โลกาภิวัตน์ (Globalization)" มีตัวกลางในการเจรจาปัญหาต่าง ๆ ของโลก ซึ่งต่อจากนี้โลกจะกลายพันธ์ุ โดยสลับเป็นขั้วตรงข้ามกับสิ่งที่เราเข้าใจทั้งหมด เช่น สหรัฐอเมริกา จะไม่ได้เป็นเบอร์ 1 อีกต่อไป เพราะมีจีน ที่เข้ามาเพื่อแย่งชิงตำแหน่ง เป็นต้น

.

กติกาการแข่งขันเปลี่ยนไป จากเดิมต้อง "ถูกและดี"

ต่อไปก็จะกลายเป็น

"Green แค่ไหน"

"ผลิตที่ไหน"

"มีความสัมพันธ์ทางการค้ากับใคร"

.

โดยเฉพาะจีน ที่กำลังเป็นที่น่าจับตามอง เพราะมีจุดแข็งครบทั้ง

- Open Source อย่าง AI ที่ชื่อว่า "DeepSeek" และอีกหลายตัว

- Data ซึ่งจีนเป็นประเทศที่มีข้อมูลมากที่สุดในโลก

- Government-Backed Tech เป็นการสนับสนุนและบังคับโดยภาครัฐ

ซึ่งเมื่อสิ่งเหล่านี้มารวมกัน จีนจะเติบโตแบบ "พุ่งทะยาน"

.

สุดท้ายสิ่งที่ทั้งสองท่านอยากฝากไปถึงนักธุรกิจคือ

- รถไฟขบวนใหม่มันค่อนข้าง "เร็วและแรง" โดยเฉพาะเรื่องของ AI ดังนั้น บริษัทส่วนใหญ่ต้องเป็น AI Frist หรือ AI Driven หมายความว่า องค์กรต้องมี AI เป็นส่วนประกอบ และตอบคำถามให้ได้ว่า เมื่อ AI มาทำงานช่วยหรือแทนบางอย่างได้ แล้วคนจะอยู่ตรงไหน?

.

- บริษัทหลายบริษัทโดยเฉพาะที่เป็นสมาชิกของ WEF (World Economic Forum) มีนโยบายไม่รับพนักงานใหม่ และถ้าจะเสริมประสิทธิภาพ จะเลือกเสริมด้วย AI ไม่ใช่คน

.

- "ความเร็ว" (Speed) ไม่สำคัญเท่า "ทิศทาง" (direction) ที่จะไป โดยเฉพาะการติดตามทิศทางของโลก และสิ่งสำคัญคือเรื่องของ "การเงิน" ต้องพิจารณารูปแบบในการเก็บเงิน นอกจากต้องรู้ว่าธุรกิจที่เราทำ ทำเพื่อตอบโจทย์โลกยุคเก่า (Post World Order) หรือตอบโจทย์โลกยุคใหม่ (Pre-somthing World)

.

- คนที่จะตกงานในอนาคต คือคนที่ใช้ AI ไม่เป็น ดังนั้น ทุกคนควรปรับ AI เข้าไปสู่ Workflow และ Lifeflow ซึ่งเปรียบเทียบให้เห็นภาพ ถ้ามีคนนึงที่อยู่ข้างตัวเราตลอดเวลา ฉลาดกว่าคนที่จบ MIT ทำงานได้ 24 ชั่วโมง ตลอด 7 วัน ยิ่งใช้เขาทำงาน เขายิ่งฉลาด แต่จ้างเขาแค่ไม่ถึงหลักพันต่อเดือน เราจะจ้างเขาหรือไม่?

.

.

เรียบเรียงโดย: THE INSIDER

 

 

ขอบคุณที่มาเนื้อหาจาก.. เพจTHE INSIDER - ดิ อินไซเดอร์


ปาฏิหาริย์