ห้องเม่าปีกเหล็ก

JMT หุ้นบริหารหนี้ยอดนิยม กูรูชี้

โดย พญาหงส์
เผยแพร่ :
65 views

JMT หุ้นบริหารหนี้ยอดนิยม กูรูชี้กำไรยังโตต่อเนื่อง แนะ ซื้อ รอจังหวะราคาหุ้นย่อตัว

JMT เป็นหนึ่งในหุ้นบริหารสินทรัพย์ยอดนิยมของนักลงทุน จากแนวโน้มการดำเนินงานที่เติบโตต่อเนื่อง ล่าสุดบริษัทได้เปิดแผนธุรกิจของ JK AMC ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง JMT กับ KBANK ซึ่งผู้บริหารคาดว่าปีนี้จะสามารถซื้อหนี้จาก KBANK เข้ามาบริหารได้ถึง 50,000 ล้านบาท ช่วยสร้างการเติบโตแบบ J curve ให้กับ JMT


ดังนั้น Wealthy Thai จึงเกิดข้อสงสัยว่า ด้วยแนวโน้มกำไรที่จะเติบโตต่อเนื่องตามการบริหารหนี้เสียที่เพิ่มขึ้น แต่ราคาหุ้นตั้งแต่ต้นปีก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาแล้ว 6.93% หากนักลงทุนมือใหม่สนใจที่จะเข้าลงทุนหุ้น JMT เป็นหุ้นตัวแรก ปัจจุบันยังเข้าลงทุนได้หรือไม่ และมีความเสี่ยงอะไรที่ต้องระมัดระวังบ้าง


ซึ่งนักวิเคราะห์ที่จะมาให้คำตอบกับเราก็คือ คุณชาญชัย พันทาธนากิจ รองผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส โดยให้มุมมองกับ Wealthy Thai ว่า หากประเมินมุมมองธุรกิจในด้านของ Earnings ที่บล.เอเซีย พลัส ทำไว้ JMT หรือ บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในหุ้นที่กำไรมีแนวโน้มเติบโตตามหนี้เสีย (NPL) ในระบบที่มีโอกาสเร่งตัวขึ้น อีกทั้งบริษัทยังได้รับปัจจัยบวกจากการเข้าร่วมทุนกับธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ในการจัดตั้ง บริษัทบริหารสินทรัพย์ เจเค จำกัด หรือ JK AMC เพื่อบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพของธนาคารกสิกรไทยและสถาบันการเงินอื่นๆ ซึ่งการซื้อหนี้เข้ามาบริหารได้มากขึ้นจะส่งผลบวกต่อการดำเนินงานของ JMT เช่นกัน


แต่ในด้านของราคาหุ้น ราคาเป้าหมายปัจจุบันที่บล.เอเซีย พลัส ให้ไว้ที่ 80 บาท ซึ่งหากเทียบกับราคาหุ้นปัจจุบันอยู่ที่ราว 75 บาท คิดเป็นอัพไซด์ประมาณ 7% มองว่าค่อนข้างแคบ ดังนั้นหากนักลงทุนมือใหม่สนใจเข้าซื้อหุ้น JMT แนะนำให้รอจังหวะที่ราคาหุ้นย่อตัวและมีอัพไซด์มากกว่า 10% ขึ้นไปค่อยเข้าลงทุน


โดยแนวโน้มการดำเนินงานของ JMT บล.เอเซีย พลัส ได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2565-2566 ขึ้น 0.2% และ 5.5% ตามลำดับ เพื่อสะท้อนการรวมผลบวกของ JK เข้ามา โดยภายหลังปรับเพิ่มประมาณการ คาดกำไรสุทธิปี 2565-2566 ของ JMT จะเพิ่มขึ้นถึง 46% และ 42% จากธุรกิจบริหารหนี้เติบโตต่อเนื่อง กำหนดราคาเป้าหมาย ปี 2565-2566 เท่ากับ 80 บาท และ 100 บาท แนะนำซื้อลงทุนระยะกลางถึงยาว


ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่ต้องระวัง คือ หากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวลงอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ ซึ่งอาจทำให้บริษัทบริหารจัดการและจัดเก็บหนี้ได้ยากขึ้น รวมถึงความไม่แน่นอนของกฏเกณฑ์ภาครัฐ หากมีความเข้มงวดมากขึ้นก็อาจเป็นความเสี่ยงต่อบริษัทได้ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังไม่เห็นความเสี่ยงจากปัจจัยข้างต้น

 


พญาหงส์