ดาวโจนส์บวกกว่า 100 จุด ขานรับสหรัฐระงับเก็บภาษีเม็กซิโก, เก็งเฟดลดดอกเบี้ยเดือนหน้า :
ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวกว่า 100 จุด ขานรับการที่สหรัฐระงับการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโก รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่จีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ณ เวลา 20.40 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 26,166.80 จุด บวก 104.12 จุด หรือ 0.40%
ดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 7 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นการทำสถิติช่วงขาขึ้นที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งในขณะนั้น ดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 8 วันติดต่อกัน
ราคาหุ้นในกลุ่ม FAANG (เฟซบุ๊ก แอปเปิล อเมซอน เน็ตฟลิกซ์ และอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล) ต่างทะยานขึ้นในวันนี้
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า การจัดเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกจะถูกระงับโดยไม่มีกำหนด ขณะที่เขาแสดงความเชื่อมั่นว่า เม็กซิโกจะทำการกวาดล้างผู้อพยพผิดกฎหมายจากอเมริกากลาง
นายมาร์เซโล เอบราร์ด รัฐมนตรีต่างประเทศเม็กซิโก เปิดเผยว่า รัฐบาลเม็กซิโกจะส่งทหาร 6,000 นายเข้าไปประจำการในพื้นที่ชายแดนตอนใต้ซึ่งอยู่ติดกับกัวเตมาลา เพื่อสกัดกั้นการหลั่งไหลของผู้อพยพ
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศเรียกเก็บภาษีต่อสินค้าทั้งหมดที่นำเข้าจากเม็กซิโก ในอัตรา 5% โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย. และจะเพิ่มขึ้นทุกเดือนจนแตะระดับ 25% ในวันที่ 1 ต.ค. ถ้าเม็กซิโกไม่สามารถสกัดการหลั่งไหลของผู้อพยพผิดกฎหมายที่ข้ามพรมแดนเข้าสู่สหรัฐ
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันที่ 18-19 มิ.ย.
อย่างไรก็ดี FedWatch ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาฟิวเจอร์อัตราดอกเบี้ยสหรัฐของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาส 79% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือน ก.ค. และมีโอกาส 90% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. และมีโอกาส 97% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือน ธ.ค.
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดวันนี้พุ่งขึ้นกว่า 2% หลังจากที่หน่วยงานท้องถิ่นของรัฐบาลได้รับการอนุมัติให้นำรายได้จากการจำหน่ายพันธบัตรพิเศษไปใช้ในโครงการการลงทุนขนาดใหญ่เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศ
ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ค.เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนเม.ย.
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI เพิ่มขึ้น 1.8% ในเดือนพ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 2.2% ในเดือนเม.ย.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนี PPI จะปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน และดีดตัวขึ้น 2.0% เมื่อเทียบรายปี
ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหาร, พลังงาน และภาคบริการ เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนพ.ค. สอดคล้องกับเดือนเม.ย.
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI พื้นฐานเพิ่มขึ้น 2.3% หลังจากเพิ่มขึ้น 2.2% ในเดือนเม.ย.
หมายเหตุ : 1) ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 11 มิถุนายน 2562 21:13:13 น.
2) โปรดติดตามการ Long และ Short Set 50 Index Futures ในระยะยาวได้ใน longtunbysak.blogspot.com
The Federal Open Market Committee on Friday announced its tentative meeting schedule for 2019 :
January 29-30 (Tuesday-Wednesday)
March 19-20 (Tuesday-Wednesday)
April 30-May 1 (Tuesday-Wednesday)
June 18-19 (Tuesday-Wednesday) ( Hold )
July 30-31 (Tuesday-Wednesday) ( 79% )
September 17-18 (Tuesday-Wednesday) ( 90% )
October 29-30 (Tuesday-Wednesday)
December 10-11 (Tuesday-Wednesday) ( 97% )
January 28-29, 2020 (Tuesday-Wednesday)
The Chairman's quarterly news conferences will take place following the March, June, September, and December meetings.